HomeBrand Move !!ทำความรู้จักพฤติกรรมการใช้งาน “ดิจิทัล” ของคนจีน เพื่อโอกาสเพิ่ม Wish List ในทัวริสต์จีน

ทำความรู้จักพฤติกรรมการใช้งาน “ดิจิทัล” ของคนจีน เพื่อโอกาสเพิ่ม Wish List ในทัวริสต์จีน

แชร์ :

ความทรงพลังของนักท่องเที่ยวจีนทั้งในแง่ปริมาณและเม็ดเงิน เติบโตจนมีสัดส่วนมากกว่า 20% ของรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย หรือสามารถสร้างสัดส่วนได้ราว 4% จาก GDP โดยรวมทั้งประเทศ ที่น่าสนใจคือ ประเทศไทยถือเป็น Top Destination ทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของคนจีน ทำให้มีโอกาสสูงที่จะเพิ่มเม็ดเงินในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ เพื่อให้เม็ดเงินสะพัดไปถึงเมืองรองๆ และแบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากสินค้า Wish List หรือแบรนด์ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “ห้ามพลาด” เมื่อต้องมาประเทศไทย ที่ขายดีมากอยู่แล้วในปัจจุบัน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

พฤติกรรมคนจีนรุ่นใหม่ เที่ยวได้ไม่ง้อทัวร์

คุณกฤตธี มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือ Tencent จากประเทศจีน หนึ่งใน Top 4 Internet Company ของโลก ให้ข้อมูลว่า การเพิ่มยอด Spending ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนคุณภาพซึ่งมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเดินทางคนเดียว (FIT, Solo Traveling) วิธีที่มีประสิทธิภาพคือ การเพิ่มจำนวนวันพักให้นานขึ้น หรือหาวิธีช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ผ่านการให้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว พยายามเพิ่มเรื่องราวของ Destination ใหม่ๆ หรือพื้นที่ในจังหวัดรองๆ เพื่อขยายพื้นที่ท่องเที่ยวให้เกิดการกระจายตัวมากขึ้น รวมทั้งการประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าไทยให้หลากหลาย โดยเฉพาะแบรนด์สินค้าโอทอป หรือแบรนด์ท้องถิ่นที่มีเรื่องราวน่าสนใจ เพื่อให้กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนรู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวให้ประเทศแล้ว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและช่วยขยายตลาดให้กับสินค้าแบรนด์ไทยต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย

“Journey ของนักท่องเที่ยวจีน โดยเฉพาะในกลุ่มที่เดินทางด้วยตัวเองจะต้องศึกษาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตมาอย่างละเอียดก่อนที่จะเดินทาง”

 

จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 9.5 ล้านคน โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวพบว่า 55% จะใช้สำหรับการเดินทาง ที่พัก และความบันเทิงต่างๆ ขณะที่ 41% ใช้สำหรับช้อปปิ้ง และ 4% เป็นค่าอาหาร โดยในส่วนของการใช้จ่ายพบว่าคนจีนนิยมซื้ออาหารและสแน็ค เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมทั้งสินค้าของขวัญของฝากต่างๆ

 

จะขายของให้คนจีน ต้องใช้เครื่องมือของจีน

ในฐานะ Tencent เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มหลักที่ได้รับความนิยมและเข้าถึงคนจีนได้จำนวนมากครอบคลุมทุกกลุ่มทั้ง Social Media, Entertainment, Information, Software&Tool, Lifestyle& Daily Service ไม่ว่าจะเป็น WeChat, QQ, Tencent, DiDi, DianPing, eLong, JD.COM ซึ่งแต่ละโปรดักต์จากเทนเซ็นต์เหล่านี้ล้วนอยู่ใน Top 1-2 ของกลุ่ม ครอบคลุม 95% ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตชาวจีน และจากการเก็บข้อมูลระหว่างปี 2014 -2017 พบว่า Netizen ชาวจีนใช้เวลาอยู่กับโปรดักต์จากเทนเซ็นต์มากกว่า 56.7%

ดังนั้น เทนเซนต์ประเทศไทย จึงเล็งเห็นความสคัญของการเข้ามาเป็นหนึ่งเครื่องมือสนับสนุนผู้ประกอบการ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้ยิ่งมีบทบาทในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนได้มากขึ้น และเปิดตัว WeChat Official Account (WeChat OA) หนึ่งในบริการจาก Tencent Social Ads อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อสร้างให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จัก สร้างความคุ้นเคยและเชื่อมั่น เพื่อให้แบรนด์หรือสินค้าของตัวเองกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่นักท่องเที่ยวจีนจะต้องเข้ามาใช้บริการ หรือซื้อกลับไปเป็นของฝากของขวัญเมื่อได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยอาศัย WeChat ซึ่งมีความสำคัญไม่ต่างจากคลังเก็บข้อมูลของผู้บริโภคชาวจีนที่สามารถช่วยแบรนด์ในการทำตลาดได้เป็นอย่างดี

