shutterstock
แนวโน้มอุตสาหกรรมโฆษณา “สื่อดิจิทัล” เติบโตมาต่อเนื่อง ปี 2025 DAAT คาดการณ์ว่ามูลค่าจะอยู่ที่ 34,556 ล้านบาท เติบโต 10% สวนทางสื่อดั้งเดิม (ออฟไลน์) ที่อยู่ในภาวะถดถอย MI GROUP ประเมินตลาดโฆษณาไทยปีนี้เติบโต 2.2% มูลค่ารวม 87,666 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ปรับลดจากช่วงต้นปีที่คาดการณ์เดิมโต 4.5%
ตลอดหลายปีที่เม็ดเงินสื่อดิจิทัลเติบโต ทำให้ “แบรนด์และนักการตลาด” โฟกัสไปที่สื่อดิจิทัลเป็นหลัก หลายอุตสาหกรรมเทไปที่สื่อดิจิทัลแทบ 100% แม้กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ไม่ได้ใช้ชีวิตเสพสื่อดิจิทัลเพียงสื่อเดียว โดยเฉพาะ Customer Journey ของกลุ่มแมส ที่เป็นกลุ่มหลักยังคงเสพสื่อทั้งดิจิทัลและออฟไลน์
แนะแบรนด์ใช้กลยุทธ์ Media Mix
คุณภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ กรุ๊ป หรือ MI GROUP มองว่าแม้ปีนี้สื่อดิจิทัลยังเติบโต 10% เป็นการเติบโตต่อเนื่องตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แต่เริ่มแสดงสัญญาณแข่งขันรุนแรง เกิดภาวะ “สงครามแย่งความสนใจ” (Attention War)
การโฟกัสใช้เม็ดเงิน 100% ที่สื่อดิจิทัลทั้งที่กลุ่มเป้าหมายบางอุตสาหกรรมไม่ได้อยู่แค่สื่อดิจิทัล ก็อาจพลาดโอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ เพราะจากคุณสมบัติของ “สื่อทีวี” ที่แม้มีฐานผู้ชมลดลง แต่ยังเป็นสื่อที่สร้างการรับรู้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มแมส ได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสื่อนอกบ้าน (OOH) ที่เข้าถึงกลุ่มคนเมืองวงกว้าง
ดังนั้นปีนี้สิ่งที่แบรนด์และนักการตลาดต้องให้ความสำคัญในการวางกลยุท์การสื่อสาร คือ Media Mix (สื่อผสม) การใช้สื่อดิจิทัลและออฟไลน์ เพื่อทำให้แบรนด์โดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มที่ที่กำลังซื้อ
จากการประเมินจากตลาดและคาดการณ์โดย MI LEARN LAB มองว่าอุตสาหกรรมโฆษณาที่รวมถึงตัวเลขตกสำรวจในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ มีส่วนส่วนมาจาก สื่อดิจิทัล 50% (โดยมี KOLs/Influencers กว่า 3 ล้านราย ครองเม็ดเงินกว่า 60% ของดิจิทัล) และสื่อออฟไลน์ 50% (โทรทัศน์, สื่อนอกบ้าน ฯลฯ)
ดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ ถ้ากลุ่มเป้าหมายไม่ได้อยู่แค่สื่อดิจิทัล นักการตลาดต้องวางแผน Media Mix อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ต่อเนื่องและทรงพลัง
คุณภวัต เรืองเดชวรชัย
รู้จัก 8 กลุ่มเป้าหมายต้องโฟกัส
แม้ปัจจุบันผู้บริโภคมีความซับซ้อน หลากหลายและมีความเฉพาะตัวมากขึ้น แต่การสื่อสารก็ไม่ใช่การยิงโฆษณากว้างๆ หรือจำกัดวงแคบจนเกินไป แต่ต้องกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ไปยังกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ การจับจ่ายสินค้าและบริการในหมวดอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน
MI GROUP สรุป 8 กลุ่มเป้าหมาย “ต้องโฟกัส” ในปี 2025 พร้อมทั้งแนะนำช่องทางการสื่อสารแบบ Media Mix ของแต่ละกลุ่ม ดังนี้
1. แรงงานเกษตร มีจำนวน 12 ล้านคน
– กลุ่มแรงงานฐานรากที่ยังคงขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทย แม้จะไม่อยู่ในเมือง แต่เข้าถึงเทคโนโลยีและโซเชียลมากขึ้นผ่านมือถือ เป็นกำลังซื้อสำคัญในตลาด FMCG และสินค้าจำเป็นที่ตอบสนองต่อความต้องการและวิถีชีวิตของพวกเขา รวมถึงเปิดรับนวัตกรรมเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ
– ช่องทางการสื่อสาร : Facebook, TikTok, สื่อท้องถิ่น (ป้าย/วิทยุ), อีเวนต์ชุมชน/งานประเพณี
2. แรงงานบริการ มีจำนวน 5 ล้านคน
– กลุ่มสำคัญที่สร้างประสบการณ์บริการในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม ไปจนถึงภาคบริการสุขภาพและท่องเที่ยว กลุ่มนี้คือฟันเฟืองที่มักถูกมองข้าม แต่มีพลังการจับจ่าย และเป็นกลุ่มที่เข้าถึงสื่อผ่านมือถือสูงมาก
– ช่องทางการสื่อสาร : Facebook, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/ตลาดเช้า/ห้างฯ), บูธกิจกรรมในบริเวณแหล่งชุมชนและที่ทำงาน
3. Gen Z (อายุ 13–29 ปี) มีจำนวน 13 ล้านคน
