HomeReal Estate & Condoอสังหาฯแย่แต่ยังมีโอกาส “ศุภาลัย” โฟกัสวินัยการเงิน เจาะช่องว่างตลาด สร้าง Success Story

อสังหาฯแย่แต่ยังมีโอกาส “ศุภาลัย” โฟกัสวินัยการเงิน เจาะช่องว่างตลาด สร้าง Success Story

แชร์ :

สถานการณ์โลกปัจจุบันมีหลายปัจจัยกระทบธุรกิจ ทั้งการจัดระเบียบโลกด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน ปัจจัยภายในจีดีพีเติบโตต่ำ กระทบกำลังซื้อของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการซื้อ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจ “ทำอย่างไรให้ธุรกิจมั่นคง ในวันที่โลกสั่นคลอน”  

ในงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 หรือ CTC 2025 คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย แบรนด์ไทยที่ยืนหยัดมากว่า 36 ปี ผ่านวิกฤติทั้งเศรษฐกิจ-โรคระบาด-แผ่นดินไหว ให้มุมมองการฝ่าวิกฤติให้อยู่รอดและสร้างโอกาสการเติบโตในช่วงที่โลกสั่นคลอน

สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเห็นได้ว่าอสังหาฯ ถูกกระทบเต็มๆ ทั้งปัจจัยลบภายนอกและในประเทศแบบเจอรอบด้าน  แต่ปีนี้ยังไม่แย่เท่ากับวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ถือว่าหนักสุดของอสังหาฯ จากสถิติการซื้อที่อยู่อาศัยที่ลดลงเยอะแต่หลังวิกฤติกลับมาเติบโตได้สูง

ส่วนสถานการณ์โควิดกำลังซื้ออสังหาฯ เริ่มกลับมาเป็นบวกแต่ยังไม่มาก  ขณะที่ปัจจุบันภาระหนี้ครัวเรือนแทบทำสถิติสูงสุด (All Time High) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อกำลังซื้ออสังหาฯ

โฟกัสวินัยการเงิน

ดังนั้นการบริหารธุรกิจในวันที่ปัจจัยลบรุมเร้า ต้องโฟกัส “วินัยทางการเงิน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสร้างได้ในทันที แต่ต้องสร้างมาอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่ต่ำกว่า 5-10 ปี  เพื่อให้มีสภาพคล่อง มีต้นทุนทางการเงินต่ำที่สุดและบริหารอย่างถูกวิธี  “ศุภาลัย” เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่สามารถทำต้นทุนได้ต่ำที่สุดในตลาด ทำราคาได้ดี และต้องไม่ลืมสร้างความสามารถทางการแข่งขันระยะยาวด้วย เพื่อให้การพัฒนาธุรกิจยังไปต่อได้

นอกจากนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่นในคู่ค้าและลูกค้า เพราะ “ที่อยู่อาศัย” เป็นการใช้เงินก้อนใหญ่ในชีวิตมาซื้อ ดังนั้นหากขาดความเชื่อมั่นไม่ว่าจะเป็นคอนโดที่ส่งมอบไม่ได้ บ้านที่สร้างไม่เสร็จ ก็จะเกิดปัญญาต่อแบรนด์ได้ จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเพื่อโอกาสเติบโตระยะยาว

การทำให้ลูกค้า “ไว้วางใจ” และเชื่อมั่น มีความสำคัญมากในธุรกิจอสังหาฯ แม้ในช่วงเวลายากลำบาก  เพราะปกติยอดขายจากการบอกต่อมีสัดส่วน 15-20% นั่นคือลูกค้าเลือกมาดูโครงการเรารายเดียวก็แถบปิดดีลได้ เพราะไม่สนใจดูโครงการอื่น

อสังหาฯแย่แต่ยังมีโอกาส 

“ไม่ปฏิสธว่าปีนี้ตลาดอสังหาฯ แย่ที่สุดในรอบ 20 ปี ซัพพลายในตลาดน้อยมาก ตัวอย่างวันก่อนมีประชุมเรื่องซื้อที่ดิน เรามีที่ดินที่น่าสนใจ 30 แปลง ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำอสังหาฯ ที่ไม่มีรายอื่นสนใจมาดูที่ดิน” 

ย้อนไปปี 2560 ตลาดคอนโดในกรุงเทพฯและปริมณฑลมียอดขาย 120,000 ยูนิต วันนี้เหลือ 60,000 ยูนิต แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นตัวเลขนี้ไปเรื่อยๆ และจะกลับมาได้ แต่อาจไม่ไปแตะที่ระดับเดิม เมื่อซัพพลายในตลาดค่อนข้างน้อย หากเราสามารถยืนอยู่ในตลาดได้นั่นเท่ากับ “โอกาส”  

สัญญาณตลาดคอนโดลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี คือในปี 2567 มีปริมาณซื้อขายต่ำสุด แต่ “ศุภาลัย” ยังเปิดคอนโดต่อเพราะเห็นโอกาสคู่แข่งน้อยราย จากการขอ EIA ที่ปกติเดือนละ 15 โครงการ ลดลดเหลือ 2 โครงการ เมื่อซัพพลายลดขนาดนี้แต่ดีมานด์ยังมีนั่นคือโอกาส หากบริษัทยังมีสถานะการเงินที่แข็งแรง ซื้อที่ดินได้ แม้ยอดขายยังไม่ดีเท่าเดิม ก็สามารถเพิ่มมาร์เก็ตแชร์และยอดขายได้

“ทุกวิกฤติมีโอกาส” แม้ปีนี้ยากมากสำหรับอสังหาฯ คนที่มีกำลังทรัพย์การเงินพร้อมจะได้เปรียบ แต่ในทุกวิกฤติจะมี “ผู้เล่นหน้าใหม่” เข้ามาสู่ตลาดอสังหาฯ ได้เช่นกัน แต่ผู้ที่คว้าโอกาสได้ คือคนที่ไม่ได้ทำตัวเหมือนคนอื่น แต่เป็นการหาช่องว่างในตลาดที่ยังขาดอยู่  ตัวอย่างที่ผ่านมาเช่นแบรนด์คอนโดเกาะแนวรถไฟฟ้าเน้นความสะดวกเดินทาง  หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว คอนโด โลว์ไรส์ก็จะได้รับความสนใจมากขึ้น

“ดูว่าเรามีจุดแข็งอะไรและหาช่องว่างในตลาด ก็สามารถสร้าง success story ในตลาดอสังหาฯได้”  

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like