“ขณะที่แพลตฟอร์ม WeChat เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่คนจีนมากกว่า 980 ล้านคนใช้อยู่ จึงเป็นหนึ่งช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะจุดเด่นของการเลือก Target ที่แม่นยำของ WeChat ทำให้จะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่กำลังจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจริงๆ และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับแบรนด์ต่างๆ ต้องการ ทำให้ช่องทางนี้กลายเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพในการโน้มน้าวและกระตุ้นให้เกิดการ Engage กับแบรนด์อย่างแท้จริง”

นอกจากนี้ ยังพบว่าประเทศไทยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายผ่าน WeChat Pay มากเป็นอันดับ 2 รองจากฮ่องกง และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจีนเช็คอินผ่าน WeChat Moment ที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต รองจากฮ่องกง และ มาเก๊า สะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น Destination ที่สำคัญและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของชาวจีน  นอกเหนือจากเมืองต่างๆ ในประเทศจีน

สถิตที่น่าสนใจของ WeChat 

ในส่วนการใช้งาน WeChat เกือบพันล้านคนของชาวจีนนั้น พบว่า 90% จะเข้ามาใช้งานทุกวัน โดยมีจำนวนมากกว่าครึ่งที่เปิดใช้งานมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน ขณะที่ 60% ใช้ WeChat เพื่อความบันเทิงและบริการสาธารณะต่างๆ เช่น การจองตั๋วออนไลน์  และสามารถชำระเงินได้ทันทีเพราะมีถึง 85% ของผู้ใช้ที่ผูกระบบ e-Wallet เข้ากับ WeChat Pay

ที่สำคัญยังพบว่า มีจำนวนผู้ใช้งานถึง 80% ที่ใช้ WeChat เพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสินค่าและบริการของแบรนด์ต่างๆ ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสในการที่แบรนด์ไทยจะเข้าไปใช้พื้นที่บน WeChat เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแบรนด์หรือเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวไปยังนักท่องเที่ยวจีนผ่านบริการ WeChat OA

“WeChat ช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถ Reach ไปกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ด้วยการสมัครบริการ WeChat OA เพื่อถ่ายทอด Story ของแบรนด์ ช่วยสร้าง Educated ในกลุ่มเป้าหมาย และสร้าง Brand Awareness อย่างต่อเนื่องจนลูกค้ารู้สึกคุ้นเคยและเชื่อมั่นในแบรนด์ จนเข้ามา Engage กับแบรนด์ และแนะนำต่อไปยังเพื่อน ครอบครัว หรือคนรู้จักต่อไป  ทำให้จากแบรนด์ที่คนจีนอาจจะยังไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย แต่สามารถกลายมาเป็นแบรนด์ในใจชาวจีนได้โดยไม่ยากนัก โดยกลุ่มธุรกิจที่สามารถสร้างประโยชน์สูงสุดจากบริการนี้ คือ กลุ่มที่ต้องการขยายเป้าหมายในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และกลุ่มธุรกิจที่ชาวจีนนิยม อาทิ เครื่องสำอาง สินค้าโอท็อปต่างๆ ร้านอาหาร หรือเชนธุรกิจรีเทลต่างๆ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ ห้องพัก สปา นวด และสินค้าสุขภาพต่างๆ ”

สำหรับแบรนด์ไทยที่สนใจสามารถโหลดแอพ WeChat และสมัคร Official Account ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สามารถทำการ Verify เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือที่มากขึ้นให้ผู้บริโภคด้วยการยืนยันว่าเป็นผู้ประกอบการที่มีตัวตนจริง ด้วยการจ่ายค่า Verify ในอัตรา 120 เหรียญสหรัฐต่อปี (ประมาณ 4 พันบาท) รวมทั้งการใช้บริการจากทีมงานของเทนเซ็นต์ ประเทศไทย เพื่อเพิ่มความสามารถในการช่วยบริหารจัดการด้านคอนเทนต์และการสื่อสารแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในอัตรา 10,000 เหรียญสหรัฐต่อแคมเปญต่อเดือน (ประมาณ 330,000 บาท) โดยจะมีทีมงานคอยครีเอทคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายชื่นชอบ การแปลคอนเทนต์เป็นภาษาจีน หรือหากต้องการให้ทางเทนเซ็นต์เป็นแอดมินเพจให้ก็สามารถเพิ่มเติมตามเงื่อนไขในการให้บริการ รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ภายในเครือเทนเซ็นต์เพิ่มเข้ามาในอนาคต เช่น ติดตั้งระบบ WeChat Pay ในหน้าเพจ เพื่อเพิ่มความสะดวกในกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการสั่งจองหรือซื้อสินค้า เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดให้มากขึ้น ขณะที่ทางเทนเซ็นต์ ประเทศไทย คาดการณ์รายได้เบื้องต้นสำหรับบริการใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ไว้ที่ 50-100 ล้านบาท


แชร์ :

You may also like