
ในงานสัมมนา SME Thailand Future Day 2026 คุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) สรุปเทรนด์ “Consumer Insight รู้ทันพฤติกรรมผู้บริโภค เจาะลึกพลังซื้อใหม่ 2026” ดังนี้
ย้อนดูเทรนด์ผู้บริโภคตามยุค
ปี 2018 – 2019 Aspirational Dive
– ผู้บริโภคมีความมั่นใจทางเศรษฐกิจ มุ่งสู่ความสำเร็จและสถานะทางสังคม ใช้จ่ายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เลือกซื้อสินค้าหรือบริการที่สะท้อนความสำเร็จและความมีระดับ
ปี 2020 – 2022 Disruption & Reflection
– เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์แบบฉับพลันช่วง Covid-19 ลดการใช้จ่ายเน้นสุขภาพและความมั่นคง ใส่ใจครอบครัวและความสัมพันธ์ หลังล็อกดาวน์ มองหาความสุขเล็กๆ และสมดุลใจ
ปี 2023 – 2025 Burnout Build-up
– หลังโควิด ผู้บริโภคไทยเผชิญความเหนื่อยล้าและความกังวลเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ค่าครองชีพสูง งานไม่มั่นคงและแรงกดดันจาก AI คนกังวลค่าครองชีพกระทบชีวิตการเงิน
– ช่วงนี้สินค้าที่เติบโต คือ เครื่องดื่ม 9% อาหาร 7% ของใช้ในบ้าน 7% สินค้าความงาม 3% ขณะที่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง 1% และมือถือลดลง 2%
3 วิธีฮีลใจยอดนิยมของคนไทย
ปัจจุบันแม้เศรษฐกิจซบเซา มีความขัดแย้งทั้งในและนอกประเทศ แต่คนไทยคาดหวังจะมีความสุขมากขึ้นทุกปีและมีความเชื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น การคาดหวังความสุขเพิ่มขึ้น มาจากคนไทยมีวิธีฮีลใจตัวเอง สรุป 3 วิธีฮีลใจยอดนิยมของคนไทย
1. ฮีลใจด้วยความเงียบใช้เวลาอยู่กับตัวเอง 46%
2. ปล่อยให้เวลาเยียวยา เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง 38%
3. พึ่งพาธรรมชาติ 35%
การฮีลใจด้วยตัวเองมาจากสิ่งที่คนไทยต้องเผชิญในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์แผ่นดินไหว ความขัดแย้งทางการเมือง ค่าครองชีพสูง ความท้าทายและแรงกดดันจาก AI ที่จะเข้ามาแย่งงาน ปี 2025 เรียกว่าเป็นปีที่คนไทย “อยู่รอด” และ “เยียวยา”
4 พลังซื้อใหม่เทรนด์ผู้บริโภค2026
ปี 2026 เรียกว่าเป็นปีแห่งการ “ปรับจูน” และ “เติบโต” เพื่อเผชิญกับโลกที่ไม่แน่นอน ทุกครั้งที่โลกเปลี่ยน ผู้บริโภคไม่ได้หายไป แต่ “เปลี่ยนเหตุผล” ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ สรุป 4 เทรนด์ผู้บริโภค 2026 พลังซื้อยุคใหม่
1. The Value Maximizer คนที่มองหาความคุ้มค่าคุ้มราคา
– เป็นผู้บริโภคกลุ่มแมส ทุกเพศทุกวัย อายุ 18-59 ปี
– จากผลวัยพบว่า 40% ของคนไทยต้องการของที่ดีกว่าทั่วไปที่เป็น Mainstream เช่น นมโปรตีนสูง น้ำด่าง แชมพูสระผมผสมวิตามิน โดยเป็นตัวเลขที่สูงกว่าอาเซียน ซึ่งอยู่ที่ 35% จีน 20% ญี่ปุ่น 15%
– มุมมองของกลุ่มนี้ คือ ยังซื้อสินค้าเหมือนเดิม แต่ต้องคุ้มกว่าเดิม พฤติกรรมเทียบเทียบราคา ดูรีวิว วัดคุณค่าต่อบาท เพราะภูมิใจในการเป็นนักช้อปที่ฉลาดซื้อ
– แบรนด์ที่จะจับใจกลุ่มนี้ ต้องเน้นที่ความคุ้มค่า
