อาจถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเท่าไรนักสำหรับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Gap ที่ไม่เพียงมียอดขายลดลง แต่ยังไร้ซึ่งทิศทางในการปรับตัวที่ชัดเจน หลังจากซีอีโออย่าง Sonia Syngal ลาออกอย่างกะทันหันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุด บริษัทได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะปรับลดพนักงานในสหรัฐอเมริกา และภูมิภาคเอเชียมากถึง 500 ตำแหน่ง
การปรับลดตำแหน่งครั้งนี้จะมีผลกับสำนักงานในซานฟรานซิสโก และนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงในภูมิภาคเอเชีย โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Gap ยืนยันแล้วว่า จะกระจายไปทุกแผนก ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทมีความพยายามปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่อรับมือกับตัวเลขยอดขายที่ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะแบรนด์ Old Navy ที่มีส่วนแบ่งมากกว่า 50% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัทในปี 2021
อย่างไรก็ดี ในไตรมาสที่ผ่านมา (สิ้นสุดเมื่อ 30 เมษายน 2022) ยอดขายของแบรนด์ Old Navy ลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเหลือเพียง 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดขายจาก Same-Store พบว่าลดลง 22% ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น ในแง่ของทิศทางองค์กรยังพบว่า การบอกลาของซีอีโออย่าง Sonia Syngal ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ทำให้บริษัทดูเหมือนจะไร้ทิศทางในการบริหารจัดการมากขึ้นไปด้วย
ปัญหาของ Gap ยังไม่จบแค่นั้น เพราะบริษัทเพิ่งถูก Kanye West บอกเลิกสัญญาการเป็นพาร์ทเนอร์ชิป โดย Kanye West กล่าวหาว่า Gap ไม่สามารถทำได้ตามที่ระบุไว้ เช่น ไม่สามารถจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Yeezy ที่เขาเป็นเจ้าของได้ทันในช่วงครึ่งปีแรกของ 2021 (กว่าจะพร้อมขายคือเดือนพฤศจิกายน 2021) และไม่สามารถสร้าง Yeezy Gap Store ได้ทันตามที่สัญญาด้วย
บริษัทวิเคราะห์ Wells Fargo เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ (มิถุนายน 2021) ว่า แบรนด์ Yeezy จะสามารถสร้างรายได้ให้กับ Gap ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากความมีชื่อเสียงของ Kanye West ที่พร้อมจะดึงดูดผู้คนให้เข้ามาซื้อสินค้า แต่ดูเหมือนว่า ดีลดังกล่าวจะเกิดความผิดพลาดหลายอย่างที่กู่ไม่กลับแล้วนั่นเอง
สถานการณ์ของ Gap ในตอนนี้จึงถือว่าอันตรายทีเดียว