HomeBrand Move !!‘พฤกษา’ เดินหน้าขยายธุรกิจสุขภาพ 5 ปีลงทุน 17,000 ล้าน เปิดเวลเนส เซ็นเตอร์-โรงพยาบาลวิมุต ทั่วกรุงเทพฯ 

‘พฤกษา’ เดินหน้าขยายธุรกิจสุขภาพ 5 ปีลงทุน 17,000 ล้าน เปิดเวลเนส เซ็นเตอร์-โรงพยาบาลวิมุต ทั่วกรุงเทพฯ 

แชร์ :

“พฤกษา” เริ่มขยายธุรกิจสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้ประจำต่อเนื่อง (Recurring Income) เปิดโรงพยาบาลวิมุต แห่งแรกย่านพหลโยธิน ในเดือนพฤษภาคม 2564 ล่าสุดเตรียมเปิดโรงพยาบาลวิมุต แห่งใหม่ ทำเลปิ่นเกล้า พร้อมประกาศแผน 5 ปีธุรกิจสุขภาพด้วยเม็ดเงินลงทุน 17,000 ล้านบาท  

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลวิมุตและเครือข่ายเฮลท์แคร์ ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก

– กลุ่ม Medical Hub  โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน, โรงพยาบาลเทพธารินทร์, วิมุต เวลเนส บางนา-วงแหวน, Senera วิมุต เวลเนส คู้บอน  และบ้านหมอวิมุต

– กลุ่มที่อยู่อาศัยในโครงการพฤกษา  คือ เนอร์สซิ่ง โฮม, แอพปรึกษาแพทย์ออนไลน์

– กลุ่มสุขภาพดิจิทัล คือ แอพ ViMUT  และ Smart Hospital (ร่วมกับ AIS)

– ความร่วมมือกับพันธมิตร เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี, Naluri การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม

– ขยายธุรกิจใหม่ เช่น Pathology Asia  การวินิจฉัยทางการแพทย์, Kaohub ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัย

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด ธุรกิจในเครือพฤกษา โฮลดิ้ง  กล่าวว่าในปี 2566 มีแผนลงทุนศูนย์สุขภาพ (Health Center) 3 แห่ง ที่คู้บอน เป็นโครงการร่วมทุนกับ JAS Asset เปิดวันที่ 1 มีนาคมนี้  และลงทุนเอง 2 แห่งที่ซอยแบริ่ง และวัชรพล  แต่ละแห่งลงทุน 100-150 ล้านบาท

นอกจากนี้จะเปิด โรงพยาบาลวิมุต ปิ่นเกล้า 1 แห่ง เป็นการลงทุนเอง (ทยอยเปิดรวม 3 เฟส เฟสแรก 50-60 เตียง ทั้งโปรเจกต์ใช้งบหลายพันล้านบาท)  เฉพาะปี 2566 ใช้งบลงทุนในธุรกิจสุขภาพรวม 2,500 ล้านบาท  วางเป้าหมายรายได้ 2,000 ล้านบาท  เติบโต 50%

นอกจากนี้ได้วางแผนขยายธุรกิจสุขภาพ 5 ปี (2566-2570) ใช้เงินลงทุนรวม 17,000 ล้านบาท  เป็นการขยายแพลตฟอร์มธุรกิจสุขภาพ เพื่อใช้โรงพยาบาลในการสนับสนุนโครงการที่พักอาศัยของพฤกษา และการดูแลสุขภาพคนไทยที่เข้าสู่สังคมสูงวัย  เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมี 3 โซนหลัก

