สถานการณ์ที่ไม่ดีนักของขยะพลาสติกกำลังส่งผลกระทบตรง ๆ ต่อแบรนด์แล้ว เมื่อ The Brand Audit Report 2019 ยืนยันแล้วว่า ขวดพลาสติกจาก Coca-Cola ถูกพบเป็นขยะมากที่สุดในกว่า 37 ประเทศจาก 4 ทวีปทั่วโลก โดยขยะพลาสติกจาก Coca-Cola ยี่ห้อเดียว ยังมากกว่าขยะพลาสติกจากอันดับที่ 2 – 4 รวมกันอีกด้วย
รายงาน The Brand Audit Report 2019 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอาสาสมัครภายใต้ชื่อ Break Free From Plastic จำนวน 72,541 คนจาก 51 ประเทศที่ช่วยกันเก็บขยะพลาสติกมากกว่า 4.76 แสนชิ้น ออกมาเปิดเผยให้ทราบกันแล้วว่า 10 แบรนด์ที่พบบรรจุภัณฑ์กลายเป็นขยะพลาสติกมากที่สุดได้แก่
- Coca Cola
- Nestle
- PepsiCo
- Mondelez International
- Unilever
- Mars
- P&G
- Colgate-Palmolive
- Phillip Morris
- Perfetti Van Mille
รายงานชิ้นนี้ชี้ด้วยว่า Coca Cola เป็นแบรนด์สินค้าเบอร์หนึ่งที่พบขยะพลาสติกกระจายอยู่ใน 37 ประเทศทั่วโลก ซึ่งขยะพลาสติกจาก Coca Cola นั้นรวมกันแล้วได้ 11,732 ชิ้นจากทั้งหมด 4.76 แสนชิ้น มากกว่าแบรนด์อันดับ 2 – 4 อย่าง Nestle, PepsiCo และ Mondelez International รวมกันเสียอีก
ทางกลุ่ม Break Free From Plastic ยังได้เรียกร้องให้ทั้ง 10 แบรนด์ออกมาเปิดเผยปริมาณของพลาสติกที่พวกเขาใช้ไป และเป้าหมายที่พวกเขาจะลดปริมาณการใช้พลาสติกแบบ Single-use ด้วย
สำหรับประเภทของขยะที่พบมากที่สุด 7 ประเภทได้แก่ บรรจุภัณฑ์อาหาร, Personal Care, สินค้าใช้ในครัวเรือน, Smoking Materials, Fishing Gear, Packing Materials และสุดท้ายเป็นพลาสติกที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
นอกจากนี้ ภายในรายงานยังมีเรื่องสลดใจ เมื่อมีการระบุว่า ประเทศร่ำรวยเช่น ประเทศในแถบซีกขั้วโลกเหนือ มักนิยมส่งออกขยะพลาสติกมายังประเทศที่ยากจนและมีค่าแรงถูกกว่าเป็นเวลานานมากแล้ว และก่อนหน้านี้ ประเทศอย่างจีนก็เคยรับเป็นที่ทิ้งขยะพลาสติกก่อนจะปิดช่องทางดังกล่าวไปเมื่อปี 2018
ผลก็คือขยะพลาสติกจากสหภาพยุโรปและทวีปอเมริกาถูกส่งมายังประเทศอินโดนีเซีย, ไทย, มาเลเซีย และอีกหลายประเทศที่มีค่าแรงงานต่ำแทน ส่งผลให้หลายหมู่บ้านในประเทศเหล่านี้ที่เต็มไปด้วยขยะพลาสติก และทำให้คุณภาพชีวิตของคนในหมู่บ้านแย่ลง เช่น การพบว่าแม่ตั้งครรภ์ที่อาศัยอยู่ใกล้แหล่งขยะมีแนวโน้มจะคลอดก่อนกำหนด