HomeSponsored70 ล้าน! Forest Rescue ปฏิบัติการกู้ชีพต้นไม้ทั่วกรุงเทพฯ บิ๊กโปรเจ็กต์เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลก

70 ล้าน! Forest Rescue ปฏิบัติการกู้ชีพต้นไม้ทั่วกรุงเทพฯ บิ๊กโปรเจ็กต์เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลก

แชร์ :

ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ที่เก็บข้อมูลระหว่างปี 2533 -2558 ผ่านประมวลผลจากภาพถ่ายดาวเทียม รายงานสถานการณ์ธรรมชาติป่าไม้  พบว่า โลกของเรามีต้นไม้เหลือประมาณ 3 ล้านล้านต้น ซึ่งผลการประเมินชี้ชัดว่าตั้งแต่ปี 2533 โลกของเราได้สูญเสียพื้นที่ป่าไปถึง 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร  ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ของทวีปแอฟริกาใต้ หรือทุกๆ 1 ชั่วโมง พื้นที่ป่าจะหายไปในขนาดเท่าสนามฟุตบอลไซส์มาตรฐาน (7,140 ตารางเมตร) จำนวน 800 สนามต่อชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเฉพาะพื้นที่ป่าในโซนประเทศเขตร้อนจะมีการสูญเสียที่รวดเร็วกว่าพื้นที่อื่นๆ ของโลก  และหากดูพื้นที่เฉพาะประเทศไทยจากข้อมูลของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้อยู่ที่ 31.58% ลดลงจากปี 2558 ในอัตรา 0.02% หรือประมาณ 65,000 ไร่ ถือนับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

หลายองค์กรในประเทศต่างก็ตระหนักในปัญหาและสถานการณ์ของป่าไม้  ร่วมกันรณรงค์และทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาพื้นที่สีเขียวที่เหลืออยู่ให้อยู่ต่อไป  ขณะเดียวกันต่างพยายามเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มมากขึ้น  เพื่อร่วมกันทำให้โลกของเราเต็มไปด้วยพื้นที่ป่าและต้นไม้  ซึ่งแนวทางการสร้างความสมบูรณ์ของป่าไม้ที่ดีที่สุด  ควรที่จะทำทั้งสองแนวทาไปพร้อมๆ กัน  คือ  การรักษาของป่าไม้เดิมที่อยู่และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้ใหม่

สำหรับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้  ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เจ้าของโครงการ “THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์” ก็ถือเป็นหนึ่งองค์กรสำคัญที่มีส่วนในเรื่องของการรักษาต้นไม้เดิม  และเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้ใหม่  เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาขององค์กรในเรื่อง ‘for all well-being’ ที่เริ่มต้นจากความตั้งใจในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิต เพื่อส่งผลดีต่อทุกการดำเนินชีวิต พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลก ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจธรรมชาติ นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ในการสร้างสรรค์โครงการเพื่อสร้างสังคมคุณภาพที่ดี รวมทั้งการร่วมอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และโลก  ด้วยการจัดทำแคมเปญ  “Forest Rescue – ฟอเรส เรสคิว” ปฏิบัติการกู้ชีพต้นไม้  รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล

คุณศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้  ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า  ปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญของระบบนิเวศวิทยาธรรมชาติ เพราะนับเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบถึงคนหมู่มาก  จึงได้ใช้งบกว่า 70 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “Forest Rescue – ฟอเรส เรสคิว” ขึ้น  ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจของโปรเจกต์แฟลกชิพอย่าง “THE FORESTIAS BY MQDC” ที่ต้องการช่วยรักษาชีวิตของต้นไม้ผ่านการเคลื่อนย้ายและจัดสรรพื้นที่ เพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ให้ต้นไม้สามารถเติบโตต่อไปในอนาคต  โดยระยะเวลาแคมเปญเริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2561 นี้

“โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ตระหนักถึงคุณค่าอันสำคัญของต้นไม้ทุกต้น และเชื่อว่ามนุษย์และธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันโดยการพึ่งพาอาศัยกัน ไม่เบียดเบียนกันได้ โดยเฉพาะต้นไม้ในเมืองที่มีความผูกพันกับคนในย่านนั้นๆ แต่ด้วยการขยายตัวของเมือง ผู้คนมากขึ้น การขยายตัวของที่อยู่อาศัยจึงทำให้จำนวนต้นไม้ลดลง  ทางโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์” จึงต้องการช่วยพิทักษ์ชีวิตของต้นไม้โดยการเคลื่อนย้ายและจัดสรรพื้นที่ภายในโครงการ บนพื้นที่ 3 ไร่ หรือ 4,800 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นบ้านหลังใหม่ ที่ต้นไม้เหล่านั้นจะเติบโตต่อไปได้ โดยไม่มีใครมาทำร้ายได้อีก ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นที่ได้รับการช่วยเหลือจะถูกติดป้ายบ่งบอกถึงที่อยู่เดิม เพื่อให้เจ้าของเดิมหรือประชาชนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมเยียน พักผ่อน หรือศึกษาระบบนิเวศธรรมชาติ ซึ่งจะเปิดเป็นพื้นที่สาธารณะส่วนหนึ่งให้แก่ประชาชนทั่วไปเข้าชมโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ  โดยผู้ที่พบเห็นต้นไม้ที่จะถูกโค่นล้มหรือไม่ต้องการ สามารถแจ้งรายละเอียดที่อยู่ ชนิดของต้นไม้ พร้อมถ่ายภาพอ้างอิง โพสต์ลงเฟซบุ๊กแบบสาธารณะ ติดแฮชแท็ก #ForestRescue และแจ้งมาทาง inbox ของ The Forestias Facebook ซึ่งท่านสามารถติดตามข่าวสารความคืบหน้าของแคมเปญ ทั้งการนำเสนอต้นไม้ ติดตามการเคลื่อนย้าย การอัพเดทข่าวสารของต้นไม้ ตลอดระยะเวลาแคมเปญที่ www.facebook.com/theforestias หรือ แฮชแท็ก #ForestRescue”

สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น  โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์  ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการ Forest Rescue Team ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและผู้ดูแลต้นไม้  ซึ่งเมื่อได้รับการแจ้งจากผู้ที่ต้องการจะให้ดำเนินการย้ายต้นไม้  ทีมปฎิบัติการจะลงพื้นที่เพื่อดำเนินการสำรวจ วางแผน ประเมินสถานการณ์ ตลอดจนดำเนินการเคลื่อนย้ายต้นไม้จากจุดเดิมไปยังระบบนิเวศบ้านหลังใหม่ภายในโครงการฯ เพื่อรักษาต้นไม้นั้นให้เติบโตต่อไป ภายใต้เงื่อนไขที่ประกอบด้วย ชนิดพันธุ์ไม้ ฤดูกาล สถานที่ เวลาและเงื่อนไขอื่นๆ โดยการพิจารณาช่วยเหลือต้นไม้นั้นคำนึงถึงความอยู่รอดของต้นไม้ หลังจากการล้อมย้ายเป็นหลัก

ด้านคุณกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า  บริษัทฯ ได้จัดทำวิดีโอคอนเทนต์ เรื่อง “Forest Rescue” ซึ่งได้นำเสนอมุมมองผ่านเค้าโครงเรื่องจริงของต้นจามจุรี ซอยลาดพร้าว 110 ซึ่งเป็นต้นไม้เดิมของบ้านหลังหนึ่ง ที่ต้องการขยายที่อยู่อาศัยจึงมี ความจำเป็นต้องนำต้นไม้ออกจากพื้นที่ จึงได้ติดต่อทีมงาน เพื่อช่วยเหลือในการล้อมย้ายต้นไม้แทนการตัดทิ้ง เพื่อไปยังที่อยู่ใหม่ภายในโครงการ “THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์” นับเป็นมุมมองความผูกพันของมนุษย์และต้นไม้   ที่น้อยคนนักที่จะรับรู้ได้ นอกจากนี้ ยังได้วางกลยุทธ์การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก อาทิ โซเชียลมีเดีย (Social Media) ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) บทความออนไลน์ (Content online) รายการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และอื่นๆ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในการนำเสนอข้อมูลและรายละเอียดของแคมเปญได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตระหนักรับรู้ความสำคัญและประโยชน์ของต้นไม้ที่มีต่อมนุษย์เรา

โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) ของ MQDC ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ในประเภท Mixed-use มูลค่ากว่า 90,000 ล้านบาท  โมเดลแรกของโลกที่ครบบริบูรณ์ทั้งพื้นที่ส่วนพักอาศัยที่เชื่อมต่อถึง 4 Generations อาทิ บ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม พื้นที่ส่วนพาณิชย์  ทั้งพื้นที่ค้าปลีก โรงแรม ศูนย์ดูแลสุขภาพ และอาคารสำนักงาน เป็นต้น   ที่น่าสนใจ คือ ภายในโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวมาก โดยเฉพาะในส่วนของสวนสาธารณะจะมีพื้นที่มากถึง 30 ไร่

โครงการมีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 ซึ่งจะตั้งอยู่บนเนื้อที่ 300 ไร่ ย่านถนนบางนา-ตราด กม. 5-7  ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว  ด้วยการปรับสภาพที่ดินเพื่อทำฐานราก  โดยโครงการถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Imagine Happiness” ซึ่งเกิดขึ้นบนคำถามที่ว่า “ความสุขที่แท้จริงของชีวิตเราคืออะไร?”

โดยเราได้สร้างสรรค์รูปแบบความสุขที่ยั่งยืนผ่านโครงการ แนวความคิดหมวดใหญ่ 4 ประการ หรือ Eternal 4 ได้แก่ 50 Shades of Nature ความสุขในการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติระบบนิเวศขนาดใหญ่ Connecting 4 Generations ความสุขในการดีไซน์พื้นที่ความอบอุ่นให้กับครอบครัวได้ใช้ชีวิตร่วมกันครอบคลุมถึง 4 เจนเนอเรชั่น Community of Dreams ความสุขบนพื้นที่และสาธารณูปโภคที่ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน Sustainnovation for Well-being ความสุขด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่ตอกย้ำความสุขของมนุษย์ที่ได้อาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ


แชร์ :

You may also like