HomeBrand Move !!“โตเกียว-โอซาก้า-ปารีส” ติด Top3 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าร้อน

“โตเกียว-โอซาก้า-ปารีส” ติด Top3 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าร้อน

ด้าน "ญาจาง" จากเวียดนามเริ่มติดโผเมืองฮิต

แชร์ :

“ญาจาง” (Nha Trang) เมืองท่องเที่ยวในเวียดนามเริ่มติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงาน “Travel trends 2025” ของสถาบันวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์มาสเตอร์การ์ด (Mastercard Economics Institute: MEI) ขณะที่เมืองใหญ่ยอดนิยม 3 อันดับแรกของรายงานดังกล่าวยังคงเป็น “โตเกียว-โอซาก้า-ปารีส” ส่วนประเทศไทย ไม่มีจังหวัดใดเลยที่ติดโผเมืองยอดนิยม 15 อันดับแรกในรายงานฉบับนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับ “Travel trends 2025” ฉบับล่าสุดเป็นรายงานเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อนนี้ (มิถุนายน – กันยายน 2025) และมีการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกร่วมด้วย โดยสิ่งที่รายงานดังกล่าวพบก็คือ จีนและอินเดีย คือสองประเทศที่ “ส่งออก” นักท่องเที่ยวมากที่สุดของเอเชีย โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่า และไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการทำวีซ่ามากนัก อาทิ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนยังสนใจจุดหมายปลายทางในแถบเอเชียกลางมากขึ้น เช่น คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถานด้วย

ส่วนนักท่องเที่ยวอินเดีย พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวออกนอกประเทศสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมได้แก่ อาบูดาบี, ฮานอย และบาหลี

MEI ให้เหตุผลของการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียว่า ได้รับแรงหนุนจากการขยายเส้นทางบินตรงและการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อและมีความกระตือรือร้นในการเที่ยวต่างประเทศ

นอกจากนี้ สิ่งที่รายงาน “Travel trends 2025” พบเพิ่มเติมอีก 6 ด้านก็คือ

นักท่องเที่ยวเน้นประสบการณ์มากขึ้น

MEI พบว่า นักท่องเที่ยวเริ่มหันมาใส่ใจกับเรื่องอาหารการกิน การสัมผัสธรรมชาติ และการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแสวงหาประสบการณ์และความทรงจำที่มีคุณค่ามากกว่าการเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวแบบเดิม ๆ ตัวอย่างหนึ่งคือเมืองเกียนยาร์ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีชื่อเสียงจากเมนูหมูย่าง “บาบี กูลิง” (Babi Guling)

ไทยติดอันดับด้าน Wellness

ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวไทยก็พอมียาหอมอยู่บ้าง เมื่อ Wellness Trend Index ของรายงานฉบับนี้ชี้ว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการผ่อนคลายและการดูแลตัวเองลำดับต้น ๆ

กีฬาสามารถหนุนการท่องเที่ยวได้

นอกจากการท่องเที่ยวเพื่อประสบการณ์ การท่องเที่ยวเพื่อชมกีฬายังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างการแข่งขันเทนนิส Australian Open และ Baseball World Series ที่จัดขึ้นในลอสแองเจลิสสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาล การเปิดตัวครั้งแรกของนักเบสบอลสัญชาติญี่ปุ่นชื่อดัง Shohei Ohtani ในการแข่งขัน World Series ทำให้ยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นถึง 91% ซึ่งสูงกว่าการใช้จ่ายข้ามพรมแดนทั่วไปถึง 6 เท่า ชี้ให้เห็นว่าการแข่งขันกีฬาเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้กับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากเหล่าแฟนกีฬาตัวยง

ค่าเงินมีผล

นักท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิกมองการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกที่เที่ยวด้วยเช่นกัน เห็นได้จากเงินเยนที่อ่อนค่าตลอดช่วงปี 2567 มีส่วนสำคัญอย่างมากในการกระตุ้นการท่องเที่ยวขาเข้าของญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มองหาความคุ้มค่า

ที่น่าสนใจคือ การอ่อนค่าของเงินเยนเพียง 1% เมื่อเทียบกับเงินหยวน สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 1.5% นอกจากนี้ ในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาญี่ปุ่นได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน (JPY) ถึง 40% แม้ว่าราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

ภาคธุรกิจเดินทางนานขึ้น

สิ่งที่ MEI พบเพิ่มเติมก็คือ องค์กรขนาดใหญ่ในปัจจุบันเริ่มลดการเดินทางในระดับโลกและหันมาเน้นการเดินทางในภูมิภาคมากขึ้น และระยะเวลาเฉลี่ยของการเดินทางยาวนานขึ้นด้วย สะท้อนถึงความพยายามขององค์กรเหล่านี้ในการบริหารงบประมาณการเดินทางให้คุ้มค่าที่สุด ตัวอย่างเช่น การเดินทางของนักธุรกิจจากสหรัฐฯ มายังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีระยะเวลาเพิ่มขึ้นจาก 8.8 วัน ในปี 2020 มาเป็น 10.2 วัน ในปี 2025

การฉ้อโกงตามแหล่งท่องเที่ยว เรื่องต้องระวัง

ข้อมูลของ MEI พบว่า จำนวนการฉ้อโกงในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่า 28% ในช่วงไฮซีซั่น ลักษณะการหลอกลวงที่พบบ่อย อาทิ การคิดราคาเกินจริงในร้านอาหารและแท็กซี่ บริษัททัวร์ปลอม และการหลอกให้จองที่พัก เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ มาสเตอร์การ์ดได้นำเทคโนโลยีป้องกันการฉ้อโกงขั้นสูงมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นระบบกระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบความปลอดภัยที่ใช้ AI เพื่อคุ้มครองนักท่องเที่ยวจากการถูกฉ้อโกง ทำให้มั่นใจได้ว่านักเดินทางสามารถเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

ด้านคุณเดวิด แมนน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าวเสริมว่า “รายงานฉบับนี้มุ่งนำเสนอแนวโน้มของพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต”


แชร์ :

You may also like