ณ เวลานี้ ไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นใด ก็ต้องการ “Work-Life Balance” โดยคำตอบนี้มาจากผลสำรวจของ Randstad บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลที่พบว่าทั้ง Gen Z, Millennials (หรือ Gen Y) และ Gen X ต่างมองว่า การมี “ชีวิต-งาน” ที่สมดุลนั้น เป็นตัวเลือกที่คนทำงานในปัจจุบันต้องการอย่างมากเลยทีเดียว
ข้อมูลดังกล่าวมาจากผลสำรวจ Randstad employer brand research 2025 โดยมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามมากถึง 170,000 คน จาก 32 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, เบลเยี่ยม, อินเดีย, กรีซ, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย ฯลฯ และพบว่า มากกว่า 50% ของพนักงานผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า บริษัทที่ตนเองทำงานอยู่นั้น สามารถทำให้พวกเขามี “work-life balance” ได้ อีกทั้งยังมีเงินเดือนและสวัสดิการในระดับที่พวกเขาพึงพอใจ
สิ่งที่บริษัทพบจากการสำรวจครั้งนี้เพิ่มเติมก็คือทั้ง Gen Z, Millennials และ Gen X ต่างต้องการ Work-Life Balance ในการทำงานทั้งสิ้น และการมี Work-Life Balance คือตัวตัดสินว่า พนักงานจะรู้สึกอย่างไรต่อองค์กร โดย 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า รู้สึกมีส่วนร่วมกับบริษัท – งานของตนเอง และ 48% บอกว่า พวกเขารู้สึกมีแรงจูงใจในการทำงานมากกว่าปีก่อน ในทางตรงกันข้าม 37% ของพนักงานจะรู้สึกว่าตนเองไม่มีส่วนร่วมกับบริษัททันที หากบริษัทไม่สามารถทำให้พนักงานมี Work-Life Balance ได้
David Blasco ผู้อำนวยการของ Randstad Singapore มองว่า บริษัทที่ต้องการรักษา Talent เอาไว้ และทำให้พนักงานที่ยังอยู่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน อาจต้องใช้ประเด็น Work-Life Balance เป็นจุดขาย นอกเหนือจากเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการ และหากต้องการมัดใจ Gen Z สิ่งที่บริษัทต้องมีอาจเป็นนโยบายด้านการให้เกียรติกัน ปฏิบัติตัวต่อกันด้วยความเสมอภาค เพราะประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจจาก Gen Z เป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน
ผลสำรวจนี้ยังพบความแตกต่างระหว่าง Generation ในการหางานด้วย เพราะ Gen Z จะให้ความสนใจกับบริษัทที่มีการฝึกอบรม และมีโอกาสในการเติบโต แต่ถ้าเป็น Gen X จะมองหาบริษัทที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่งนั่นเอง
พบ AI กระทบใจคนทำงาน
การมาถึงของ AI เป็นอีกข้อหนึ่งที่การสำรวจครั้งนี้พบความแตกต่าง โดย Gen X และ Gen Z มีการใช้งาน AI เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า ขณะที่ Gen Y มีการใช้งานลดลง (เมื่อเทียบกับการสำรวจในปี 2024)
อย่างไรก็ดี ความรู้สึกที่ Gen Z มีต่อ AI ก็คือ พวกเขารู้สึกว่ามันเริ่มส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน และ 6% รู้สึกว่า พวกเขาอาจเสียงานนี้ไปเพราะ AI
ซึ่งในมุมของบริษัทเอง การสำรวจนี้กลับพบว่า บริษัทต่าง ๆ มักจะบอกว่าตนเองมี AI ให้พนักงานใช้ หรือเป็นองค์กรที่ใช้ AI ในการขับเคลื่อน เพื่อดึงดูดคนเก่ง ๆ เข้ามาทำงาน โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องการพนักงานในสายดิจิทัลเข้ามาเสริมทัพ
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE