Booking.com เปิดรายงาน เรื่อง ‘Taste of Home Asia Pacific’ แสดงให้เห็นว่าอาหารกำลังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดประสบการณ์การเข้าพักที่บ้านพักตากอากาศในปี 2568 โดยผู้เดินทางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหันมาเลือกบ้านพักที่มอบความสะดวกสบายและอิสระในการรับประทานอาหาร เช่น บ้านพักตากอากาศที่สามารถทำอาหารได้เอง อยู่เป็นกลุ่มใหญ่ หรือจัดปาร์ตี้กันได้แบบเป็นส่วนตัว ทำให้ช่วงเวลาในการกินกลายเป็นโมเมนต์แห่งการสร้างความทรงจำร่วมกัน มากกว่าแค่การนั่งทาน ท่องเที่ยวจึงเป็นการ “ลิ้มรสประเทศนั้น ๆ” อย่างแท้จริง เป็นโอกาสในการเชื่อมต่อ เรียนรู้วัฒนธรรม และสร้างความทรงจำสุดประทับใจ
Food Experience หัวใจของการเลือกจุดหมายปลายทาง
จากอินไซต์ดังกล่าว ทำให้ “ที่พัก” ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกลายเป็น “บ้านพักตากอากาศ” เนื่องจากมีพื้นที่และเครื่องครัวครบครัน สำหรับประเทศไทย บ้านพักตากอากาศเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เดินทางชาวไทยที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการลิ้มลองอาหารประจำภูมิภาค หรือการใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ โดยประเภทที่พัก 5 อันดับแรกที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เดินทางชาวไทย ได้แก่ บ้านพักริมชายหาด (57%) เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัว (32%) ตามด้วยเกสต์เฮาส์ (31%) การตั้งแคมป์หรือเต็นท์ (29%) และบ้านพักในชนบท (26%)
เพราะการรับประทานอาหารนอกบ้านยังเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้เดินทางสายกิน โดย 54% รับประทานอาหารที่ร้านอาหารท้องถิ่นเป็นประจำขณะอยู่ที่ต่างประเทศ นอกจากนี้ 34% ของพวกเขาจองบ้านพักตากอากาศเพื่อที่จะเข้าถึงประสบการณ์การรับประทานอาหารท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น
ห้องครัวกลายเป็น Social Hub ของการเดินทางยุคใหม่ ดังนั้น Booking.com ในฐานะแพลตฟอร์มด้านเทคโนโลยีที่ต้องการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง จึงกระตุ้นให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์พัฒนาเครื่องอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับเทรนด์ความต้องการของผู้เข้าพัก ร่วมทั้งนำเสนอข้อมูลให้ครบถ้วน น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งซื้ออาหารสด หรือร้านอาหารที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ไปจนถึงจับมือกับพันธมิตร เช่น ตลาด และร้านอาหารท้องถิ่น ร่วมกันครีเอท Local Food Tour สร้างการรับรู้ผ่านโซเชียล ดึงนักท่องเที่ยวให้ใช้เวลาในท้องถิ่นให้นานขึ้น
Holiday Kitchen กลายเป็น Social Experience ของ Gen Z
นอกจากนี้เทรนด์ที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ การเติบโตของบทบาท “เชฟ” เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มทำอาหารด้วยตัวเองอย่างมั่นใจและผสมผสานสูตรอาหารของครอบครัวกับไอเดียใหม่ ๆ โดยพบว่า Gen Z มักทำอาหารตามสูตรของครอบครัวบ่อยที่สุด (25%) เมื่อเทียบกับ Millennials (19%), Gen X (21%) และ Boomers (18%) การเข้าครัวของเหล่า Gen Z ในระหว่างการท่องเที่ยว สามารถสร้างโมเมนต์ นำเสนอผ่านโซเชี่ยลมีเดีย และเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว โดยแนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักเดินทางชาวเอเชียแปซิฟิคอย่างมีนัยสอดค้ลองกัน
สำหรับ เมนูยอดนิยมระหว่างเข้าพัก ประกอบด้วย
- • อาหารทะเลสด 51%
- • ปิ้งย่าง/หมูกระทะ 48%
- • อาหารเช้า 31%
- • เมนูท้องถิ่น 22%
นอกจากนี้ รูปแบบครัวและพื้นที่กินกลายเป็นปัจจัยดึงดูดลูกค้า เมื่อนักเดินชาวไทยทางคาดหวังว่าบ้านพักตากอากาศจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน โดยความต้องการประกอบด้วย
- • มีเครื่องครัวครบ (73%)
- • โซนบาร์บีคิว (62%)
- • พื้นที่อาหารกลางแจ้งวิวดี (62%)
สูตรลับมัดใจนักเดินทางยุคใหม่
จากอินไซต์ดังกล่าว กลายเป็น 4 เทรนด์ที่น่าสนใจ ดังนี้
1. The New Head Chef : บทบาท “แม่ครัวประจำทริป” ไม่ได้เป็นของคุณแม่อีกต่อไป คนรุ่นใหม่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นเชฟตัวจริงของบ้านพัก!
