แม้จะถูก Elon Musk ซีอีโอคนดังจากโลก EV ล้อเลียนว่า Zuck is a cuck แถมยังถูกท้าชก MMA แต่ในเรื่องการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต้องบอกว่า ชื่อชั้นของ Mark Zuckerberg ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะผลงานของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียน้องใหม่อย่าง Threads ที่ยอดผู้ใช้งานกำลังวิ่งฉิว แตะ 100 ล้านแอคเคาน์ได้ภายในเวลาเพียง 4 วันหลังเปิดตัว
หากมองย้อนหลัง ไม่เฉพาะ Threads แต่ผลงานการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ Mark Zuckerberg จนประสบความสำเร็จนั้นเป็นที่ประจักษ์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือแพลตฟอร์มการส่งข้อความอย่าง WhatsApp และ Facebook Messenger เห็นได้จากยอดผู้ใช้งานรวมของทุกแพลตฟอร์มในเครือ Meta ที่มีมากกว่า 3.74 พันล้านรายทั่วโลก (ตัวเลขต่อเดือน)
ทำไม Threads ถึงเปิดตัวในเวลานี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มสำหรับข้อความสั้นที่ทั่วโลกรู้จักก็คือ Twitter และไม่เคยมีใครเข้าไปแตะตลาดนี้มากนัก รวมถึง Mark Zuckerberg ที่มุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองอย่าง Facebook และ Instagram จนเติบโตกลายเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่และทำรายได้มหาศาลชนิดที่ Twitter เทียบไม่ติด (Meta ทำรายได้จากบริการของตนเองในปี 2022 มากถึง 116,609 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ Twitter ทำรายได้ไปเพียง 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น และ Twitter ยังมีผู้ใช้งานที่น้อยกว่ามาก เพียง 368 ล้านคนต่อวัน)
นอกจากนั้น หากยังจำกันได้ การสกัดคู่ต่อสู้อย่าง Snapchat และ TikTok ของ Mark Zuckerberg ก็มีความจริงจังพอสมควร (เช่น การเปิดตัวฟีเจอร์ Reels สำหรับทำคลิปสั้นเพื่อต่อกรกับ TikTok หรือการเปิดตัว Stories – สติ๊กเกอร์ เพื่อต่อกรกับฟีเจอร์ของ Snapchat ในอดีตฯลฯ)
จากภาพในอดีต จะเห็นได้ว่า Mark Zuckerberg ไม่เคยส่งสัญญาณว่า ตลาดแพลตฟอร์มสำหรับข้อความสั้นอย่าง Twitter เป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะบุกเข้าไป หรือต้องสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาป้องกัน
สิ่งที่ทำให้ Meta ตัดสินใจส่ง Threads มาบุกตลาดโซเชียลมีเดีย อาจเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Twitter ถูกซื้อกิจการโดย Elon Musk เมื่อปี 2022 โดยในเวลานั้น Elon Musk มีการเลิกจ้างวิศวกร Twitter จำนวนมาก พร้อม ๆ กับข่าวลือในทางที่เสียหายต่อบริษัท เช่น การค้างชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การยกเลิกสวัสดิการของพนักงาน การไม่มีวิศวกรมากพอที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับแอคเคาน์ของแบรนด์ ฯลฯ จนทำให้แบรนด์จำนวนมากตัดสินใจระงับการซื้อโฆษณาบน Twitter ไปเป็นจำนวนมาก
ไม่มีการแสดงความเห็นใด ๆ จากฝั่ง Meta ในเวลานั้น จนกระทั่งเดือนมีนาคม ถึงได้มีข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาโปรดักท์ใหม่ของ Meta ปรากฏขึ้นในหน้าสื่ออย่างเป็นทางการ ภายใต้โค้ดเนม Project92 หรือ P92 และวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 Threads ก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่บน App Store และ Google Play Store
Mark Zuckerberg ชี้ Threads เติบโตเกินคาด