2. The Soloist กลุ่มคนโสด
– ประเทศไทยมีคนโสด 25% รวมทั้งอัตราการอาศัยอยู่คนเดียว (Living Alone) เพิ่มขึ้นทุกปี ปี 2022 อยู่ที่ 6% ปี 2025 เพิ่มเป็น 26%
– คนไทย 37% ชอบทำกิจกรรมคนเดียว โดยเป็นสัดส่วนที่มากกว่า อาเซียน 32% ญี่ปุ่น 23% จีน 20%
– เป็นกลุ่มที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข พฤติกรรมกินข้าวคนเดียว ท่องเที่ยวคนเดียว ชอบความอิสระและบาลานซ์การใช้ชีวิต เพราะพวกเขารู้สึกว่า Alone but Empowered
– แบรนด์ที่จับกลุ่มนี้ ต้องให้ความสะดวกและทำให้รู้สึกว่าควบคุมได้ (Comfort & Control)
3. The Kidult Escapist กลุ่มผู้ใหญ่ที่โตแล้วแต่ยังใช้จ่ายเพื่อความสุขเพื่อตัวเอง
– กลุ่มผู้ใหญ่อายุ ทุกเพศ อายุ 25-45 ปี อาศัยอยู่ในเมือง รายได้ระดับกลางถึงสูง
– กลุ่มนี้สัดส่วนกว่า 30% ของ Gen Z และ Gen Y บอกว่าตัวเองเป็น Free Spirited & Fun เดิมการเป็นผู้ใหญ่จะดูกันที่สถานะทางสังคมและความเครียด แต่ยุคนี้เป็น Playful Lifestyle มองหาความอิสระและความสุขในชีวิต
– มุมมองกลุ่มนี้เห็นว่า การเล่นไม่ใช่ของเด็ก แต่คือพื้นที่ฟื้นพลังของผู้ใหญ่ จึงมีพฤติกรรมซื้อของเล่น อาร์ตทอย เล่นบอร์ดเกม ดูอนิเมะ ใช้จ่ายเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง
– แบรนด์ที่จับกลุ่มนี้ต้องเป็นแบรนด์ที่มอบความสนุก เพราะเป็นวัยที่มองว่า Play is my therapy
4. The Silver Explorer กลุ่มที่อายุ 50 ปีขึ้นไป มีเวลาและต้องการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า
– กลุ่มอายุ 45-69 ปี Gen X และ Baby Boomer รายได้ระดับกลางถึงสูง
– โดย 40% ของคนไทยอายุ 50 ปีขึ้นไป ต้องการใช้จ่ายกับการพักผ่อน (ไม่รวมท่องเที่ยว) เป็นตัวเลขที่สูงกว่า อาเซียนที่ 37% จีน 22% ญี่ปุ่น 17%
– กลุ่ม Baby Boomer บอกว่ามีระดับความสุข 87% ส่วน Gen X อยู่ที่ 75% (Gen Y 68% / Gen Z 66%)
– มุมมองของกลุ่มนี้ บอกว่ามีทุกอย่างแล้ว ตอนนี้ต้องการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า พฤติกรรมชอบเดินทาง พักผ่อน ทำเพื่อสังคม
– แบรนด์ที่่จับกลุ่มนี้ ต้องให้ข้อเสนอที่มีความเคารพ นำเสนอการท่องเที่ยวที่มีความหมาย
สรุปกลยุทธ์แบรนด์เจาะผู้บริโภค2026
1. The Value Maximizer : Re-Value คือ ความภูมิใจในความฉลาด ทำให้รู้สึกคุ้มค่าที่ตัดสินใจเลือกแบรนด์
2. The Soloist : Re-balance คือ ให้ความสำคัญกับอิสระ พื้นที่พักใจ
3. The Kidult Escapist : Re-play คือ นำการเล่นมาเป็นพลังบำบัดใจให้ผู้ใหญ่ในยุคนี้ได้รู้สึกความสนุกสนาน
4. The Silver Explorer : Re-purpose คือ การสร้างความหมายให้มีคุณค่า
ปี 2026 เป็นปีแห่งการปรับจูนและเติบโต ผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟังเสียงของตัวเองเป็นหลัก เลือกสิ่งที่ใช่ให้กับตัวเอง จากปีก่อนที่มีความกดดันและเจอการแข่งขันสูง ปี 2026 จึงต้องการกลับมาใช้จ่ายเพื่อมอบความสุขให้ตัวเองอีกครั้ง
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE









