หนึ่งในโจทย์สำคัญของธุรกิจขนาดใหญ่คือการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ให้ผู้บริโภครู้จักในวงกว้าง หรือระดับ Mass ซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทุกวันนี้มีสื่อมากมายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกทิศทาง แต่สิ่งที่ท้าทายคือการสร้างคอนเทนต์ที่โดนใจและขายของได้ ยิ่งถ้าต้องพูดถึงเรื่องที่เอี่ยวกับเทคโนโลยี หรือการใช้งานล้ำๆ เนื้อหาเหล่านี้อาจไปถึงแค่ผู้บริโภคกลุ่มเล็กๆ (Niche market) ที่พร้อมจะเปิดรับ
ในปีที่ผ่านมา แบรนด์ที่ทำได้โดดเด่น สามารถจุดพลุสร้างแบรนด์จนแมสเข้าถึงมหาชนคนไทย ต้องยกให้ “ธนาคารกสิกรไทย” ที่บอกเล่าเรื่องราวของแอปพลิเคชัน K PLUS ได้แมสโดนใจอย่างรวดเร็วผ่านหนังสั้น “Friendshit” ภายใต้แนวคิดของแบรนด์ “ง่าย ใครๆ ก็ใช้” ที่ยึดมาโดยตลอด
Friendshit เล่าเรื่องของแอป K PLUS บนพื้นฐานความง่าย ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน และยังเป็นการ “ทลายกำแพง” อคติของคนทั่วไปที่คิดว่าโมบายแบงกิ้งใช้งานยาก ด้วยสไตล์การกำกับแบบเต๋อๆ โดย “เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ GREYnJ United จนผลงานโบว์แดงชิ้นนี้เดินสายกวาดรางวัลจากเวทีประกวดโฆษณาทั่วโลกมาถึง 11 รางวัล (อ่านต่อ) และยังมีลุ้นอีกหลายรางวัลจากเวทีที่ยังไม่ประกาศผล
รางวัลการันตีความสำเร็จของวิดีโอที่มียอดวิวทะลุ 64.8 ล้านวิวนี้ เริ่มที่เวทีใหญ่อย่าง Cannes Lions 2018 ที่คว้าสิงโตกลับมากอดได้ถึง 3 ตัว เป็นระดับ Gold 2 ตัว ในหมวด Film Lions และ Entertainment Lions และระดับ Silver อีก 1 ในหมวด Film Craft ซึ่งความสำเร็จนี้ได้รับการจัดอันดับเป็น Highest Ranked Brand ในกลุ่ม Financial Products & Services ประจำปี 2018 ด้วย
ส่วนเวที D&AD Awards ที่ว่ากันว่าหินๆ ตัดสินกันอย่างเข้มข้น ชนิดที่ว่า รางวัลไหนไม่มีผลงานที่คู่ควรจะได้รับ ก็ไม่แจก ก็คว้ามาได้ 2 รางวัล เป็นดินสอสีเทา ในสาขา Film Advertising Crafts/ Direction for Film Advertising และดินสอไม้ ในสาขา Branded Content Entertainment/ Fiction Film 5-30 mins
ล่าสุด Friendshit ยังคว้ารางวัลมาได้เพิ่มอีก 2 เวที คือ 1 Gold Award หมวด Film Category, Product/Service-Short Form จาก Clio Awards 2018 และ 5 รางวัลจาก Ad Stars 2018 โดยได้ Grand Prix ในหมวด Branded Entertainment Video, 1 Gold หมวด Film Craft Direction, 2 Silver หมวด PR Product & Service และหมวด Film Craft Script และอีก 1 Bronze หมวด PR Practices & Specialism
นอกจากความสำเร็จในการสร้างคอนเทนต์แล้ว K PLUS ยังเร่งพัฒนาประสบการณ์การใช้งานจริงของลูกค้าควบคู่กันไปด้วย โดยยกระดับแอปเป็น Lifestyle Platform ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ช้อปปิ้งออนไลน์บน K+ market, จ่ายเงินใน Facebook Messenger ได้รวดเร็ว ผ่าน Pay with K PLUS หรือการเพิ่ม Loyalty Card ของพันธมิตรอย่าง PTT Blue Card ขึ้นไปอยู่ในระบบ K PLUS ได้เลย ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องพกบัตร รวมถึงแผนในการพัฒนาช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรม “เกด” (KADE: K PLUS AI-Driven Experience) เพื่อให้ K PLUS นำเสนอสินค้าและบริการให้ลูกค้าได้เฉพาะเจาะลงและเหมาะสมเป็นรายบุคคล
จะเห็นได้ว่า K PLUS เป็นแบรนด์ที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านการสื่อสาร การทำตลาด และตัวผลิตภัณฑ์เอง เป็นที่น่าจับตามองว่าในอนาคต K PLUS จะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสันในตลาดอีก แต่เชื่อได้ว่าการเคลื่อนไหวของ K PLUS ต่อจากนี้ น่าจะไม่ธรรมดาแน่นอน
| K PLUS Fact Box – ผู้ใช้งาน K PLUS ณ สิ้นเดือน ส.ค. 61 อยู่ที่ 9.2 ล้านราย เติบโต 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน – คิดเป็น Active User ถึง 80% – มียอดดาวน์โหลดและติดตั้ง K PLUS เป็นครั้งแรก ระหว่าง ม.ค. – ส.ค. 61 จำนวน 3.7 ล้านครั้ง – มีจำนวนธุรกรรมทั้งสิ้นตั้งแต่ ม.ค. – ส.ค. 61 กว่า 3,200 ล้านรายการ – เป็นแอปสัญชาติไทยที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดอันดับ 1 จากการจัดอันดับของ Appsynth |