หลังจากเปิดตัว MICHELIN Key เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชีย ที่ทีมงาน “มิชลิน ไกด์” ได้ใช้เวลากว่า 4 ปี ในการทำงานเพื่อคัดเลือกโดยผู้ตรวจสอบ จนเป็นที่มาของการมอบรางวัลให้กับโรงแรม 58 แห่งในประเทศไทย โดยแบ่งเป็นรางวัล ‘3 กุญแจมิชลิน’ 8 แห่ง รางวัล ‘2 กุญแจมิชลิน’ 19 แห่ง และ รางวัล ‘1 กุญแจมิชลิน’ 31 แห่ง
รางวัลมิชลินคีย์ มีเกณฑ์ในการคัดเลือกโรงแรมเช่นเดียวกับการมอบมิชลินสตาร์ โดยมีเกณฑ์คัดเลือก 5 เรื่อง ได้แก่ ความเป็นเลิศในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายใน คุณภาพและความสม่ำเสมอของการให้บริการ เอกลักษณ์และบรรยากาศโดยรวม ความคุ้มค่าด้านราคา และการมีความเชื่อมโยงกับท้องถิ่นอันเป็นที่ตั้งของโรงแรม สำหรับคำอธิบายเกี่ยวกับรางวัลทั้ง 3 ระดับ หรือ MICHELIN Key มีดังนี้
กุญแจมิชลิน 1 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักสุดพิเศษ
โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลนี้เป็นเพชรเม็ดงามที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว มีความแตกต่างโดยนำเสนอความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครหรือสิ่งที่ดีที่สุดในประเภทเดียวกัน ทุ่มเทให้บริการเป็นพิเศษและมอบประสบการณ์ที่ดีมากกว่าสถานประกอบการที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน
กุญแจมิชลิน 2 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักอันยอดเยี่ยม
โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลนี้มีความโดดเด่นและพิเศษเหนือกว่าในทุกๆ ด้าน จนกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม เป็นโรงแรมที่พักที่มีจุดเด่น อัตลักษณ์ และเสน่ห์เฉพาะตัว ดำเนินงานด้วยความภาคภูมิใจและใส่ใจในรายละเอียด มีดีไซน์หรือสถาปัตยกรรมที่สวยงามเตะตา ทั้งยังเหนือกว่าด้วยการมอบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น
กุญแจมิชลิน 3 ดอก: ประสบการณ์การเข้าพักเหนือชั้นที่น่าจดจำ
โรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัลนี้มอบประสบการณ์ที่ให้ความตื่นตาตื่นใจและความรื่นรมย์ ให้ทั้งบริการและความสะดวกสบายชั้นเยี่ยมอย่างมีสไตล์และโก้หรู ถือเป็นโรงแรมที่พิเศษโดดเด่นที่สุดในโลกและเป็นจุดหมายปลายทางในตัวเองสำหรับการเดินทางสุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของการให้บริการชั้นยอดในทุกองค์ประกอบ จึงทำให้การเข้าพักเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในความทรงจำและตราตรึงในใจของนักเดินทางตราบนานเท่านาน
และผลรางวัล ประกอบด้วย
3 MICHELIN Keys
กรุงเทพฯ: Mandarin Oriental, Bangkok
กรุงเทพฯ: The Siam Bangkok
เชียงใหม่: Four Seasons Resort Chiang Mai
ตราด: Soneva Kiri
สุราษฏร์ธานี: Samujana Villas
กระบี่: Phulay Bay, A Ritz-Carlton Reserve
ภูเก็ต: Amanpuri
ภูเก็ต: Keemala
2 MICHELIN Keys
กรุงเทพฯ: Capella Bangkok
กรุงเทพฯ: Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River
กรุงเทพฯ: Park Hyatt Bangkok
กรุงเทพฯ: Rosewood Bangkok
กรุงเทพฯ: The Okura Prestige Bangkok
กรุงเทพฯ: The Peninsula Bangkok
กรุงเทพฯ: The Sukhothai Bangkok
เชียงใหม่: Rachamankha
เชียงราย: Anantara Golden Triangle Elephant Camp & Resort
สุราษฎร์ธานี: Banyan Tree Samui
สุราษฎร์ธานี: Napasai, A Belmond Hotel, Koh Samui
สุราษฎร์ธานี: SALA Samui Choengmon Beach
สุราษฎร์ธานี: Six Senses Samui
พังงา: The Sarojin Thailand
พังงา: Six Senses Yao Noi
กระบี่: Banyan Tree Krabi
กระบี่: Pimalai Resort & Spa
ภูเก็ต: InterContinental Phuket Resort
ภูเก็ต: Rosewood Phuket
1 MICHELIN Key
กรุงเทพฯ: 137 Pillars Suites Bangkok
กรุงเทพฯ: Anantara Siam Bangkok Hotel
กรุงเทพฯ: COMO Metropolitan Bangkok
กรุงเทพฯ: InterContinental Bangkok
กรุงเทพฯ: Kimpton Maa-Lai Bangkok
กรุงเทพฯ: Oriental Residence Bangkok
กรุงเทพฯ: SO/ Bangkok
กรุงเทพฯ: The Standard Bangkok
เพชรบุรี: Veranda Resort & Villas Hua Hin Cha Am
เชียงใหม่: 137 Pillars House
เชียงใหม่: Aleenta Retreat Chiang Mai
เชียงใหม่: Raya Heritage
เชียงใหม่: Tamarind Village
ประจวบคีรีขันธ์: Anantara Hua Hin Resort & Spa
ประจวบคีรีขันธ์: The Standard Hua Hin
ประจวบคีรีขันธ์: V Villas Hua Hin
ประจวบคีรีขันธ์: Aleenta Resort & Spa, Hua-Hin
เขาใหญ่: InterContinental Khao Yai Resort
เกาะสมุย: Anantara Lawana Resort and Spa
เกาะสมุย: Kerem Luxury Beachfront Villas
กระบี่: Rayavadee
พังงา: Aleenta Resort & Spa, Phuket
พังงา: Iniala Beach House
ภูเก็ต: Andara Resort & Villas
ภูเก็ต: COMO Point Yamu
ภูเก็ต: The Nai Harn Phuket
ภูเก็ต: The Pavilions Phuket
ภูเก็ต: The Slate
ภูเก็ต: Trisara
ภูเก็ต: The Racha
สุราษฎ์ธานี: Kimpton Kitalay Samui
หลังจากที่ได้ประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักที่ได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ไปแล้วในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ผู้ตรวจสอบที่ไม่เปิดเผยตัวตน ของ “มิชลิน ไกด์” เข้าพักโรงแรมทั่วประเทศไทย จนเป็นที่มาของโรงแรม 58 แห่งที่ได้รับรางวัล MICHELIN Key กับอีก 100 แห่งที่อยู่ในลิสต์ MICHELIN Selection
Elisabeth Boucher ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร Michelin Guide อธิบายเพิ่มเติมว่า โรงแรมในประเทศไทยมี “ความหลากหลาย” อย่างมาก ตั้งแต่โรงแรมบูทิค ที่มีความชิค โรงแรมที่ตั้งอยู่สแตนด์อะโลน ไปจนถึงโรงแรมที่อยู่ในป่า ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างความประทับใจให้กับ Inspectors อย่างมาก
“เราอยากเริ่มต้นโดยการตามหาเพชรเม็ดงามจริงๆ ประเทศไทยมีโรงแรมดีๆ มากมาย ดังนั้นจึงเหมาะกับการที่จะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เราเปิดตัว MICHELIN Key และการที่มิชลิน ไกด์ ทำงานเรื่องร้านอาหารมากว่า 7 ปี ในประเทศไทยทำให้ทีมงานความเข้าใจกับพื้นที่ และการเดินทางเพื่อรับประทานอาหารกับเข้าพักก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกัน”
สำหรับขั้นตอนการทำงาน อลิซาเบธ เล่าต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบของมิชลิน ไกด์ ที่บางคนก็มีความเชี่ยวชาญทั้งเรื่องร้านอาหารและที่พักก็สามารถทำงานร่วมกันได้ หรือผู้เชี่ยวชาญบางคนก็ทำงานเฉพาะเรื่องร้านอาหาร บางคนก็ทำงานเฉพาะที่พัก การเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย “มิชลิน ไกด์” ยังคงยึดถือการทำงานที่โปร่งใส ดังนั้นการรีวิวที่พักของผู้ตรวจสอบจะไม่เปิดเผยว่าใครคือผู้ตรวจสอบ รวมทั้งจ่ายทุกๆ บิลด้วยตัวเอง โดยไม่มีการเปิดเผยตัวและมั่นใจว่าแม้แต่ผู้ตรวจสอบก็ได้รับประสบการณ์เดียวกับลูกค้าทั่วไป และในปีแรกของการทำงานจะมุ่งเน้นเรื่อง “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” ดังนั้นจึงแตกต่างจากรางวัลอื่นๆ ในอุตสาหกรรม
ส่วนพัฒนาการต่อๆ ไปของ MICHELIN Key จะตามรอย MICHELIN Guide ไม่ว่าจะเป็น มีรางวัลด้าน Sustainability หรือไม่ เธอตอบว่า
“เราไม่รีบถ้ามันเป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสม เราศึกษาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพร้อม มิชลิน ไกด์ ก็ใช้เวลานานมากกว่าจะมีรางวัล Green Star (รางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน) เราจะต้องแน่ใจว่ามาตรฐานของเราเป็นแนวทางที่ถูกต้องจริงๆ เราไม่เคยประนีประนอมกับการใช้ศักยภาพของเราเพื่อทำสิ่งที่เราเชื่อ และเราเข้าใจดีว่าเรื่องของความยั่งยืนมีข้อถกเถียงมากมาย ดังนั้นเราต้องระมัดระวัง”
หลังจากประเทศไทยการประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักซึ่งได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’ ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ต่อด้วยการประกาศรายชื่อโรงแรมที่พักในเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 9 ตุลาคม 2567