HomeDigitalSEA เปิดผลสำรวจคนไทยยุคดิจิทัลโดน Covid กระทบ “รายได้-เงินออม-สุขภาพจิต”สูงสุด

SEA เปิดผลสำรวจคนไทยยุคดิจิทัลโดน Covid กระทบ “รายได้-เงินออม-สุขภาพจิต”สูงสุด

แชร์ :

shutterstock_post covid

Sea (Group) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่เผยผลสำรวจคนไทยยุคดิจิทัล ผ่านรายงาน Thai Digital Generation 2021 พบ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีรายได้และเงินออมน้อยลง รวมถึงมีสุขภาพจิตแย่ลงด้วยในช่วงที่ Covid-19 ระบาด โดยมีถึง 6% ที่ยอมรับว่า ไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้เลย รายงานยังพบด้วยว่า ในโลกหลังโควิด-19 คนไทยกังวลปัญหาเศรษฐกิจสูงสุด (63%)

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

รายงานดังกล่าวได้รับการเปิดเผยผ่าน Sea Insights หน่วยงานที่รับผิดชอบการวิจัยด้านนโยบายสาธารณะภายใต้ Sea (Group) โดยมีการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ในกลุ่มคนอายุระหว่าง 16 – 60 ปี ที่เคยใช้บริการดิจิทัล จำนวน 86,000 คน จาก 6 ประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลคนยุคดิจิทัลในประเทศไทย 12,800 คน โดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจ MSME ประมาณ 2,000 ราย (ต่อยอดจากผลการศึกษาประจำปี 2020 ที่มุ่งศึกษากลุ่มเยาวชนและคนรุ่นใหม่ (อายุ 16 – 35 ปี เป็นหลัก)

ความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงจากโควิด-19

สิ่งที่ Sea Insight พบในการสำรวจ Thai Digital Generation 2021 มีความน่าสนใจในมุมต่าง ๆ ดังนี้

sea insight digital gen 2021-income

  • รายได้เงินออม และสุขภาพจิต ได้รับผลกระทบหนัก: จากผลสำรวจพบว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีรายได้และเงินออมน้อยลง โดย 40% ระบุว่าลดลงอย่างรุนแรง ในขณะที่ 60% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสุขภาพจิตแย่ลงในช่วงที่ไวรัสระบาด
  • ทำงาน – เรียนออนไลน์เกิดขึ้นไม่ได้จริง : โดยในจำนวนนี้ 78% ของนักเรียน พนักงาน และเจ้าของธุรกิจบอกว่าพวกเขาประสบความยากลำบากในการทำงานหรือการเรียนทางไกล และ 6% ระบุว่าไม่สามารถทำงานหรือเรียนทางไกลได้โดยสิ้นเชิง
  • กลุ่มเปราะบางมีความสามารถในการปรับตัวสูง: แม้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก(MSME) ที่ทำงานในอุตสาหกรรมร้านอาหารและท่องเที่ยว และผู้หญิง จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักกว่ากลุ่มอื่นๆ ทั้งในด้านรายได้และปัญหาความเครียดอย่างรุนแรง ในกรณีของผู้หญิงอาจสะท้อนไปถึงการต้องแบกรับภาระการดูแลครอบครัวด้วยในเวลาเดียวกัน
  • ล้ม – ลุก – ปรับตัว : ท่ามกลางความท้าทายนี้ 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามได้ปรับตัวจนพบธุรกิจใหม่หรืองานใหม่ในช่วงโควิด-19 และกลุ่มผู้หญิงและผู้ประกอบการ MSME เป็นกลุ่มที่แสดงความสามารถในการฟื้นตัว (Resilience) ได้เป็นอย่างดี สะท้อนจากการก่อตั้งธุรกิจใหม่ นอกจากนี้ 1 ใน 4 ของ MSME ยังช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่ในช่วงนี้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน ยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจจากผลสำรวจ ได้แก่ บุคคลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่าจะได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจทางลบน้อยกว่า (คิดเป็น 60% ของผู้ที่สูญเสียรายได้) เมื่อเทียบกับผู้ใช้เทคโนโลยีในระดับต่ำ (คิดเป็น 72% ของผู้ที่สูญเสียรายได้)

“ไอที-ขนส่ง-เกษตร” เติบโต จ้างงานเพิ่ม

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 Sea Insight ยังพบด้วยว่า อุตสาหกรรมร้านอาหารและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบและมีการจ้างงานลดลง 24%

