บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย หรือ QSR กลุ่มธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟ มีแบรนด์ KFC เป็นแบรนด์เรือธงหลักในการทำตลาด สามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่องตลอด 5 ปีหลังการคว้าสิทธิ์บริหาร KFC ในเมืองไทย มีจำนวนสาขาในมือไปแล้วกว่า 430 แห่ง ล่าสุดผนึกพันธมิตรในเครือเปิดตัว “KFC Café by SO COFFEE” ขึ้น หวังเพิ่มโอกาสทางการขายให้แก่ลูกค้า
ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดไก่ทอดเมืองไทยมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนคู่แข่งที่มีมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแปลงไป ทำให้การมีไม้เด็ดแค่เมนูไก่ทอดไม่เพียงพอที่จะเติมทราฟฟิกตลอดวัน
เพราะช่วงเวลาทองของการขาย Peak Time ส่วนใหญ่จะ อยู่ในช่วงกลางวัน และเย็นเป็นหลัก ดังนั้นการจะขยายการเติบโตให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในโอกาสการรับประทานของผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้เป็นมากกว่ามื้อกลางวัน และมื้อเย็น
นั่นทำให้ทาง QSR ต้องเดินหน้าเพิ่มโอกาสทางการขายพร้อมปรับแผนให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ที่หลากหลาย ด้วยการซินเนอร์ยี่ธุรกิจในเครือไทยเบฟ ทั้ง เครื่องดื่ม ขนม แบรนด์อาหารต่างๆ มาไว้ในร้านเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า พร้อมทั้งโอกาสทางการขายตลอดทั้งวันที่ไม่ใช่เพียงแค่ไก่ทอด
เริ่มจากในปี 2563 KFC ภายใต้การบริหารงานของ QSR นำร่องสร้างประสบการณ์ความแปลกใหม่ให้แก่ลูกค้าในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ และคอเบียร์มาแล้ว ด้วยการเปิดขายเบียร์สดภายในร้าน KFC โดยเปิดให้บริการสาขาแรกที่ The Parq เป็นอาคารสำนักงาน Mixed Use ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ TCC Group ซึ่อีกหนึ่งธุรกิจในเครื่อของไทยเบฟฯในปี 2563 ก่อนขยายไปยังร้านเคเอฟซี ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ในปี 2564
ก่อนที่จะผลักดันอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจในเครืออย่างชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิเข้าไปวางจำหน่ายภายในร้านทั้ง ชาเขียวโออิชิรสฮันนี่เลม่อน ,ชาเขียวรสส้มยูซุ โดยนำร่องไปแล้ว 50 สาขา (เฉพาะที่ QSR บริหารงาน)
เมนูกาแฟใหม่จาก KFC Café by SO COFFEE
KFC Café by SO COFFEE คาเฟ่ใหม่ในร้านไก่ทอด
ล่าสุดทาง QSR เริ่มมองหาโอกาสเพิ่มเติมในการเพิ่มโอกาสทางการขายให้แก่ร้าน โดยเลือกจากกลุ่มธุรกิจที่มีอยู่ในเครือไทยเบฟเข้ามาเสริมแกร่งเข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ ด้วยการผนึกกำลังกับแบรนด์ SO COFFEE เปิดเป็น KFC Café by SO COFFEE เน้นสร้างสรรค์เครื่องดื่มเอาใจลูกค้าด้วยกาแฟคุณภาพดี เมล็ดกาแฟผ่านการคัดสรรสายพันธุ์คุณภาพจากที่ราบสูงโบโลเวน ประเทศลาว หนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก นำมาเบลนด์ตามสูตรเฉพาะของ KFC Arabica Blend
นอกจากเมนูกาแฟแล้วยังมีเครื่องดื่มประเภทอื่นๆ เช่น ช็อกโกแลต, มัทฉะ, สตรอเบอร์รี่พิงกี้ ที่เสิร์ฟรสชาติความอร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งจากการเปิดตัว KFC Café by SO COFFEE ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบรสชาติกาแฟระดับพรีเมียม ในราคาจับต้องได้ จนสามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี ทำให้มีสัดส่วน 40% ของกลุ่มเครื่องดื่มสร้างยอดขายเติบโต
KFC Café by SO COFFEE โซนคาเฟ่เครื่องดื่มใหม่จาก KFC
ตั้งเป้าขยายการให้บริการ KFC Café by SO COFFEE ในสาขาของ เดอะ คิว เอส อาร์ ออฟ เอเชีย จำนวน 250 สาขาภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีสาขา KFC ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทแล้วกว่า 430 แห่งครอบคลุมกว่า 50 จังหวัดในประเทศไทย
คุณศสัย ตังเดชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด กล่าวว่า แนวทางในการสร้างการเติบโตของแบรนด์ KFC นับจากนี้จะเดินหน้าการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ประการได้แก่
- มัลติ สโตร์ ฟอร์แมต (Multi Store Format) การมีฟอร์แมตของร้านที่หลากหลายตามสภาพแวดล้อม ครอบคลุมตั้งแต่ร้านขนาดใหญ่ในห้างสรรพสินค้า ร้านขนาดกลางในสถานีบริการน้ำมัน และ Community Mall ไปจนถึง ร้าน “Shop House” ในย่านชุมชน รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาสร้างประสบการณ์ใช้งานในรูปแบบใหม่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มบริโภคได้อย่างเหมาะสมไม่ว่าจะเป็น ร้าน KFC Digital Lifestyle Store สั่ง จ่าย แบบไร้สัมผัสที่แรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และการอำนวยความสะดวกในการสั่งอาหารผ่านเครื่องสั่งอาหารด้วยตนเอง (Self-Ordering Kiosk) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็น Branded Store ให้กับ KFC ประเทศไทย ในการต้อนรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
- การเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง ทั้งการจัดส่งอาหาร (Delivery) การบริการแบบซื้อกลับ การบริการในรูปแบบ self-pick up ที่ลูกค้าสามารถสั่งผ่านมือถือได้ล่วงหน้าและเลือกรับจากสาขาที่สะดวก นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการ “เคเอฟซี ฟู้ดทรัค” ที่มีการเสริมนวัตกรรมต่างๆ อาทิ อุปกรณ์เพื่อลดการใช้พลังงาน และการดูแลเรื่องสุขอนามัยตั้งแต่กระบวนการผลิต การดูแลเรื่องเศษอาหารและถังดักไขมันให้เป็นน้ำสะอาดเพียงพอในการระบายทิ้งตามมาตรฐานที่กำหนดเฉกเช่นเดียวกันกับร้านอาหาร
- การขยายการเติบโตผ่านสายผลิตภัณฑ์ KFC ผ่านตัวตนความเป็นตัวจริงเรื่องไก่ทอด ด้วยการคิดค้นพัฒนาเมนูใหม่ รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายออกมารองรับพฤติกรรมผู้บริโภค
โดยวางเป้าหมายในปี 2565 บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จะผลักดันยอดขายเติบโตกว่า 20% และมีการขยายสาขาเพิ่มเติมกว่า 30 สาขาในปี 2565 รวมเป็นจำนวนสาขากว่า 430 สาขา หรือเติบโตกว่า 60% จากปี 2561
ซีอาร์จี เปิด KFC Cafe’ by Arigato ลุยขายเครื่องดื่มญี่ปุ่นในร้าน
ไม่ใช่แค่ไทยเบฟฯเท่านั้น เริ่มขยับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันในครั้งนี้ หากแต่ก่อนหน้าอีกหนึ่งเจ้าของสิทธิ์ KFC รายใหญ่ในไทยตั้งแต่ยุคบุกเบิกอย่างเซ็นทรัล โดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือ CRG ก็ได้เปิดตัว KFC Cafe’ by Arigato ซึ่งเป็นการนำร้านกาแฟแบรนด์ Arigato ในเครือของบริษัท เข้ามาเสริมพื้นที่ด้านหน้า หรือโซนขายของหวาน ของทานเล่นให้กลายเป็นมุมกาแฟบริเวณหน้าร้าน จากเดิมที่วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท
KFC Cafe’ by Arigato เมนูเครื่องดื่มในร้าน KFC ในเครือ CRG
ด้วยจุดเด่นแบรนด์เครื่องดื่มนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทั้ง 16 เมนู โดยเมนูร้อนราคาเริ่มต้นแก้วละ 25 บาท ถ้าเป็นเมนูกาแฟเย็นอยู่ที่แก้วละ 35 บาท มีจุดเด่นที่ เป็นเครื่องดื่มชงสด และ มัทฉะระดับพรีเมียม นำเข้าจากเมืองซิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น จำหน่ายในสาขา KFC ของบริษัททั้งสิ้น 238 สาขา จากที่มีอยู่ทั้งหมด 307 สาขา โดยมี 3 เมนูขายดีอันดับ 1.อย่าง มัทฉะลาเต้เย็น 2.ช็อกโกแลตเย็น และ 3. เลิฟมัทฉะ (เป็นการ blend flavor ระหว่าง มัทฉะ กับ สตรอว์เบอร์รี่) ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน KFC ในประเทศไทยมีทั้งหมด 953 สาขา ภายใต้การบริหารงานของ 3 บริษัท ผู้ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ ได้แก่ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด หรือ QSA , บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG และบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ RD
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการจัดทัพเติมพอร์ตเพื่อสร้างโอกาสทางการขาย ที่ต้องเข้าไปอยู่ในทุกช่วงของการรับประทานทั้งมื้อหลัก เครื่องดื่ม ขนม ให้ครบวงจรภายภายในร้านในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารต้องวัดกันที่ความแปลกใหม่
KFC ‘ไก่ทอดไม่ทอดทิ้ง’ ส่งต่อความฟินชิมไก่ทอดครั้งแรกทั่วประเทศ