เพราะ “ไลก้า” (Leica) ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์ที่สร้างสรรค์กล้องถ่ายภาพระดับลักชัวรี่ ด้วยนวัตกรรมมาตรฐานระดับโลกเท่านั้น แต่ยังได้สร้างไลฟ์สไตล์และเปลี่ยนความลุ่มหลงของช่างภาพ ให้กลายเป็นภาพถ่ายสุดพิเศษ เต็มไปด้วยเสน่ห์ และสะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างครบถ้วน
แม้จะผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว และมีแบรนด์กล้องและอุปกรณ์การถ่ายภาพที่นำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำมาโดยตลอด แต่ชื่อของ “Leica” (ไลก้า) แบรนด์กล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพคลาสสิกระดับโลก สัญชาติเยอรมนี ยังคงเป็น “The Best of Camera” ที่ช่างภาพมืออาชีพ และคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปยกให้เป็น “กล้องในดวงใจ” ที่อยากครอบครองมากที่สุด แม้บางรุ่นจะมีราคาหลักแสน และต้องจองคิวรอนานนับเดือนก็ตาม 5 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “Leica” กลายเป็นแบรนด์กล้องคลาสสิกระดับโลก ที่อยู่เหนือกาลเวลา เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี “กล้องและเลนส์รุ่นเก่า” ยังเป็นที่ต้องการของนักสะสม โดยมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นตลอด ในขณะที่ “กล้องรุ่นใหม่” มีความต้องการในตลาดสูง …
ในยุคที่ผู้บริโภคมีอำนาจเต็มเปี่ยม แบรนด์กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องรอให้เป็นฝ่ายถูกเลือก ท่ามกลางคู่แข่งหลากหลาย ทั้งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี รวมทั้งแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดเพิ่มขึ้นมากมาย การที่แต่ละแบรนด์จะทำให้ผู้บริโภคเลือกตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย และที่ยากไปกว่านั้นคือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยังอยู่กับแบรนด์ของเราต่อไป ในยุคที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งยั่วยุสำหรับการ Switch ไปหาแบรนด์อื่นๆ ได้ตลอดเวลา
ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ เปลี่ยนโลโก้ หรือ Re-positioning Brand กันโครมๆ แต่ Leica กลับแสดงความมั่นคงของภาพลักษณ์แบรนด์ด้วย Print Ad ที่ดึงเอาความคลาสสิคของแบรนด์มานำเสนอ ด้วยการนำเอาโลโก้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1913 จนกระทั่งปี ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โฆษณาชิ้นนี้เผยแพร่ ว่าโลโก้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย โทรศัพท์มือถือ Huawei P9 ซึ่งมีจุดเด่นที่สร้างความฮือฮามากที่สุดก็คือส่วนของกล้อง หัวเว่ย พัฒนาร่วมกับ Leica ค่ายกล้องที่ได้ขึ้นชื่อว่าคลาสสิคและหรูหราที่สุดของโลก และหลังจากเปิดตัว ทางหัวเว่ย ก็ใช้วิธีการร่วมมือกับ EyeEm เครือข่ายขายภาพ และช่างภาพในเมืองใหญ่ของยุโรป ถ่ายภาพท้องถนนในเมืองที่พวกเขาอยู่ ด้วยมุมมองของพวกเขาเอง โดยกำหนดให้ถ่ายภาพในภาวะแสงน้อย(Low Light) และนี่คือภาพเซ็ทแรก ที่ถ่ายด้วย Huawei P9 ย้ำนะ ว่ามันคือโทรศัพท์มือถือ
