ยอดขายไม่กระเตื้อง Burberry แบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษเลยขอเปลี่ยนแผนเป็นการเลิกจ้างพนักงาน 1,700 คนทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนแทน
สำหรับการประกาศเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่นี้ถูกประกาศโดย Joshua Schulman ซีอีโอคนใหม่ โดยมาพร้อมกับตัวเลขยอดขายที่ชี้ว่า Burberry ได้รับการตอบรับน้อยลง 4% ในตลาดอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และแอฟริกา ส่วนยอดขายในเอเชียแฟซิฟิกลดลงถึง 9%
ไม่เพียงเท่านั้น แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาก็กำลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากนโยบายด้านภาษีของรัฐบาล และความไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งสื่อตะวันตกมองว่า อาจทำให้ Burberry คาดหวังยอดขายจากภูมิภาคอเมริกาในปี 2025 นี้ได้ยากมากขึ้น โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่เป็นพนักงานกะกลางคืนในโรงงานที่ Castleford และพนักงานออฟฟิศ
อย่างไรก็ดี บริษัทยังพอมีตัวเลขการเงินด้านบวกเอาไว้โชว์นักลงทุนอยู่บ้าง นั่นคือผลประกอบการปี 2025 (สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025) ที่บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 34.55 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และยอดขายในไตรมาส 4 ที่ลดลงแค่ 6% (เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 7%)
ทั้งนี้ ปัญหาของ Burberry จนทำให้ยอดขายได้รับผลกระทบนั้น พบว่ามาจากการขึ้นราคาที่มากเกินไป และภาวะซบเซาของสินค้าหรูโดยรวม แต่บริษัทไม่ได้ระบุไว้ในรายงานทางการเงินว่า มาตรการภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งการแก้เกมด้วยการเลย์ออฟพนักงานนี้ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นทันที 8%
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE