ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่กินระยะเวลามาปีกว่า ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปหลายด้าน ทั้งการต้องใช้ชีวิตอยู่บ้าน และ Work From Home มากขึ้น หรือแม้แต่การหากิจกรรมอื่นๆ ทำที่บ้าน แน่นอนว่าการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านก็ลดลงไปด้วย เมื่อชีวิตต้องปรับตัว ประสบการณ์รอบตัวก็เปลี่ยนไป
การสำรวจของ “นีลเส็น ไอคิว” ช่วงต้นปีนี้ พบว่าผู้บริโภคราว 58% ขาดความเชื่อมั่นในการทานอาหารนอกบ้าน เราจึงเห็นเทรนด์การทำอาหารกินเองที่บ้านแบบ Food Safety มากขึ้น เพราะตอบโจทย์ทั้งการลดความเสี่ยงออกไปนอกบ้านและเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองในยุค New Normal กลายเป็นไลฟ์สไตล์ประจำวันที่เกิดขึ้นหลังจากนี้
แม้สถานการณ์โควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงในขณะนี้ แต่ธุรกิจและสินค้าที่ปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคได้ ก็ยังมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มที่ตอบโจทย์เรื่องการดูแลสุขภาพ
ตลาดเครื่องปรุงรสโต เกาะเทรนด์ทำอาหารทานเองยุค New Normal
จากเมกะเทรนด์ กระแสการดูแลสุขภาพ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่มีโภชนการสูง รวมทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน ทำอาหารเองมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ผลักดันอุตสาหกรรมอาหารหลายกลุ่มเติบโต
โดยเฉพาะตลาดซอสและเครื่องปรุงรส ไอเท็มคู่ครัวเติมเมนูอาหารให้อร่อย ในปี 2563 ตลาดมีมูลค่า 41,893 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 4.3% (ที่มา : Euro monitor International ,2020) แบ่งเป็นซอสถั่วเหลืองหรือซีอิ๊วมูลค่า 8,378 ล้านบาท สัดส่วน 20% เติบโต 5.9% ต่อปี ซอสหอยนางรม 3,915 ล้านบาท สัดส่วน 9.45% เติบโต 5.7% ต่อปี ซอสมะเขือเทศ 502 ล้านบาท สัดส่วน 1.2% เติบโตเฉลี่ย 3.2% และซอสพริก 586 ล้านบาท สัดส่วน 1.4% เติบโต 7%
ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่าปัจจุบันคนไทยบริโภคซอสและเครื่องปรุงรสเฉลี่ย 5.8 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตทุกปีตามเทรนด์อุตสาหกรรมอาหารในไทย เป็นสินค้าที่จำหน่ายในประเทศสัดส่วน 65% และส่งออกต่างประเทศ 35%
ปัจจุบันไทยส่งออกเครื่องปรุงรสเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากยุโรป สหรัฐฯ และจีน ตลาดเครื่องปรุงรสจากไทยครองส่วนแบ่งในตลาดโลกราว 5.7% เรียกว่าเป็นสินค้าคู่ครัวทั้งไทยและต่างประเทศ กับโอกาสการขยายตัวแบบไม่ธรรมดา
“ฟู้ด แฟคเตอร์” ส่งแบรนด์ใหม่ “คิดเช่นไทย” ต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจอาหาร
“You are what you eat” วลีที่เราทุกคนคุ้นหูได้ถูก คุณปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (Food Factors) นำมาเป็นไอเดียต่อยอดในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ในสถานการณ์ที่ การเลือกซื้อสินค้าเกี่ยวกับอาหารของผู้บริโภค มักจะให้ความสำคัญกับคุณประโยชน์และความปลอดภัยเป็นหลัก ในขณะเดียวกันการหันมาเข้าครัว ปรุงอาหารเองที่บ้านก็กลายมาเป็นวิถีชีวิตประจำวันของใครหลายๆ คน
ด้วยแนวคิดดังกล่าว ฟู้ด แฟคเตอร์ จึงพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับอาหารขึ้นมาภายใต้แบรนด์น้องใหม่ อย่าง “คิดเช่นไทย” (Kitchen Thai) เปิดตัวด้วย 3 โปรดักส์ ประกอบไปด้วย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรม เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากอาหารที่ดีและรสชาติที่อร่อย
“คิดเช่นไทย” ชูจุดขายเครื่องปรุงรสผสมวิตามิน ไม่มีผงชูรส
การเลือกเปิดตัว 3 โปรดักส์แรก ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และซอยหอยนางรม ของ “คิดเช่นไทย” เพราะเป็นเครื่องปรุงรสลำดับต้นๆ คู่ครัวไทย ผลิตจากซอสถั่วเหลืองคุณภาพดีหมักบ่มโดยวิธีการทางธรรมชาติ 12 เดือน ชูจุดเด่นผสมวิตามิน A, D, และ B12 ที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย มีคุณประโยชน์หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน A ที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น เสริมสร้างให้กระดูก ฟัน เล็บให้แข็งแรง วิตามิน D ช่วยดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกบางและกระดูกพรุน และวิตามิน B12 ที่ช่วยบำรุงการทำงานของสมองและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
เมื่อชีวิตต้องปรับตัว ประสบการณ์รอบตัวก็เปลี่ยนไป “สินค้าคิดเช่นไทยที่มีส่วนผสมของวิตามิน เรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ในตลาดเครื่องปรุงรส ที่ยังไม่มีในตลาด ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่าอาหารที่ดีนอกจากมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังต้องมีประโยชน์ ต่อร่างกายอีกด้วย”
นอกจากนี้ เครื่องปรุงรส “คิดเช่นไทย” ยังเป็นสินค้าโซเดียมต่ำ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เจอสีสังเคราะห์ เก็บรักษาได้ 12 เดือน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ เพื่อให้คนไทยได้มีประสบการณ์ที่ดีจากมื้ออาหารที่ปรุงเอง โดยที่ประโยชน์ของสินค้านอกจากใช้ปรุงอาหารให้ได้รสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ควบคู่ ไปกับทุกมื้ออร่อยของทุกคน
แนวทางการทำการตลาดแบรนด์ “คิดเช่นไทย” เจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ดูแลตัวเองและสนใจเรื่องสุขภาพ รวมทั้งกลุ่มที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองจากชีวิตการทำงาน “คิดเช่นไทย” เปิดตัวด้วยขนาด 250 มิลลิลิตร ราคา 45 บาท ช่องทางการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซ และมาร์เก็ตเพลสชั้นนำอย่าง Shopee, Lazada, JD central, Facebook และ Line จากนั้นเร็วๆนี้ ในเดือนสิงหาคม 2564 จะเริ่มวางจำหน่ายที่ Modern Trade ชั้นนำ รวมถึง ขยายช่องทางต่อไปยัง Food Service ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ต่างประเทศผ่านบริษัท เทรด แฟคเตอร์ จำกัด
การก้าวเข้าสู่ตลาดเครื่องปรุงรสของแบรนด์น้องใหม่อย่าง “คิดเช่นไทย” จึงถือเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามอง เป็นการเข้ามาเสริมพอร์ตฟอลิโอของธุรกิจอาหารกลุ่ม “ฟู้ด แฟคเตอร์” 1 ใน 6 pillars หลักของบุญรอด บริวเวอรี่ ภายใต้การนำของ คุณต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ที่วางเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์คิดเช่นไทยก้าวสู่การเป็น Top Brand ในใจของผู้บริโภคทุกคน