HomeDigital7 เทรนด์ Mobile Marketing เพื่อการตลาดเชิงกลยุทธ์ในปี 2016

7 เทรนด์ Mobile Marketing เพื่อการตลาดเชิงกลยุทธ์ในปี 2016

แชร์ :

7mobiletrend

สมัยก่อนเมื่อพูดถึงการทำการตลาดบนโทรศัพท์มือถือเราคงนึกถึงแต่การส่ง SMS หรือโทรหาโดยตรง แต่อย่างที่เรารู้กันว่าปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป โทรศัพท์มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นมากกว่าไว้ใช้โทรออกหรือรับสาย แต่สามารถทำให้เราทุกคนเชื่อมต่อถึงกันในโลกใบใหญ่นี้ด้วยอินเตอร์เน็ต แบรนด์ต่างๆ จึงพัฒนาตามให้ทันด้วยการสร้างช่องทางการเข้าถึงทางมือถือให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือหรือแอพลิเคชั่น เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของพวกเขาให้ได้มากที่สุด

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

วันนี้เราจะพูดถึง 7 แนวโน้มที่จะส่งผลต่อการตลาดบนมือถือในปี 2016 ที่น่าลองไปปรับใช้

1. เพิ่มการใช้งาน Mobile Wallet
ปี 2015 ที่ผ่านมา Mobile Wallet หรือการชำระเงินเพื่อนซื้อสินค้าทางมือถือทำให้โลกของการจับจ่ายง่ายขึ้นหลายเท่า ผู้ใช้จำนวนมากที่กังวลเกี่ยวกับข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลบัญชีในการใช้จ่ายเงินออนไลน์ต่างๆ รู้สึกว่า Mobile Wallet เป็นช่องทางที่น่าสนใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ของพวกเขา Mobile Wallet เติบโตมากในอินเดียเมื่อปีที่ผ่านมา ระดับโลกเองก็พัฒนาไปในทางที่แข็งแรง เช่น Google Wallet, Apple Passbook และ Paypal มีการใช้งาน Mobile Wallet เพิ่มขึ้น 4% ในอเมริกา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโปรโมชั่นต่างๆ ที่ Mobile Wallet ผูกกับร้านค้า เพื่อมอบส่วนลดให้กับผู้ซื้อที่จ่ายเงินผ่านช่องทางนี้ ประโยชน์หลักๆ ที่เราได้รับจาก Mobile Wallet ได้แก่ ผู้ใช้จ่ายเงินออนไลน์ได้โดยไม่ยุ่งยาก Mobile Wallet ได้รับ Commission และการจัดสรรรายได้จากเว็บไซต์ e-commerce ต่างๆ จากการช่วยเพิ่มยอดขาย
M-Wallet

2. การแจ้งเตือนส่วนตัวเป็นสิ่งจำเป็น
Mobile Application เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำแล้วทิ้ง ในการเพิ่มความสนใจระหว่างผู้ใช้กับตัวแอพแอพจำเป็นต้องมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้ใช้แบบที่เขาจะไม่ได้รับจากที่อื่นนอกจากผ่านการแจ้งเตือนจากแอพเท่านั้น เช่น หากคุณเป็นแอพจองตั๋วเครื่องบิน ควรมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับรายละเอียดการเช็คอินที่ผู้ใช้งานได้จองไป หรือดีลพิเศษจากโรงแรมในเมืองปลายทางที่เขากำลังจะเดินทางไป เป็นต้น การแจ้งเตือนแบบส่วนตัวแบบนี้สามารถเปลี่ยนความรู้สึกที่ผู้ใช้มีต่อแอพได้ เพราะทุกคนชอบการถูกสนใจและเอาใจใส่ การทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเป็นศูนย์กลางของความสนใจจากแบรนด์จึงสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย E-commerce App เป็นกลุ่มที่ได้เปรียบในข้อนี้ เพราะมีโปรโมชั่นต่างๆ ให้เล่นมากมาย เช่นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการลดราคาของสินค้าที่ผู้ใช้เคยสนใจ เป็นต้น

Push Noti

3. Deeplinking ในทุกที่
ผู้ใช้งานส่วนมากค้นหาสินค้าที่พวกเขาต้องการจาก Search Engine ดังนั้นคุณต้องฝังลิงค์ของคุณลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการแทรก deep link ไว้ตามที่ต่างๆ ให้ง่ายต่อการคลิกและการค้นหา ไม่ว่าจะเป็นตามโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ต้องมีลิงค์ของคุณที่พร้อมกดไปยังแอพลิเคชั่นของคุณอยู่เสมอ หากผู้ใช้ไม่ได้ดาวน์โหลดแอพนั้นๆ ลงบนโทรศัพท์ของเขาก็ให้ลิงค์ไปยังหน้าดาวน์โหลด และหากเขามีแอพในเครื่องอยู่แล้ว ลิงค์ควรพาพวกเขาไปยังหน้าของรายละเอียดสินค้าชิ้นนั้นๆ โดยตรง มีรายงานว่าการทำ deep link ช่วยเพิ่มยอดขายของ Ecommcerce ได้ถึง 12-15% เลยทีเดียว