ในทางกลับกัน ภาคการขนส่ง ภาคการเกษตร และภาคเทคโนโลยี-โทรคมนาคม มีอัตราการจ้างงานสูงขึ้น โดยภาคการเกษตรมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 26% จากแนวโน้มการอพยพคืนสู่ท้องถิ่นของแรงงานในเมืองจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)

sea insight digital gen 2021

ในขณะที่การเร่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ ส่งผลให้ภาคเทคโนโลยีและโทรคมนาคมเติบโต 23% รวมถึงภาคการขนส่งที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ส่งผลเติบโตถึง 29%

ดังนั้นหากแรงงานได้รับการส่งเสริมทักษะดิจิทัล อาจช่วยให้สามารถคว้าโอกาสในตลาดแรงงานจากภาคธุรกิจที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะดังกล่าวได้

ต่อยอดดิจิทัล โอกาสเติบโตรอบใหม่

sea insight thai digital gen

ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต 62% ของคนไทยเผยความต้องการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากขึ้น และ 86% มองว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น MSME และผู้หญิง จากการวิเคราะห์ข้อมูล Sea Insight ระบุว่า พบแนวทางการขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคต ดังนี้

  • ต่อยอดการเงินดิจิทัล : การศึกษาชี้ให้เห็นว่าคนไทย 65% มีการใช้ดิจิทัลเพย์เมนต์  มากกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 51% ซึ่งส่วนหนึ่งอาจสะท้อนถึงการผลักดันจากธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น นโยบายพร้อมเพย์ นอกจากนี้ อีเพย์เมนต์เป็นพื้นฐานสำคัญที่สามารถต่อยอดเทคโนโลยีการเงินด้านอื่นๆ เช่น สินเชื่อดิจิทัล ที่สามารถทำให้ผู้ที่ขาดหลักประกันเข้าถึงเงินทุนได้ โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ หรือ 53% ต้องการเห็นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในบริการเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ MSME ที่อาจยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงิน มี 76% แสดงความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงิน และ 66% ต้องการให้บริการสินเชื่อและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น
  • ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี (DigitalDivide) : เพื่อลดและป้องกันการเกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี จำเป็นต้องแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ทักษะดิจิทัล และประเด็นเรื่องความปลอดภัยในโลกออนไลน์ ซึ่งสะท้อนมาจากผลสำรวจที่พบว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับคนไทยที่เพิ่งเริ่มใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมักจะเกี่ยวข้องกับทักษะและความรู้เรื่องดิจิทัล (48%) รองลงมาคือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี (41%) และอุปกรณ์แพงหรือขาดอุปกรณ์ (38%) ในขณะที่ผู้ที่ใช้เทคโนโลยีบ่อยอยู่แล้วมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่สูงและคุณภาพที่ต่ำของอุปกรณ์ดิจิทัล (35%) ราคาที่สูงและคุณภาพที่ต่ำของอินเทอร์เน็ต (34%) และความปลอดภัยในโลกออนไลน์ (33%)
  • ใช้ดุมล้อแห่งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล(Digitalisation Flywheel Effects) ให้เป็นประโยชน์ : รัฐและเอกชนอาจมีบทบาทสำคัญในการร่วมมือกันสร้างวงจรบวกในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับผู้ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับโลกออนไลน์ เช่น การพ่วงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกับการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ มากขึ้น โดยรายงานนี้พบว่า 79% ของผู้ที่ได้มีโอกาสลองใช้เทคโนโลยีจนตระหนักถึงประโยชน์แล้ว อาจเกิดวงจรบวกที่ทำให้ยิ่งต้องการเรียนรู้เพื่อใช้เครื่องมือดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ดิจิทัลจะมีความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้นเพียง 28% เท่านั้น การพบอุปสรรคเพียงเล็กน้อยอาจทำให้การเรียนรู้ใช้เทคโนโลยีหยุดชะงักได้
  • พัฒนาดิจิทัลแอมบาสซาเดอร์ : คนไทยจำนวนมากเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากกันและกันในช่วงโควิดระบาด ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ควรสนับสนุนให้มีการถ่ายทอดทักษะดิจิทัลซึ่งกันและกัน ทั้งในรุ่นเดียวกันและข้ามรุ่น โดยรายงานพบว่าบางครั้งดิจิทัลแอมบาสซาเดอร์หรือผู้ที่เป็นตัวแทนในการสอนการใช้งานดิจิทัลให้ผู้อื่น อาจไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เสมอไป  เพราะพบว่า กลุ่มคนอายุ 31-40 ปี (37%) และ 41-50 ปี (36%) ได้มีบทบาทในการถ่ายทอดทักษะการใช้งานเครื่องมือดิจิทัลใหม่ ๆ มากกว่ากลุ่มอื่น  อาจมีสาเหตุจากช่องว่างระหว่างวัยผู้เรียนและผู้สอนที่น้อย และกลุ่มนี้มีความเข้าใจทั้งโลกยุคอะนาล็อกและโลกดิจิทัล ทำให้สามารถอธิบายเข้าใจง่ายและการสื่อสารมีประสิทธิภาพมากกว่า