น่าสนใจว่า การเปิดตัว Threads เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Twitter กำลังเผชิญดราม่า เหตุเพราะ Elon Musk ได้มีการประกาศนโยบายใหม่ของ Twitter เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่าจะจำกัดการมองเห็น หรือ View Limit ของผู้ใช้งานไว้ที่ 600 โพสต์ต่อวัน โดยเขาให้เหตุผลว่าอยากให้ผู้ใช้ Twitter ออกไปเดินเล่นบ้าง
แต่ถ้าใครจ่ายเงินซื้อเครื่องหมาย Twitter Blue เขาก็พร้อมจะเปิดให้ผู้ใช้งานรายนั้น ๆ สามารถโพสต์ และมองเห็นโพสต์ต่าง ๆ ได้มากขึ้นเป็น 6,000 โพสต์ต่อวัน (ตัวเลขนี้มีการปรับเปลี่ยนหลายครั้งในเวลาต่อมา)
แม้จะมีความไม่แน่นอน โลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบน Twitter เกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่สำหรับครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะมีบางคนเริ่มชี้เป้าว่า แอปพลิเคชัน Threads ปรากฏตัวขึ้นแล้วบน App Store และพร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 6 กรกฎาคม หรือก็คือ ถัดจากการเกิดดราม่าบน Twitter เพียง 4 วันเท่านั้น
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมมาถึง ผลที่ปรากฏจึงเป็นภาพของคนที่หันไปดาวน์โหลด Threads กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่เข้าไปดาวน์โหลดอาจมีทั้งคนที่ไม่อยากตกขบวนแพลตฟอร์มใหม่ หรือคนที่หงุดหงิดกับนโยบายที่ไม่แน่นอนของ Elon Musk ที่มุ่งแต่จะเก็บเงินอย่างเดียว และในที่สุด Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta ออกมาประกาศด้วยตัวเองว่า Threads มียอดผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านแอคเคาน์แล้ว ภายในเวลาเพียง 4 วัน (เขาประกาศในวันที่ 10 กรกฎาคม 2023) ซึ่งเว็บไซต์ข่าวตะวันตกอย่าง TheVerge ได้นำไปเปรียบเทียบว่า เป็นการเติบโตที่เหนือกว่าการเปิดตัวแอป Gen AI คนดังแห่งยุคอย่าง ChatGPT เสียอีก
ทั้งนี้ ChatGPT เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 และมีผู้ดาวน์โหลดทะลุ 100 ล้านแอคเคาน์ในเดือนมกราคม 2023 หรือสองเดือนหลังจากนั้น และปัจจุบัน ข้อมูลจาก SimilarWeb ก็ระบุว่าทราฟิกของ ChatGPT กำลังลดลงเรื่อย ๆ ด้วย
Threads เขย่าวงการโฆษณา?
การก้าวข้ามหลักชัยแรกได้อย่างรวดเร็วของ Threads ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามต่อ ว่า Threads จะกลายเป็นแพลตฟอร์มทำเงินของ Meta และ Mark Zuckerberg ในอนาคตได้หรือไม่ และอย่างไร
ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า จุดเด่นของ Threads (หรืออาจเป็นจุดอ่อนสำหรับบางคน) คือการเชื่อมโยงกับบัญชี Instagram ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากถึง 2.35 พันล้านคนต่อเดือน และถ้าแค่มีผู้ใช้งาน Instagram หันมาใช้ Threads แค่ 1 ใน 4 พวกเขาก็จะมีแอคเคาน์ใน Threads แตะ 580 ล้านคนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แบรนด์และนักการตลาดก็ย่อมหนีจาก Threads ไปไม่ได้เช่นกัน
อีกข้อหนึ่งก็คือ นโยบายการกลั่นกรองเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของ Meta นั้นมีความเข้มข้นมากกว่า Twitter ซึ่งหากแบรนด์มาใช้งานย่อมรู้สึกปลอดภัยได้มากกว่านั่นเอง
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ Threads ยังไม่มีการเปิดตัวระบบขายโฆษณา จึงเป็นไปได้ว่า รายได้ของ Twitter จะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และอาจทำให้ Elon Musk มีเวลาพักหายใจหายคอ รวมถึงแบ่งความสนใจจาก Tesla และ SpaceX มายัง Twitter ได้บ้าง
แต่ถ้าหาก Threads เปิดตัวระบบขายโฆษณาอย่างเป็นทางการ ถึงเวลานั้น เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Twitter เกิดขึ้นก็เป็นได้ ซึ่งเวลานั้นจะมาถึงเมื่อใด ก็ขึ้นอยู่กับว่า Mark Zuckerberg จะปราณี Elon Musk แค่ไหนนั่นเอง