HomeBrand Move !!“ไทยเบฟ” เตรียมนำธุรกิจเบียร์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คาดจะเป็น IPO ใหญ่สุดในรอบ 10 ปี

“ไทยเบฟ” เตรียมนำธุรกิจเบียร์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คาดจะเป็น IPO ใหญ่สุดในรอบ 10 ปี

แชร์ :

ThaiBev

รายงานข่าวจาก Bloomberg อ้างอิงแหล่งข่าวเปิดเผยว่า “บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ​ จำกัด (มหาชน)” หรือ “ไทยเบฟ” (ThaiBev) เตรียมยื่นไฟลิ่ง เพื่อนำ “ธุรกิจเบียร์” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ภายในอาทิตย์หน้า และมีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่การเสนอขายหุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แหล่งข่าว ยังเผยอีกว่าไทยเบฟได้ประเมินมูลค่าธุรกิจของตนเอง ไว้ที่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 300,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถซื้อขายหุ้นภายในไตรมาส 2 ของปี 2021

ตามที่คาดหมายกันว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของไทยเบฟครั้งนี้ จะเป็นการเสนอขายหุ้นใหญ่สุดของสิงคโปร์ในรอบทศวรรษ นับตั้งแต่เมื่อครั้งบริษัท Hutchison Port Holdings Trust ระดมทุนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ เมื่อปี 2011 เวลานั้นได้ไป 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ระดมทุนตลาดหุ้น จิ๊กซอว์สำคัญเสริมความแข็งแกร่งตลาดอาเซียน

การนำธุรกิจเบียร์เข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งอาณาจักรธุรกิจเบียร์ในภูมิภาคอาเซียนของไทยเบฟ ซึ่งตามยุทธศาสตร์การบุกตลาดเบียร์ในต่างประเทศ ที่ไทยเบฟได้ประกาศแผน Passion 2025 สรุปดังนี้

1. นำเบียร์ช้างมุ่งสู่การเป็นที่ 1 ของเบียร์สัญชาติไทยในระดับสากล ทั้งในด้านปริมาณการขายและในด้านผลิตภัณฑ์ที่จะต้องเป็นที่ 1 ในใจลูกค้าในระดับสากล โดยได้รับการสนับสนุนจาก 2 แรงผลักดันสำคัญคือ

– การขยายฐานลูกค้าไปสู่เมืองสำคัญต่างๆ ในต่างประเทศ

เบียร์ช้างได้เปิดตัวการผลิตภายนอกประเทศไทยเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2019 โดยเบียร์ช้างได้รับการอนุญาตผลิตจาก Emerald Brewery Myanmar Ltd ซึ่งเป็นบริษัท ย่อยของ F&N ทำให้สามารถเจาะเข้าไปในจังหวัดสำคัญของเมียนมาได้

– การสร้างคุณค่าของตราสินค้า ด้วยการใช้สื่อออนไลน์ เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างแบรนด์เบียร์ช้าง รวมถึงทำแคมเปญการตลาดของแบรนด์

2. ซื้อหุ้นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม “Saigon Beer Alcohol Beverage Corp.” หรือ “Sabeco” (ซาเบโก้) ในปี 2017 มูลค่ากว่า 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2020 “ซาเบโก้” ได้มีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อรับกับสถานการณ์ COVID-19 ดังนี้

การขายเชิงรุก เน้นการขายผ่านร้านค้าปลีกและการขายปลีกสมัยใหม่มากขึ้น พร้อมทั้งเร่งการสร้างช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์

การตลาด ผลิตเบียร์ Bia Lac Viet ซึ่งเป็นหนึ่งในเบียร์ของซาเบโก้ รุ่นพิเศษ 145 ปี และส่งผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด

– การผลิต สายการผลิตกระป๋องใหม่ที่ โรงผลิตเบียร์ Saigon Quang Ngai บริษัทย่อยของซาเบโก้ ซึ่งมีกำลังการผลิต 60,000 กระป๋องต่อชั่วโมง เริ่มเดินสายการผลิต ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดภาคกลางของเวียดนาม

ห่วงโซ่อุปทาน เริ่มนำระบบ Warehouse Management System (WMS) มาใช้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้า และจะนำระบบ Transport Management System (TMS) อันเป็นระบบการบริหารจัดการการขนส่งมาใช้

– ซาเบโก้ 4.0 การบริหารจัดการธุรกิจด้วยดิจิทัล มุ่งหวังการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการบริหารจัดการด้วยการรวมศูนย์การบริหารจัดการ การทำระบบให้ง่ายต่อการใช้งานและมีมาตรฐานเดียวกัน

ลดค่าใช้จ่าย มีการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านวัตถุดิบ ด้านบรรจุภัณฑ์ ด้านการขนส่ง และการเช่าสถานที่

ธุรกิจเบียร์ ทำรายได้อันดับ 2 ให้ไทยเบฟ

ทั้งนี้ผลประกอบการไทยเบฟปี 2563 (ตุลาคม 2562 – กันยายน 2563) ทำรายได้จากการขาย 253,481 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26,065 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 มีรายได้จากการขาย 267,357 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 26,083 ล้านบาท

สัดส่วนจากการขายปี 2563 แบ่งเป็น

– ธุรกิจสุรา 46% / ปริมาณการขาย 711 ล้านลิตร

– ธุรกิจเบียร์ 42% / ปริมาณการขาย 2,463 ล้านลิตร

– ธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 7% / ปริมาณการขาย 1,578 ล้านลิตร

– ธุรกิจอาหาร 5%


แชร์ :

You may also like