HomeBrand Move !!ICONSIAM จับมือ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม พัฒนา “ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม” ต่อไปนี้พิพิธภัณฑ์จะใกล้ตัวคนไทยกว่าที่เคย

ICONSIAM จับมือ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม พัฒนา “ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม” ต่อไปนี้พิพิธภัณฑ์จะใกล้ตัวคนไทยกว่าที่เคย

แชร์ :

03-ภาพบรรยากาศทั่วไปของการจัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย

“เราศึกษามานานกว่า 3 ปี ว่าทำอย่างไรจึงจะสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา จนกระทั่งเป็นแนวคิดที่ว่าเราจะนำทุกสิ่งที่ดีที่สุดทั่วโลกมารวมกัน และเมื่อศึกษาค้นคว้าร่วมกับภัณฑารักษณ์ระดับโลก จนเกิดความเป็นไปได้ว่า เราจะสามารถนำเอาคามภาคภูมิใจของคนไทย ซึ่งถ้าจะให้พูดตรงๆ ต้องยอมรับว่า ปกติคนไทยอาจจะไม่ได้รับชมของล้ำค่าที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์เท่าใดนัก” จากความตั้งใจของ ชฎาทิพ  จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด นี่เองที่ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือของ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ “ไอคอนสยาม” กับ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมเผยแพร่คุณค่าศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อพัฒนาให้มีการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ อันประกอบด้วยโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ภายใน “ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม” (ICONSIAM Heritage Museum) พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่โครงการไอคอนสยาม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในการนี้ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และไอคอนสยาม จึงได้ตกลงร่วมกันที่จะดำเนินการหารือ และแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อจัดให้มีและพัฒนาการจัดแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ภายใต้รูปแบบการจัดแสดงที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับพิพิธภัณฑสถานในระดับสากล  ซึ่งกรมศิลปากรจะทำการวิเคราะห์  คัดสรร อนุรักษ์ จัดเตรียมโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ เพื่อจัดแสดงในห้องจัดแสดง National Heritage Gallery

01-พิธีลงนามสัญญา_1

ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม พิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของไอคอนสยาม เพราะถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าของประเทศ และยังมีพระ, เทวรูป หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อทางศาสนามากมาย นอกจากจะจัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทยแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีแผนจะนำศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดง ทั้งหมดจึงมี 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย

1. National Heritage Gallery จัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติไทย ที่เกิดจากความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม

2. ส่วนพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ที่รองรับการจัดแสดงผลงานสุดยอด Masterpieces และนิทรรศการหมุนเวียนจากพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ซึ่งจะหมุนเวียนมาจัดแสดงทั้งศิลปวัตถุ ภาพเขียน ผลงานศิลปะ รวมถึงสมบัติล้ำค่าจากทั่วทุกมุมโลก

3. River Gallery ส่วนการจัดแสดงนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัย ที่สามารถจัดแสดงผลงานของศิลปินร่วมสมัยทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มีชื่อเสียง ให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถสัมผัสชิ้นงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด และยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศิลปะต่างๆ อีกด้วย

โดยการทำให้โปรเจ็กท์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง มีรายละเอียดมหาศาล เพราะของที่นำมาจัดแสดงแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้ ทางไอคอนสยามจึงได้ทำงานร่วมกับบริษัท Lord Cultural Resources ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการพัฒนาและวางระบบจัดพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลก เช่น พิพิธภัณฑ์ Lourve ในประเทศฝรั่งเศส, พิพิธภัณฑ์ Guggenheim ใน Bilbao ประเทศสเปน อีกทั้งยังเป็นผู้วางระบบให้กับ Tate Modern ในประเทศอังกฤษ และพัฒนาระบบการจัดเอกสารและความปลอดภัยของเอกสารสำคัญให้ Library of Congress ในอาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา บริษัทแห่งนี้จะมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อทำให้ ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม มีมาตรฐานเดียวกับพิพิธภัณฑ์ระดับโล ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งแสงเพื่อให้เหมาะสมกับรับชม การถ่ายเทอากาศเพื่อรักษาของทุกชิ้น ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัย

อีกทั้งเพื่อที่จะทำให้พิพิธภัณฑ์มีความน่าสนใจอยู่เสมอ ไอคอนสยามได้วางแผนจะจัดแสดงโบราณวัตถุและผลงานศิลปะแบบหมุนเวียน จึงทำงานร่วมกับ Curator ระดับโลกในการคัดสรรนิทรรศการ Masterpiece จากประเทศต่างๆ มาจัดแสดงในอีกทางหนึ่งด้วย โดยแบ่งสัดส่วนเป็นการแสดงโบราณวัตถุแบบถาวร 30-40% และที่เหลือจะเป็นงานแสดงหมุนเวียน

รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ไอคอนสยาม จะสมทบเข้า “กองทุนโบราณคดี” เพื่อทำนุบำรุงรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติต่อไป รวมทั้งสนับสนุนการศึกษาเพื่อสร้างภัณฑารักษณ์รุ่นใหม่ที่มีความรู้มาสืบสานงานโบราณคดีของประเทศไทยต่อไป ถือเป็นต้นแบบการสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ที่ยั่งยืนทั้งภาคธุรกิจเอง และก่อให้เกิดประโยชน์ในมิติทางวัฒนธรรมกับประเทศ

02-ภาพจำลองโครงการ-ICONSIAM

ไอคอนสยาม เฮอริเทจ มิวเซียม ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 500 ล้านบาท มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2 ข้างหน้า คาดการณ์ว่าน่าจะมีผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ปีละ 2 ล้านคน โดยประเมินจากประสบการณ์ปัจจุบันที่สยาม พารากอน ก็มีผู้เข้าชม ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิลด์ ถึงปีละ 2.5 ล้านคน และยังวางแผนดึงนักสะสมงานศิลปะจากทั่วโลกโดยมีส่วนประมูลงานศิลปะซึ่งได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ไม่ใช่แค่ส่วนของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ไอคอนสยาม ยังมีแผนเปิดตัวโปรเจ็กท์อื่นๆ อย่างต่อเนื่องจนครบ 7 Wonders 7 สิ่งมหัศจรรย์

ชฎาทิพ  จูตระกูล ยังเปิดเผยอีกว่า รายได้ของสยามพิวรรธ์ในครึ่งปีแรกถือว่าเติบโตขึ้น 9-10% โดย 30-35% เป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มนักท่องเที่ยว ดังนั้นไอคอนสยามจึงวางแผนทำการตลาดในต่างประเทศ มีทั้งส่วนที่ร่วมมือกับกระทรวงท่องเที่ยวฯ และเตรียมงบประมาณเอาไว้มากกว่าที่เคย


แชร์ :

You may also like