1. โซนรอบใน คือ โรงพยาบาลเฉพาะทาง เชี่ยวชาญด้านหัวใจ สมอง กระดูก GI & NCD

– โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน

– โรงพยาบาลเทพธารินทร์

– โรงพยาบาลวิมุต ปิ่นเกล้า

–  วิมุต นราธิวาส-ราชนครินทร์

–  วิมุต สุขุมวิท

2. โซนรอบกลาง ลงทุน เวลเนส เซ็นเตอร์ และ เนอร์สซิง โฮม 

– บางนา, คู้บอน, วัชรพล, สุขุมวิท 54, ประชาชื่น, รัตนาธิเบศร์,พัฒนาการ, เซ็นทรัล เวสเกต, ราชพฤกษ์ และอีก 6 แห่งภายใน 5 ปี รวมทั้งหมด 15 แห่ง

3. โซนรอบนอก ลงทุนในรูปแบบ คลีนิกบ้านหมอวิมุต 

ในปี 2565 กลุ่มโรงพยาบาลวิมุต ทำรายได้ 1,340 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7 เท่า จากปี 2564 ที่มีรายได้ 283 ล้านบาท โดยสัดส่วนลูกค้า 80% เป็นรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19  แม้ว่ารายได้จากโรคที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ลดลงในปีที่ผ่านมา แต่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น จากการขยายเครือข่ายระบบนิเวศ (Ecosystem) ของโรงพยาบาล  ได้แก่ เวลเนส เซ็นเตอร์,บ้านหมอวิมุต, โรงพยาบาลเทพธารินทร์, บริการผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทั้งแอพพลิเคชั่น เทเลเมดิซีน ไปจนถึงความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ เสริมทัพด้วยรายได้จากโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุต ได้สร้างความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ทำให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 3.2 เท่า

พฤกษาตั้งเป้าปี 66 รายได้รวม 30,000 ล้าน

คุณอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าว่า ปี 2566 คาดการณ์รายได้รวมของทั้งกลุ่มประมาณ 30,000 ล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบจากปี 2565

ในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ปี 2566 วางแผนเปิดโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่ารวม 23,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว  8 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 11 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ

โดยเพิ่มสินค้าที่จับกลุ่มลูกค้าในเซกเม้นต์ระดับกลางไปสูง มีแผนเปิดบ้านเดี่ยวพรีเมียม 3 โครงการ ได้แก่ เดอะปาล์มวัชรพล ราคา 20-30 ล้านบาท, เดอะปาล์ม บางนาวงแหวน ราคา 15-25 ล้านบาท  และ เดอะปาล์มพัฒนาการ

นอกจากนี้ยังมีที่อยู่อาศัยโครงการปัจจุบันที่ยังเปิดขายอยู่ทั่วประเทศ รวมมูลค่าราว 69,900 ล้านบาท 158 โครงการ

ปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มอสังหาฯ  24,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอน  28,000 ล้านบาท  ในปีนี้มีแผนการซื้อที่ดินราว 5,000 ล้านบาท และมีแผนลงทุนในธุรกิจใหม่ 6,000 ล้านบาท ทั้งธุรกิจโลจิสติกส์ รวมถึงการปรับโครงสร้างของธุรกิจพรีคาสท์

ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2565 พฤกษา มีกำไรสุทธิ 2,772 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2564 ที่ 28,640 ล้านบาท หรือ เติบโต 1%

โดยรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ อยู่ที่ 27,191 ล้านบาท เปิดโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่า 11,100 ล้านบาท

ปีที่ผ่านมาพฤกษาเพิ่มสัดส่วนการสร้างรายได้ประจำต่อเนื่อง (Recurring Income) เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว จึงมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจใหม่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ การตั้งกองทุน Corporate Venture 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนใน Prop Tech, Health Tech และ Sustainable Tech

ล่าสุดได้ร่วมกับแคปปิตอลแลนด์ อินเวสเม้นท์ กรุ๊ป  และ  แอลลี่ โลจิสติกส์ พร็อพเพอร์ตี้  จัดตั้งกองทุน “CapitaLand SEA Logistics Fund” ตั้งเป้ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์โลจิสติกส์ภายใต้การจัดการ 1,000 ล้านเหรียญสิงคโปร์

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like