หากใครยังจำได้ ท่ามกลางการระบาดของ Covid-19 ในปี 2020 มีหลายธุรกิจที่ไม่สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ทันและต้องล้มหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นการ “เกิดขึ้น” ของอีกหลายธุรกิจที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทยในเวลานั้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เกิดขึ้นในเวลาดังกล่าวก็คือ Robinhood แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย ที่วางตัวเป็น “Platform of kindness” ด้วยการ “การไม่เก็บจีพี-การช่วยเหลือร้านค้าคนตัวเล็ก” แถมยังมีไรเดอร์ที่สุภาพระดับธนาคาร
ทำให้ Robinhood เปิดตัวพร้อมระบบการชำระเงินแบบ Cashless (ตัดเงินผ่านบัญชีธนาคาร) ซึ่ง ณ เวลานั้น ถือว่าช่วยลดความเสี่ยงของการสัมผัสเงินสดที่อาจเป็นตัวการให้เกิดการแพร่เชื้อ Covid-19 ได้เป็นอย่างดี รวมถึงทำให้แพลตฟอร์มสามารถจ่ายเงินให้กับร้านค้า และไรเดอร์ได้อย่างรวดเร็วกว่าแพลตฟอร์มอื่นในเวลานั้นอีกด้วย โดยเม็ดเงินที่เข้าถึงร้านค้าและไรเดอร์นั้นถือว่าได้ช่วยต่อชีวิตให้กับคนตัวเล็กในสังคมให้ผ่านพ้นวิกฤติมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
คุณสีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด เผยว่า จากจุดเด่นดังกล่าว ทำให้ Robinhood สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในทุกมิติ หลังจากเปิดให้บริการในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี Robinhood Food Delivery สามารถขึ้นอันดับ 2 ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีที่ได้รับความนิยมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบนแพลตฟอร์มกว่า 225,000 ร้าน มีลูกค้าลงทะเบียนใช้งานจำนวนกว่า 3 ล้านคน มีไรเดอร์ที่ให้บริการส่งอาหารกว่า 30,000 คน
Robinhood ยังสานต่อพันธกิจในการสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม จากคนตัวเล็กในธุรกิจอาหาร สู่ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเปิดบริการ “Robinhood Travel” บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร (all-in-one travel service) ครอบคลุมบริการจองทัวร์และกิจกรรม บริการเช่ารถ และบริการจองตั๋วเครื่องบิน ไม่เก็บค่าคอมมิชชั่นกับผู้ประกอบการโรงแรม โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 16,000 แห่ง
“First Party Data” สินทรัพย์ที่เหนือกว่าในโลกที่ไร้คุกกี้
แต่ Pain Point ต่อไปที่ทีมงาน Robinhood มองเห็น และอยากเข้าไปช่วยหลังจากนี้เป็นเรื่องที่ต่างออกไป เพราะความท้าทายครั้งนี้มาจากกลุ่มธุรกิจโฆษณา ที่กำลังเผชิญกับโลกการตลาดแบบไร้คุกกี้ (The Cookie-less World)
คุกกี้ (Cookie) คือโปรแกรมเล็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยฝังตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิสก์ของเราเพื่อเก็บข้อมูล และพฤติกรรมการใช้งาน จากนั้นข้อมูลจะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อให้นักการตลาดสามารถยิงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น การที่เราเคยเสิร์ชหาข้อมูลบางอย่างเอาไว้ เมื่อเราเข้าเว็บไซต์บางแห่ง จะพบโฆษณาของสินค้าที่คล้าย ๆ กับที่เราเคยเสิร์ชหาปรากฏขึ้นมา ซึ่งบางทีไม่ว่าจะเปิดเว็บไซต์ไหน ก็จะเจอโฆษณาสินค้านั้น ๆ ตามมาไม่หยุดหย่อน
ซึ่งประสบการณ์เช่นนี้ใช่ว่าจะถูกใจชาวเน็ต โดยข้อมูลจาก Accenture Song พบว่า การใช้คุกกี้ – การเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคของแอปพลิเคชันต่าง ๆ เริ่มไม่ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากผู้ใช้งานรู้สึกไม่พึงพอใจที่ตนเองได้รับโฆษณาที่ตรงกับพฤติกรรมมากเกินไป จนรู้สึกว่าถูกล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัว
ความไม่พอใจนี้ได้ทำให้ Apple ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ iOS ตัดสินใจส่งอัพเดทที่ทำให้ผู้ใช้ไอโฟนสามารถปฏิเสธการสะกดรอยทั้งหมดได้ และในเวลาต่อมา ทางระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ก็ตัดสินใจทำสิ่งเดียวกัน ซึ่งในมุมของนักการตลาด ระบบที่ขาดข้อมูลจากคุกกี้ไปนั้น ถือเป็นสิ่งท้าทายอย่างมาก เพราะพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละรายแบบเจาะลึกได้อีกนั่นเอง
3 นักการตลาดดังแนะเทคนิครับมือโลกไร้คุกกี้
แต่ความท้าทายนี้สามารถแก้ได้ โดยคุณจิรัศดา ลิ้มสุวรรณ กรรมการผู้จัดการแผนกบริหารและจัดการลงทุน GroupM (Thailand) เผยว่า แบรนด์อาจต้องเริ่มเก็บข้อมูลของผู้บริโภคด้วยตัวเอง ผ่านการทำ CRM, การทำ Subscription หรือเก็บจาก Social Data ของทางแบรนด์ ไม่ก็มองหาแพลตฟอร์มที่มีการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคตัวจริงเอาไว้อย่าง Super App ต่าง ๆ
ขณะที่คุณชาญชัย พงศนันทน์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดเพื่อประสิทธิภาพ และหัวหน้าฝ่ายการลงทุนทางธุรกิจสื่อดิจิทัล dentsu international Thailand เสริมว่า ก่อนเก็บข้อมูล สิ่งที่แบรนด์ต้องพิจารณาคือ จะเก็บจากช่องทางไหน และจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดด้วย ซึ่งถ้าหากแบรนด์ยังไม่พร้อม การหาพาร์ทเนอร์ที่ดี ที่มี Data พร้อมกว่าก็อาจทดแทนกันได้เช่นกัน
ด้านคุณปัญชรี สิทธิเสนี กรรมการผู้จัดการ Entravision MediaDonuts Thailand มองว่า Super App ถือเป็นทางเลือกใหม่ของแบรนด์ในการเข้าถึง First Party Data ในโลกที่ไร้คุกกี้ที่ดีตัวหนึ่ง เนื่องจากแพลตฟอร์ม Super App ไม่เพียงสร้างการเติบโตด้านข้อมูลของลูกค้าที่ใช้บริการได้ แต่ยังมี Trust หรือความน่าเชื่อถือด้วย เพราะผู้บริโภคต้องฝากข้อมูลทางการเงิน – ข้อมูลที่อยู่ ฯลฯ เอาไว้บนแพลตฟอร์ม ถ้าหากไม่น่าเชื่อถือก็ยากที่จะไว้วางใจนำข้อมูลเหล่านี้ไปมอบให้กับแพลตฟอร์มนั่นเอง
ซึ่ง “Robinhood” เองมีข้อมูลดังกล่าวอยู่ และถือว่าเป็น Data ของลูกค้าที่ “เหนือกว่า” หลายแพลตฟอร์มอย่างเห็นได้ชัด อิงจากข้อมูลของ World Income Database ที่ระบุว่าประเทศไทยสามารถแบ่งประชากรตามกลุ่มรายได้ออกเป็น 4 กลุ่ม นั่นคือ กลุ่มที่มีฐานะร่ำรวย 3% กลุ่มฐานะปานกลาง-บน 7% กลุ่มรายได้ปานกลาง-ต่ำ 40% และกลุ่มรายได้ต่ำ 50% ผู้ใช้งานโรบินฮู้ดอยู่ในกลุ่มฐานะร่ำรวยถึง 29% และกลุ่มฐานะปานกลาง-บนมากถึง 20% ซึ่งเมื่อรวมแล้วถือว่าเป็นฐานข้อมูลของกลุ่มผู้ใช้งานระดับ Upper Level ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
การมีกลุ่มผู้ใช้งานดังกล่าวบนแพลตฟอร์มยังสะท้อนได้จากศักยภาพในการจับจ่ายที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Robinhood จะมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 200 บาทขึ้นไป ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นจะมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 120 บาทเท่านั้น นอกจากนั้นผู้ใช้งาน Robinhood ยังเป็นผู้ที่มีบัญชีธนาคารทั้งสิ้น จึงมีการนิยามผู้ใช้งานกลุ่มนี้ว่าเป็นระดับ Upper Urban เลยทีเดียว
แผนดำเนินงานธุรกิจของ Robinhood ในก้าวถัดไปจากนี้จะเปิดบริการ Robinhood Mart บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 บริการ Robinhood Express การบริการรับ-ส่งของ ในไตรมาสสาม และบริการ Robinhood Ride-Hailing หรือบริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ในช่วงไตรมาสสี่ ทั้งหมดนี้คือ Robinhood Journey Toward Super App ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเพื่อปูทางไปสู่การเป็น “Super App สัญชาติไทย” ที่สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาค (Regional Player)
โดย Robinhood มีการตั้งเป้าผู้ใช้งานว่าจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 4 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ด้วย ซึ่งในอีกทางหนึ่ง เชื่อว่าบริการดังกล่าวจะทำให้นักการตลาดเข้าใจผู้ใช้งานผ่าน Data ต่าง ๆ ได้ในหลายแง่มุมนั่นเอง
แท็กทีม 3 มีเดียเอเจนซีดังเปิดตัว Robinhood Advertising
ในปี 2565 การใช้จ่ายสำหรับสื่อโฆษณาดิจิทัลคาดว่าจะเติบโตขึ้น 9% คิดเป็นมูลค่า 27,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวด้านนวัตกรรมดิจิทัลอย่างรวดเร็ว โดยความร่วมมือในการนำเสนอบริการพื้นที่สื่อโฆษณาดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม Robinhood (Robinhood Advertising) ในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานใหม่ของ Robinhood เพื่อช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการมุ่งมั่นช่วยเหลือธุรกิจและชุมชนให้สามารถเติบโตได้ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และยังช่วยสนับสนุนความมุ่งมั่นของ Robinhood ในการมุ่งสู่การเป็น “Super App” ได้อีกด้วย
“Robinhood” ผนึกกำลัง “Accenture Song” เปิดตัวธุรกิจโฆษณาดิจิทัล
Robinhood จับมือกับ Accenture Song (ชื่อเดิมคือ Accenture Interactive) บริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัล และคลาวด์ระดับโลก เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์นำข้อมูลเชิงลึก และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ช่วยสนับสนุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Digital Marketing บนแพลตฟอร์ม Robinhood ให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่สนใจทำโฆษณา พร้อมแต่งตั้ง 3 มีเดียเอเจนซี่แถวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ GroupM (Thailand), dentsu international Thailand และ Entravision MediaDonuts Thailand เป็นตัวแทนจำหน่ายโฆษณาอย่างเป็นทางการของ Robinhood Advertising
คุณศรัณย์ ชินสุวพลา หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ระบุว่า จุดแข็งของ Robinhood คือการเป็น Closed System หรือแพลตฟอร์มแบบปิดที่บริษัทสามารถควบคุมระบบทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวนี้ถือว่าปลอดภัยสำหรับแบรนด์ในการแสดงผลโฆษณา และสามารถควบคุมการแสดงผลโฆษณาได้ว่าจะปรากฏตัวที่จุดใดบ้าง
“การเติบโตอย่างยั่งยืนของ Robinhood เป้าแรกคือไม่ใช่การหากำไรสูงสุด แต่เราอยากจะเป็น The Most Admired Super App เป็นกำไรที่เราสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ซึ่งการเปิดตัว Robinhood Advertising เราต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นที่ว่าเราไม่ได้เปิดแอปมาเพื่อขายโฆษณา แต่เราเปิดแอปมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของลูกค้า ถ้าลูกค้าต้องการกินข้าว ลูกค้าต้องเจอสินค้าที่ต้องการก่อน แล้วเราค่อยมีโฆษณา เพื่อไม่ให้กระทบกับประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า” คุณศรัณย์ กล่าว
จึงเป็นที่มาว่า Journey การใช้ชีวิตของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม Robinhood 1. ถ้าเปิดมาหน้าแรก Home Screen ลูกค้าจะเจอบริการอื่นๆ ของ Robinhood ก่อน และค่อยตามด้วย Ads 2. ในหน้า Landing Page เราจะพยายามเลือก Ads ที่เกี่ยวข้องกับ Segment นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Food Delivery, Travel หรือ Mart และเราจะพยายามนำเสนอ Ads ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและ Segment ของลูกค้า 3. หน้า Search ลูกค้าจะเจอสิ่งที่ต้องการก่อนแล้วถึงจะเจอ Ads 4.หน้า Delivery Ads ในช่วงระหว่างไรเดอร์นำอาหารมาส่งลูกค้า
สำหรับพื้นที่ที่จะเปิดให้บริการเป็นสื่อโฆษณานั้น คุณศรัณย์ เผยว่า มีทั้งหมด 4 ประเภท โดยจะนำเสนอพื้นที่โฆษณาดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม Robinhood ในแต่ละ Segment ของหน้าจอ เพื่อนำเสนอให้กับลูกค้า ซึ่ง ณ ตอนนี้ Robinhood นำเสนอ Premium Ads ที่มี Share of Voice 100% มี Native Ads ที่อยู่ในทุกๆ Service เพื่อสร้าง awareness ให้กับลูกค้า รวมถึง Native-Delivery หลังจากลูกค้าทำ Transaction แล้วระหว่างรอสามารถดู Ads ของสินค้า หรือแบรนด์ที่สนใจได้ และในอนาคต Robinhood จะนำเสนอ Interstitial ที่เป็น Pop up Screen ที่มี Share of Voice 100% และมั่นใจว่าจะสามารถสร้าง awareness ให้กับลูกค้าแน่นอนได้แน่นอน
คุณศรัณย์กล่าวต่อไปด้วยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้จากบริการ Robinhood Advertising ไว้ที่ 50 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และปัจจุบัน มีแบรนด์ขนาดใหญ่มากกว่า 12 แบรนด์ ได้ทดลองใช้บริการแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Texas Chicken, Index Living Mall, Vitza เครื่องดื่มเสริมวิตามิน, VIU แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง ฯลฯ
จุดแข็งและข้อแตกต่างของ Robinhood Advertising
Robinhood Advertising จะแตกต่างจากจากคนอื่น ได้แก่ ฐานข้อมูลของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Upper Middle ที่มีฐานเงินเดือน 50,000 ขึ้นไปครึ่งนึง นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ชอบทดลองของใหม่ๆ และมีการกลับมาซื้อซ้ำ ซื้อบ่อย ซื้อเยอะ มี Average Order Value อยู่ที่ 200 บาท ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยข้อมูลที่แข็งแกร่งที่สำคัญที่สุดของ Robinhood คือ Dining Context ที่ดูจากพฤติกรรมการสั่งอาหารของลูกค้า ช่วยให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้เพื่อที่จะนำเสนอ Ads ที่ตอบโจทย์ รวมถึง Customer Spend ดู Size of Spend/Payment Card เป็นอย่างไร เจาะลึกไปถึงประเภทของบัตร และของธนาคารอะไร ซึ่งจะสามารถบอกได้ถึงฐานเงินเดือน นอกจากนี้ Robinhood มี Expansive Service สามารถรู้ทุกพฤติกรรม ทุก ๆ Journey การใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างละเอียด เพื่อที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในไลฟ์สไตล์และเวลาที่เหมาะสมได้
จะเห็นได้ว่า เส้นทางการเติบโตของ Robinhood นั้นถือว่ารวดเร็วไม่น้อยเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์ม Super App อื่น ๆ ที่มีตัวตนมาแล้วเป็นสิบปี โดยสิ่งที่ทำให้พวกเขาเติบโตได้รวดเร็วอาจเป็นการสร้างมิตรภาพระหว่างการเดินทาง ที่หลายครั้ง Robinhood เลือกที่จะยอมเสียเปรียบ และใช้สิ่งที่ตัวเองมีไปช่วยเหลือคนตัวเล็กก่อน ซึ่งเป็นตัวตนที่ถูกจริตคนไทย เห็นได้จากระยะเวลาที่ผ่านมาเพียงปีครึ่ง แพลตฟอร์มของพวกเขากลายเป็นพื้นที่แหล่งรวมผู้ใช้งานระดับ Upper Level ได้มากถึง 3 ล้านคน
การเปิดตัว Robinhood Advertising ที่เกิดจากการร่วมมือกับบริษัทระดับโลกอย่าง Accenture Song ในวันนี้จึงเป็นการเพิ่มจุดแข็งให้กับแพลตฟอร์ม และเชื่อว่าจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนบนแพลตฟอร์ม ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้ด้วยนั่นเอง
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ contact@robinhood.in.th
สำหรับผู้ที่สนใจลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Robinhood ติดต่อที่ media@sales.robinhood.in.th หรือ www.robinhood.co.th/ads