การจ้างพนักงานชายในธุรกิจดูแลผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักในญี่ปุ่น โดยส่วนหนึ่งมาจากข้อจำกัดด้านเพศที่ทำให้ผู้ชายหลายคนไม่สะดวกใจที่จะก้าวเข้ามาทำงานในสาขาอาชีพดังกล่าว อีกทั้งค่าแรงที่จ่ายให้กับพนักงานก็ไม่สูงมากพอจะดึงดูดบรรดาหนุ่ม ๆ ได้เหมือนสาขาอาชีพอื่น ๆ
แต่ไอเดียสุดแสนจะแหวกแนวของธุรกิจดูแลผู้ป่วยรายหนึ่งในจังหวัดไอจิก็สามารถเอาชนะใจหนุ่ม ๆ ได้ และนำไปสู่การจ้างพนักงานชายเข้ามาในบริษัทที่รับดูแลผู้สูงอายุได้ถึง 168 คน โดยพวกเขาเลือกที่จะให้สวัสดิการพนักงาน (นอกเหนือจากเงินเดือน) เป็นค่าฟิตเนส และโปรตีนเชค พร้อมเผยว่า ไอเดียดังกล่าวทำให้มีบรรดาหนุ่ม ๆ นักเล่นกล้ามพากันมาสมัครกันอย่างคับคั่ง และทำให้ในปี 2024 บริษัทมีการจ้างพนักงานมากถึง 168 คน โดยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มนักเล่นกล้าม พร้อมเปิดเผยว่า มีพนักงานคนหนึ่งนิยามสวัสดิการของบริษัทว่า เป็นมิตรกับนักเล่นกล้ามที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้ว
สำหรับหน้าที่ของพนักงานหนุ่ม ๆ นักเล่นกล้ามเหล่านี้ก็คือ การดูแลผู้ป่วยติดเตียง ป้อนอาหาร แปรงฟัน หยอดยาหยอดตา ช่วยให้ผู้ป่วยได้เคลื่อนไหวร่างกาย ฯลฯ เป็นต้น โดยบริษัทนี้ยังคาดการณ์ว่า ในปี 2025 บริษัทจะมีรายได้มากถึง 2,200 ล้านเยน หรือเพิ่มขึ้นราว 10 เท่าเมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2018
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นประเมินว่า ภายในปี 2040 ญี่ปุ่นจะขาดแคลนพนักงานในกลุ่มผู้ดูแลประมาณ 570,000 คน เนื่องจากค่าจ้างของอาชีพนี้ค่อนข้างต่ำ ไม่สอดคล้องกับลักษณะงานที่ต้องใช้แรงมาก ทำให้คนที่ทำงานในอุตสาหกรรมดังกล่าวมักเป็นผู้หญิง และส่วนใหญ่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปด้วย
แต่ความท้าทายของญี่ปุ่นยังไม่จบแค่นั้น เพราะญี่ปุ่นยังเผชิญปัญหาพนักงานลาออกจากงาน เพื่อกลับไปดูแลพ่อแม่ หรือสมาชิกในครอบครัวที่ป่วยหนัก-แก่ชรา อีกประมาณ 100,000 คนต่อปี ซึ่งรัฐบาลคาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 จะมีคนญี่ปุ่นราว 300,000 คนที่ต้องทำงานไปด้วย และดูแลคนป่วยที่บ้านไปพร้อม ๆ กัน
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE