Dating App อาจไม่ใช่คำตอบของ Gen Z ในการหาคนรู้ใจอีกต่อไป เห็นได้จากตัวเลขผู้ใช้งานที่ Match Group ผู้พัฒนาแอปอย่าง Tinder, OkCupid, Hinge เปิดเผยออกมา และพบว่ามีผู้ใช้งานลดลงอย่างต่อเนื่อง (จาก 14.9 ล้านรายในไตรมาส 4 ของปี 2024 เหลือ 14.2 ล้านรายในไตรมาส 1 ของปีนี้)
ไม่เพียงเท่านั้น ราคาหุ้นของ Match Group ยังลดลงถึง 68% เมื่อเทียบกับเมื่อห้าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของแอปหาคู่ลดลงมากถึง 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์นี้น่าติดตามก็คือ แอปหาคู่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ Gen Z ได้เหมือนที่เคยทำกับผู้บริโภคเจเนอเรชั่นอื่น ๆ ในอดีต โดยมีการพบว่า Gen Z เริ่มหันไปใช้วิธีอื่นในการทำความรู้จักกัน เช่น ส่งข้อความส่วนตัวใน Reddit, การหันไปใช้แพลตฟอร์มใหม่ ๆ อย่าง Bluesky ฯลฯ แทน
7 ใน 10 เจอโปรไฟล์ “ไม่ตรงปก”
ทั้งนี้ จากการศึกษาของ Pew Research พบว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่อยากเข้าแอปหาคู่มากเท่าในอดีต มี 3 ข้อหลัก ๆ นั่นคือ
- การโกหกหลอกลวง ที่พบว่า 7 ใน 10 ของผู้ใช้งานเคยเจอคนที่ไม่ตรงปก ปิดบังข้อมูลจริงในโปรไฟล์
- การถูกคุกคาม โดยจุดนี้เป็นผู้หญิง (อายุ 18 – 49 ปี) ถึง 66% ยอมรับว่า ถูกคุกคามหลังจากเข้าใช้งานแอปหาคู่
- ได้รับภาพที่ไม่เหมาะสมโดยที่ไม่ได้ร้องขอ โดยข้อนี้พบว่ามีมากถึง 56%
(การศึกษาของ Pew Research ทำขึ้นในระหว่างวันที่ 5 – 17 กรกฎาคม 2022 ในกลุ่มผู้ใช้งานชาวอเมริกัน)
แล้วคนรุ่นใหม่สร้างความสัมพันธ์กันอย่างไร
นอกจากการเบนเข็มจากแอปหาคู่ คนรุ่นใหม่ก็มีวิธีการในแบบของตนเองเพื่อให้เจอคนรู้ใจเช่นกัน เช่น การเข้าชมรมวิ่ง การไปนัดบอดแบบออฟไลน์ที่นัดผ่านแอปออนไลน์ ฯลฯ หรือบางครั้งก็เป็นการพบกันที่แหวกแนวสุด ๆ ไปเลย เช่น เจอกันใน Reddit ในห้อง erotic ก่อนจะมาสานต่อความสัมพันธ์กันในโลกจริง เป็นต้น
แต่ส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ เส้นกั้นระหว่างโลกออฟไลน์และออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่นั้นบางเฉียบเอามาก ๆ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาแทบจะใช้ทั้งสองโลกเป็นเครื่องมือในการหาคนรู้ใจไปพร้อมกัน โดยที่ไม่ได้แยกมันอีกต่อไปแล้วนั่นเอง และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ รายได้ของ Match Group ในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงถึง 3% เหลือ 831 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งความไม่ฮอตฮิตของแอปหาคู่จะส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างไรต่อไป อาจต้องติดตามจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้