HomeFeaturedพลัง ‘ทาสแมว’ โชว์เหนือ จำนวนคนเลี้ยง-ตลาดอาหารโตแซงหน้า ‘ทาสหมา’

พลัง ‘ทาสแมว’ โชว์เหนือ จำนวนคนเลี้ยง-ตลาดอาหารโตแซงหน้า ‘ทาสหมา’

แชร์ :

kantar pet food


Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

หลายปีที่ผ่านมาเทรนด์ Pet Humanization ครอบครัวที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวเติบโตอย่างมาก จนกลายเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก ซึ่งมาจากสังคมยุคใหม่มีขนาดเล็กลง เป็นโสดมากขึ้น มีลูกน้อยลงหรือบางครอบครัวเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนลูก

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงครองอันดับต้นๆ มาตลอด ต้องยกให้ “น้องหมา” และ “น้องแมว” 

จากเทรนด์นี้ผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเติบโตทุกปี เฉลี่ยปีละ 10% ปีที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท โดยเป็นสัดส่วนอาหารสัตว์ 45% หรือ 18,000 ล้านบาท 

ตามดู 4 เทรนด์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย

Kantar บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก เปิดเผยรายงาน Thailand Pet Food Market Trends ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยเติบโตทั้งด้านมูลค่า, ผู้ซื้อ และผู้ผลิต สรุปได้ 4 เทรนด์ดังนี้ 

Kantar Thailand Pet Food Infographic 1

1. ครัวเรือนที่มีแมวเติบโตเร็วกว่าครัวเรือนที่มีสุนัข 

จากข้อมูลของ Kantar Worldpanel ในประเทศไทย ที่ได้รวบรวมโปรไฟล์ของแต่ละครัวเรือนรวมไปถึงจํานวนสมาชิก รายได้ครัวเรือน การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะมีแมวหรือสุนัขหรือทั้งสองอย่าง

พบว่าจํานวนครัวเรือนที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น หากเทียบไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 กับไตรมาสที่ 3 ปี 2564 จํานวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยง “แมว” เติบโตเร็วกว่าครัวเรือนที่เลี้ยง “สุนัข”  โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑลเติบโตเร็วกว่าในพื้นที่อื่นๆ

2. ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงยอดขายเติบโต

แม้ว่าจะมีครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันมีน้อยกว่า 50% ที่ซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงแบบบรรจุหีบห่อ ทําให้ยังมีช่องว่างของโอกาสที่จะเข้าสู่ตลาดได้  โดยอาหารแมวแข่งขันสูงเนื่องจากมีการแย่งชิงส่วนแบ่งจากผู้ผลิตหลายราย โดย 8 แบรนด์ครองส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 80% ในขณะที่อาหารสุนัขมีผู้เล่นหลักอยู่ 5 ราย

“เจ้าของแมวซื้อสินค้าแบรนด์มากกว่าเจ้าของสุนัข” 

ขณะที่แบรนด์ใหม่เกิดขึ้นจํานวนมาก แต่ผู้บริโภคยังคงซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉลี่ย 2 แบรนด์ต่อปี การเติบโตของผู้ซื้อส่วนใหญ่มาจาก “อาหารแมว” ส่วนอาหารสุนัขนั้นฐานผู้ซื้อกําลัง “หดตัว” 

หากดูตามมูลค่ายอดขายตลาดรวมอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโต ดังนั้นผู้ผลิตที่ต้องการเข้าสู่ตลาดนี้ จะต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปสำหรับอาหารสุนัขและอาหารแมว

Kantar Thailand Pet Food Infographic 2

3. เทรนด์ Premiumization กับแบรนด์อาหารสุนัขและอาหารแมว

อาหารแมวแบบเปียกถูกซื้อมากกว่าอาหารสุนัขแบบเปียก โดยมีสัดส่วนน้อยกว่า 15%  นั่นหมายถึงอาหารแห้งยังครองตลาดส่วนใหญ่

แต่อาหารแมวแบบเปียกเติบโตเร็วกว่าอาหารแห้ง แบรนด์ต่างๆ ควรโฟกัสสินค้ารูปแบบนี้ โดยกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียมและซูเปอร์พรีเมียมเติบโตมากที่สุด ในขณะที่อาหารรูปแบบตักซึ่งเคยเป็นที่นิยม แต่ตอนนี้ผู้ซื้อกําลังเปลี่ยนไปใช้รูปแบบบรรจุภัณฑ์แทน

4. ไฮเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อกำลังเติบโต  

Pet Shop และ Provision Store เป็นช่องทางสำคัญสําหรับอาหารสัตว์เลี้ยง โดยครองส่วนแบ่งมูลค่ายอดขายมากที่สุด  ส่วนโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะไฮเปอร์มาร์เก็ต และ ร้านสะดวกซื้อ กําลังเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับช่องทาง “ออนไลน์” ที่มีความสําคัญเพิ่มขึ้น โดยผู้ซื้อมักจะเลือกช่องทางนี้เมื่อต้องการกักตุนสินค้า

ดังนั้นการเข้าสู่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย แบรนด์ต่างๆ จะต้องเตรียมพร้อมสําหรับการจัดจําหน่ายทั้งในโมเดิร์นเทรดรวมไปถึงอีคอมเมิร์ซ และช่องทางการค้าแบบดั้งเดิม

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกเติบโต 5-6% ต่อเนื่อง ในปี 2564 มีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท (หรือมียอดขายปลีกประมาณ 131,000 – 135,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องสูงถึง 7% ตลอดช่วง 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2564-2569)

โดยอาหารแมวเติบโต 8% อาหารสุนัข เติบโต 7%  กลุ่มอาหารเปียกเติบโต 11%  อาหารแห้งเติบโต 5.3%

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like