– กลุ่มคนรุ่นใหม่ “เสียงใหม่แห่งอนาคต” ที่นิยามโลกในแบบของตัวเอง ทั้งพฤติกรรม การซื้อสินค้า และการเสพสื่อ พวกเขาคือ Trend Setter ตัวจริง เป็นแรงขับเคลื่อนของทุกแพลตฟอร์ม พฤติกรรมไวต่อกระแส ต้องการการสื่อสารที่สร้างการมีส่วนร่วมและให้คุณค่าความเป็นตัวเอง
– ช่องทางการสื่อสาร : TikTok, IG, YouTube, X, Gaming-Discord, สื่อนอกบ้าน (Transit, ใกล้สถานศึกษา/ห้าง)
4. พนักงานบริษัท มีจำนวน 18 ล้านคน
– มนุษย์เงินเดือนหัวใจนักสู้ เป็นกลุ่มชนชั้นกลางที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมือง มีกำลังซื้อ มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องการใช้จ่าย สุขภาพ และความมั่นคง เป็นกลุ่มที่เปิดรับข้อมูลเยอะ แต่เลือกเชื่อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และให้คุณค่ากับแบรนด์ที่เข้าใจชีวิตจริง
– ช่องทางการสื่อสาร : Facebook, TikTok, YouTube, LinkedIn, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ออฟฟิศ), โรดโชว์ทดลองใช้/สมัครบริการ
5. กลุ่มใกล้เกษียณ/ผู้สูงวัย มีจำนวน 18.6 ล้านคน
– “พลังเงียบที่ยังเปล่งเสียง” เป็นกลุ่มใหญ่มากที่มีทั้งเวลาและกำลังซื้อ พร้อมดูแลตัวเองและคนรอบข้าง ต้องการความมั่นใจในแบรนด์และความคุ้มค่า เป็นกลุ่มที่อาจไม่ได้ไวกับเทคโนโลยี แต่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ที่เชื่อถือได้
– ช่องทางการสื่อสาร : Line, TV, YouTube, Facebook, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/ห้างฯ/โรงพยาบาล), บูธกิจกรรม (ตรวจสุขภาพ/แจกสินค้าตัวอย่าง)
6. Micro Sellers (พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์/ออฟไลน์) มีจำนวน 4 ล้านคนขึ้นไป
– “เสาหลักเศรษฐกิจฐานราก” เจ้าของร้านเล็กๆ ที่ไม่เล็กในพลัง ใช้ทุกเครื่องมือเพื่อสร้างรายได้ ทั้ง Live ขายหน้าร้าน และโซเชียล แบรนด์ที่เข้าถึงและสนับสนุนกลุ่มนี้ได้ จะได้พลังจากปากต่อปากที่มหาศาล
– ช่องทางการสื่อสาร : Facebook Group, TikTok, ป้ายตลาด/หน้าร้านขายส่ง, อีเวนต์ฝึกอาชีพ/แจกแพ็กเกจเริ่มต้น
7. แรงงานต่างด้าว มีจำนวนกว่า 10 ล้านคน
– “นักสู้แดนไกล” เป็นผู้ที่เดินทางมาทำงานและกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไทย ปัจจุบันกลุ่มแรงงาน โดยเฉพาะชาวเมียนมา ที่มีสัดส่วนสูงสุด 50% ไม่ได้แค่ทำงาน แต่ใช้จ่าย กิน เที่ยว และสร้างชุมชน ต้องการสื่อสารผ่านภาษาของเขา และช่องทางที่พวกเขาใช้จริง
– ช่องทางการสื่อสาร : Facebook ภาษาถิ่น, YouTube, สื่อนอกบ้าน (ป้าย/Transit/โชวห่วย/CVS) ป้ายที่พัก/นิคมฯ/โรงงาน, บูธแจกซิม/สินค้าตัวอย่าง
– คุณวิชิต คุณคงคาพันธ์ Head of International Business Development (Head of Bridge) ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจตลาดต่างประเทศ MI Group กล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจุบันมีหลายอุตสาหกรรมวางกลยุทธ์สื่อสารกับกลุ่มแรงงานเมียนมาโดยตรง เช่น รีเทล ทำ CRM ทั้ง ณ จุดขายและแอป
8. นักท่องเที่ยวต่างชาติ (ปี 2568 เป้าหมาย 36–39 ล้านคน)
– กลุ่มที่เดินทางเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ เป็นสายเที่ยวสายเปย์ พร้อมใช้จ่ายกับสิ่งที่แตกต่าง คุ้มค่า และสร้างความประทับใจ ให้ความสำคัญกับความสะดวก ความต่างเฉพาะถิ่น และประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์
– ช่องทางการสื่อสาร : ป้ายสนามบิน/แลนด์มาร์ก/ แหล่งท่องเที่ยว, Travel Platform, รีวิว
แม้เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังเผชิญความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย แต่นักการตลาดที่มองลึก อ่านเกมขาด ยังมีทางรอดและเติบโต MI GROUP มองว่านักการตลาดต้องปรับ Mindset อย่ามองกลุ่มเป้าหมายเป็นเพียง “ตัวเลข” แต่ต้องเข้าใจ ชีวิต ความหวัง ความท้าทาย และแรงผลักดัน ของพวกเขา เพราะเบื้องหลังทุกสถิติ คือ “มนุษย์” ที่กำลังมองหาแบรนด์ที่เข้าใจเขา
“ปีนี้อาจไม่ใช่ปีทอง แต่ก็ไม่ใช่ปีถอย การตลาดที่จริงใจ และเข้าใจคนอย่างแท้จริง จะไม่เพียงสร้างยอดขายได้อย่างมหัศจรรย์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ผู้เล่นที่เข้าใจคน ไม่ใช่แค่ข้อมูล มองลึกกว่าตัวเลข ใช้สื่ออย่างแม่นยำ และกล้าวางเกมที่ต่าง คือผู้ที่คว้าโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอน”
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE