สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงไปทั่วโลกขณะนี้ ไม่เพียงส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ ต้องหาทางรัดเข็มขัด – หาแหล่งพลังงานสำรองกันวุ่นวาย แต่ยังทำให้บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกต้องเปลี่ยนมือด้วย โดยบริษัทน้ำมันอย่าง Saudi Aramco จากซาอุดิอาระเบียได้โค่นบัลลังก์แอปเปิล (Apple) ยักษ์ใหญ่จากโลกเทคโนโลยีได้สำเร็จ หลังมีมูลค่าตลาดทะลุ 2.426 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าแอปเปิลที่มีมูลค่า 2.415 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไปอย่างฉิวเฉียด
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบย้อนหลัง พบว่า หุ้นของ Saudi Aramco ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของ Apple ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบกับต้นปีที่ผ่านมา หุ้น Apple ปรับตัวลดลงแล้วราว 17%
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หุ้น Apple ปรับตัวลดลงมาจากปัญหาด้านซัพพลายเชน โดยก่อนหน้านี้บริษัทเผยว่า อาจได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ในจีน โดยเฉพาะการระบาดของ Covid-19 ในมณฑลเจียงซู และมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นที่รวมของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้กับแอปเปิล และบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก
เว็บไซต์ 9to5Mac อ้างว่า ปัญหาด้านซัพพลายเชนอาจทำให้การส่งมอบ iPhone ในปีนี้ลดลง 6 – 10 ล้านเครื่อง ส่วน iPad และ Mac ก็อาจส่งมอบได้ช้ากว่ากำหนดการด้วย เพราะเมืองอย่างเซี่ยงไฮ้นั้นคือที่ตั้งของซัพพลายเออร์ Apple เป็นจำนวนกว่า 30 รายเลยนั่นเอง
สวนทางกับสถานการณ์ของ Saudi Aramco ที่ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 139 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทน้ำมันอย่าง Saudi Aramco ทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดย Saudi Aramco จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกในสุดสัปดาห์นี้ และคาดว่ารายได้สุทธิของบริษัทจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเป็น 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2021 ด้วย