4. มอบข้อเสนอพิเศษเพื่อการได้มาและเก็บรักษาไว้ซึ่งผู้ใช้งาน
80% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีสามร์ทโฟน และ Mobile Application คือสิ่งที่ผู้ใช้งานใช้เวลา 89% ขอการใช้โทรศัท์ไปกับมัน สถิตินี้น่าจะเพียงพอที่จะทำให้หลายคนหันมาให้ความสนใจ Mobile App แต่เราพบว่าสิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ ไม่ใช่การสร้างแอพ แต่เป็นการรักษาแอพให้มีชีวิตยาวนานต่างหาก ผลการสำรวจพบว่า 25% ของแอพลิเคชั่นถูกใช้งานเพียงครั้งเดียวแค่ช่วง 6 เดือนแรกเท่านั้น ข้อเสนอพิเศษจากแอพจึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะทำให้แอพยังดึงความสนใจจากผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง การได้รับโปรโมชั่นดีๆ ที่มีเฉพาะในแอพเท่านั้น จะทำให้ผู้ใช้โหลดแอพและใช้งานต่อไปเรื่อยๆ

5. การเพิ่มขึ้นของการซื้อ-ขาย บน Smartphone
เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทำให้อัตราการซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย การคลิกปุ่ม Add to cart จากแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 8.58% เนื่องจากแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวก และด้วยหน้าจอที่ใหญ่ทำให้เอื้ออำนวยต่อการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นอย่างมาก และจากผลสำรวจยังทำให้เรารู้ว่า ผู้ใช้ถึง 56% ชอบการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมากกว่าช้อปบนคอมพิวเตอร์ และในปีนี้เราคาดหวังจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของการช้อปปิ้งผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเนื่องจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ง่ายขึ้น และราคาสมาร์ทโฟนที่ถูกลง

6. มาตรวัดเป็นสิ่งจำเป็นในการคำนวนหาอัตราการใช้งานของแอพฯ
ถ้าคุณประเมินมันได้ คุณก็พัฒนามันได้ มาตรวัดจึงจำเป็นสำหรับใช้ในการติดตาม คำนวน และวิเคราะห์ผล และพัฒนาให้ดีขึ้น เพราะผลการวิจัยบอกเราว่าเกือบ 77% ของแอพสูญเสียผู้ใช้งานไปตั้งแต่ 3 วันแรกหลังจากพวกเขาดาวน์โหลดแอพ ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับการรักษามาตรฐานของแอพรวมไปถึงข้อมูลที่บอกสาเหตุถึงการที่ผู้ใช้งานเลิกใช้แอพควรถูกติดตามและคำนวนออกมาได้ มันจะช่วยให้คุณพัฒนาไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ในการพัฒนาแอพครั้งต่อๆ ไปได้

7. Email ยังจำเป็น
การทำการตลาดออนไลน์บนสมาร์ทโฟน การใช้อีเมล์ยังจำเป็นและมีความสำคัญ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาอัตราการเปิดอ่านอีเมล์จากสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นสูงถึง 180% และอีเมล์ที่เกี่ยวกับการแจ้งข่าวสารโปรโมชั่นควรเป็น responsive เพราะหน้าจอของสมาร์ทโฟนมีขนาดเล็ก

เราจะเห็นว่าการจะประสบความสำเร็จในการทำแอพลิเคชั่นเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการติดตามอัพเดตแอพฯ นั่นๆ อยู่เสมอ มีแอพมากมายที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่ไม่ได้รับการพัฒนาต่ออย่างน่าเสียดาย นอกจากการทำแอพลิเคชั่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรถูกละเลยคือการใช้อีเมล์ เพราะมีผู้ใช้ถึง 34% ทีเดียวที่อ่านเมล์จากมือถือหรือแท็บเล็ต

ทั้งหมดคือ 7 แนวโน้มที่เรานำมาเป็นแนวทางในการนำไปปรับใช้กับการทำการตลาดบนสามาร์ทโฟนในปี 2016 หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเพิ่มช่องทางในารติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ใกล้ชิดมากขึ้น เพราะปัจจุบันการพัฒนาบนมือถือเดินทางมาไกล และคาดว่าจะไปได้อีกจนเราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว สิ่งสำคัญคือเตรียมพร้อม และรับมือให้ทัน

Source 


แชร์ :

You may also like