sea insight thai digital gen 2

โลกหลังโควิด-19 คนไทยกังวลปัญหาเศรษฐกิจสูงสุด

ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามคนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 จะสิ้นสุดลงภายใน 2 ปี แต่ผู้ตอบแบบสอบถามอีกกว่า 40% มองว่าสถานการณ์นี้อาจคงอยู่ในระยะยาว และ 60% มองว่าโลกหลังสถานการณ์โควิด-19 จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเล็งเห็นบทบาทของทักษะที่จะช่วยรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จึงยกให้ทักษะการใช้เทคโนโลยีเป็นทักษะที่สำคัญมากที่สุดในอนาคต

ในขณะเดียวกัน คนไทยกังวลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอีกครั้งมากที่สุด (63%) ตามมาด้วยความกังวลต่อการเกิดโรคระบาดระลอกใหม่ (49%) โดยมุมมองของคนไทยยุคดิจิทัลต่ออนาคตโลกหลังโควิด-19 มีดังนี้

  • โอกาสสำคัญจากการคำนึงถึงสุขภาพกายและจิตใจ : คนไทยมองว่าการพัฒนาด้านสาธารณสุข (39%) และการที่สังคมให้ความสำคัญต่อเรื่องสุขภาพจิตมากขึ้น (32%) จะเป็นโอกาสสำคัญในโลกหลังโควิด-19 โดยเฉพาะผู้หญิงและผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยอินไซต์ที่ผู้ตอบแบบสอบถามอยากเห็นการพัฒนาของสังคมไทยไปสู่สังคมที่เห็นอกเห็นใจและเอาใจใส่กันมากขึ้น
  • ทักษะสำคัญแห่งอนาคตในมุมมองคนไทย : บทบาทของเทคโนโลยีจะทวีความสำคัญอย่างมากในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ 36ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าทักษะดิจิทัลเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ 34% ของคนไทย ยังมองว่าความสามารถในการปรับตัวและฟื้นตัวเป็นทักษะสำคัญและ 32% มองว่าการมีวินัยในตัวเองก็มีความสำคัญมาก

sea insight thai digital gen 3

Sea Insights ชี้ว่า ทักษะเหล่านี้อาจสะท้อนถึงอุปสรรคที่ผู้คนต้องก้าวข้ามในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับ Mindset ผู้ประกอบการ ที่สามารถช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปในฐานะที่เป็นแรงงานยุคดิจิทัล สามารถ ล้ม-ลุก ปรับตัว เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต 

นอกจากนี้ 27% ของคนไทยในแบบสำรวจมองว่า Global Mindset และภาษา เป็นทักษะสำคัญสำหรับอนาคต มากกว่าในประเทศอื่น ๆ หากภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ส่งเสริมรูปแบบการศึกษาหรือการทำงานที่เปิดโอกาสให้ได้สัมผัสประสบการณ์ต่างประเทศ และเปิดโลกทัศน์ใหม่เชื่อมโยงกับโลกมากขึ้น อาจส่งผลบวกต่อการพัฒนาทักษะที่มีความจำเป็นในอนาคตเหล่านี้

Sea Insights Thai Digital Generation Survey 2021_P.25

ในทางตรงกันข้าม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กลับไม่มั่นใจว่าตนมีความพร้อมในแต่ละทักษะที่ระบุว่ามีความสำคัญ โดยให้คะแนนความเชี่ยวชาญต่ำกว่า 50% เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษะด้านภาษาที่คนไทยมีความมั่นใจน้อยที่สุด (17%) หากเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน (27%)

ดร.สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist, Sea (Group)

ดร.สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist, Sea (Group)

“ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและกะทันหันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การเตรียมพร้อมตนเองด้วยทักษะและ Mindset ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับโลกอนาคต เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถล้ม-ลุก ปรับตัว และเรียนรู้ ได้เร็วและดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ฟื้นตัวและคว้าโอกาสใหม่ในโลกยุคดิจิทัลได้ก่อนใคร Sea (Group) หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานผลสำรวจคนไทยยุคดิจิทัลของเราจะสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ในเชิงนโยบายและกลยุทธ์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีบทบาทในการสนับสนุนผู้คนและผู้ประกอบการให้สามารถรับมือกับโลกยุคดิจิทัล พร้อมร่วมกันหาแนวทางก้าวข้ามวิกฤตนี้และเดินหน้าประเทศสู่โลกดิจิทัลโดยสมบูรณ์” ดร.สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist, Sea (Group) กล่าวปิดท้าย


แชร์ :

You may also like