สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) นำโดย ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย Marketing Association of Thailand (MAT) สรุปภารกิจในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมย้ำยังคงเดินหน้าบทบาทของสมาคมฯ เป็น “Marketing
Accelerator” ที่จะผลักดันให้การตลาดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ พร้อมแนะนักการตลาด “มองให้ไกลกว่าการขาย – คิดให้ลึกกว่ากลยุทธ์ -ทำให้จริงจังกว่าคำโฆษณา และกล้ายืนหยัดในจุดยืนของแบรนด์อย่างจริงใจ”
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ กล่าวว่า “ในปีนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาสำคัญ เพราะในปี 2569 สมาคมการตลาดฯ จะก้าวสู่ปีที่ 60 ของการก่อตั้ง จากจุดเริ่มต้นของกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในพลังของการตลาดในฐานะกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม สมาคมฯ
ได้ยืนหยัดตามปณิธานนั้นมาตลอดหกทศวรรษ กับบทบาทการเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านการตลาด ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน
ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ รัฐ นักวิชาการ หรือคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยน และร่วมกันขับเคลื่อนวงการการตลาดของไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็น Marketing Accelerator ที่ผลักดันการตลาดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ”
ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งเศรษฐกิจที่ผันผวน นโยบายการค้าและการเงินที่ยังไม่นิ่ง
ภาวะโลกร้อน ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นและลึกขึ้น นักการตลาดในวันนี้ไม่อาจยึดติดกับสูตรสำเร็จเดิม ๆ ได้อีกต่อไป
ดร.บุรณิน กล่าวว่า นักการตลาดไทยในวันนี้ต้องไม่รอให้โลกกลับมา “ปกติ” แต่ต้องพร้อม ปรับ เปลี่ยน และนำพาแบรนด์ให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความเข้าใจผู้คนมองเห็นโอกาสแม้ในความไม่ชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน
“มองให้ไกลกว่าการขาย คิดให้ลึกกว่ากลยุทธ์ และทำให้จริงจังกว่าคำโฆษณา ต้องเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผู้คน สร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับสังคมและกล้ายืนหยัดในจุดยืนของแบรนด์อย่างจริงใจ”
และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา สมาคมฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาบทบาทของเรา จากเวทีแลกเปลี่ยนมาเป็นพลังขับเคลื่อนที่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ เครื่องมือ ทักษะ และเครือข่าย ที่จำเป็นสำหรับนักการตลาดในทุกระดับ ทั้งผ่านการจัดกิจกรรมที่ตอบโจทย์สถานการณ์จริง
เวทีการเรียนรู้ที่เข้มข้น และการเชื่อมโยงชุมชนวิชาชีพที่หลากหลาย สรุปภารกิจได้ดังนี้
จัดกิจกรรมรวมทั้งสิ้น 10 กิจกรรม 7 งานสัมมนา ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มุ่งเน้นการยกระดับองค์ความรู้ผ่านการจัดงานสัมมนาและกิจกรรมระดับประเทศ อาทิ Thailand Marketing Day 2025 และ Thailand Marketing Day On Tour ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งขยายเครือข่ายความร่วมมือกับภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างกว้างขวาง และมุ่งส่งเสริมศักยภาพนักการตลาดไทย
ด้วยการประสานความร่วมมือกับองค์กรทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงการทำงานร่วมกับสมาพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (Asia
Marketing Federation) เพื่อเปิดโอกาสให้นักการตลาดไทยก้าวสู่เวทีสากล ซึ่งในปี 2567 สมาคมฯ ได้นำพาองค์กรและนักการตลาดไทยคว้ารางวัลในเวที Asia Marketing Excellence Award ทั้งในสาขา Marketing Company of the Year, Marketing 3.0 และอีก 3 หมวดสำคัญ ได้แก่ Asia’s Top Outstanding Women/ Youth/ Netizen Marketeer of the Year Award
พร้อมกันนี้ สมาคมฯ ยังมุ่งพัฒนาหลักสูตรสัมมนาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักการตลาดในทุกช่วงวัย ตั้งแต่นักการตลาดรุ่นใหม่ในโครงการ J-MAT ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงในโครงการ MAT CMO Council โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมและสัมมนากว่า 8,000 คน
สะท้อนบทบาทสำคัญของสมาคมฯ ในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการการตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2568 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักการตลาดไทยในระดับภูมิภาค ผ่านการทำงานร่วมกับสมาพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (Asia Marketing Federation – AMF) เพื่อเปิดประตูสู่เวทีนานาชาติ และตอกย้ำเป้าหมายในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการตลาดของภูมิภาค และมุ่งเน้นการสร้างบทบาทนักการตลาดรุ่นใหม่ให้มีความพร้อม
สำหรับการเป็นผู้นำในยุคที่การแข่งขันและสงครามทางการค้ามีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น พร้อมผลักดันแนวคิดการตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing) เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ในวาระครบรอบ 60 ปีที่กำลังจะมาถึง สมาคมฯ เตรียมจัดกิจกรรมพิเศษในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เพียงสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยแต่ยังมุ่งหวังให้สมาชิกและนักการตลาดไทยได้ใกล้ชิดกับองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้จริง ต่อยอดแรงบันดาลใจ และสร้างพลังร่วมในการขับเคลื่อนวงการการตลาดไทยให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน




