อาจเป็นผลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แต่กลุ่ม Gen Z และ Millennials ในสหรัฐอเมริกายังต้องการได้รับประสบการณ์ด้านความบันเทิงเหมือนที่เคยเป็นมา บริษัทวิจัยในสหรัฐอเมริกาจึงพบว่ากลุ่ม Gen Z และ Millennials นี้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อบัตรคอนเสิร์ตจากการจ่ายเงินเต็มจำนวนเป็นการ Buy Now Pay Later มากขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้ที่ออกมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปคือ CivicScience บริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ที่เปิดตัวเลขล่าสุดเกี่ยวกับการจัดคอนเสิร์ตในปี 2025 ของสหรัฐอเมริกาว่า ชาวอเมริกันมีแนวโน้มที่จะลดการใช้จ่ายสำหรับการซื้อบัตรเข้าชมการแสดงคอนเสิร์ตในปีนี้ลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2024
และหากมองให้ลึกขึ้น จะพบว่า อเมริกันชนมีแผนลดค่าใช้จ่ายในกิจกรรมด้านความบันเทิงต่าง ๆ ในปีนี้ลงแทบทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันกีฬา (จาก 34% เหลือ 28%), การไปชมภาพยนตร์ (จาก 37% เหลือ 33%), การเที่ยวสวนสนุก (จาก 36% เหลือ 29%) หรือการไปพิพิธภัณฑ์ (จาก 25% เหลือ 19%)
Gen Z และ Millennials ยังเป็นกลุ่มที่ชมคอนเสิร์ตมากที่สุด
ส่วนกลุ่มที่มีความนิยมซื้อบัตรไปชมคอนเสิร์ตมากที่สุดจากผลการศึกษานี้ก็คือ Gen Z และ Millennials โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีแนวโน้มจะไปชมคอนเสิร์ต 3 ครั้งขึ้นไป แต่เมื่อเจอกับราคาของบัตรคอนเสิร์ตที่แพงขึ้น (โดยเฉพาะคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ) ก็พบว่า พวกเขาเลือกที่จะเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินไปเป็น Buy Now Pay Later แทนเพื่อให้ตนเองยังสามารถชมคอนเสิร์ตได้อย่างที่ต้องการ
ข้อมูลจาก CivicScience ชี้ด้วยว่า 16% ของ Gen Z มีแนวโน้มสูงจะจ่ายเงินโดยวิธี Buy Now Pay Later ส่วน Millennials อยู่ที่ 9% ขณะที่ Gen X และ BabyBoomers นั้นแทบไม่มีแนวคิดจะใช้วิธีดังกล่าว (79% กับ 93% ตามลำดับ)
แนวโน้มที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ยังคงให้คุณค่ากับประสบการณ์และความบันเทิง แต่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้น การหันมาใช้ทางเลือกอย่าง Buy Now Pay Later จึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “การผ่อนจ่าย” แต่คือการจัดสรรความสุขในแบบที่ไม่กระทบกับกระเป๋าสตางค์มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นบทพิสูจน์ว่าแม้เศรษฐกิจจะกดดันแค่ไหน ความต้องการในการใช้ชีวิตและเข้าถึงประสบการณ์ที่มีความหมายก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่เสมอ