2.Holiday Kitchen Personas: ห้องครัว คือ เวทีโชว์ตัวตน และศูนย์รวมความสุขของทริป อาหารประจำทริปที่ถูกปรุงกันเองจะมี 4 สายหลัก Traditionalist — ยึดสูตรครอบครัว / Experimenter — กล้าลองเมนูใหม่ ๆ และวิธีทำที่ไม่เคยลอง/ Minimalist — ทำง่าย เร็ว พร้อมไปเที่ยวต่อ/ Socialite — เข้าครัวเพื่อปาร์ตี้ ทำอาหารร่วมกันเพื่อเป็นกิจกรรมกลุ่ม
3.Trolley Tourism: ตลาดสด กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แทนที่จะไปสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านขายของที่ระลึก เปลี่ยนเป็นตลาดท้องถิ่นหรือเดินเข็นรถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ตแทน เพื่อตามล่าหาวัตถุดิบ
4.Portable Pantry: พกครัวส่วนตัวไปทุกที่ นักเดินทางจำนวนมากเริ่ม “แพ็กเครื่องครัว” ไปเที่ยวด้วย ตั้งแต่ กาแฟประจำตัว ซอสโปรด เครื่องปรุง ไปจนถึงอุปกรณ์ BBQ แต่ก็ยังอยากทดลองวัตถุดิบของสถานที่นั้นๆ ด้วย
คุณบรานาวัน อรุลโจธี Area Manager ของ Booking.com กล่าวว่า “รายงาน Taste of Home ของ Booking.com แสดงให้เห็นว่าอาหารเป็นหัวใจสําคัญของการเข้าพักในบ้านพักตากอากาศ ผู้เดินทางเลือกบ้านพักตากอากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแต่เพื่อความสะดวกสบาย แต่เป็นโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นแท้ ๆ และออกเดินทางสู่การท่องเที่ยวเชิงอาหารที่มอบแรงบันดาลใจและเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับชุมชน การรับประทานอาหารร่วมกัน การลิ้มลองรสชาติท้องถิ่น และอิสระในการทำอาหารด้วยกัน ได้เปลี่ยนการเข้าพักให้กลายเป็นประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวา ช่วยให้ผู้เข้าพักสัมผัสได้ถึงความผูกพันกับจุดหมายปลายทางและความอบอุ่นเสมือนอยู่บ้านหลังที่สองอย่างแท้จริง ผ่านการรับประทานอาหารพร้อมหน้า รสชาติท้องถิ่น และความสุขจากการทำอาหารด้วยกัน”
ความน่าสนใจของรายงานเรื่อง ‘Taste of Home Asia Pacific นี้สะท้อนให้เห็นว่าความอยากรู้อยากลองในรสชาติใหม่ ๆ จนเปลี่ยนวิถีการท่องเที่ยว ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Culinary Tourism) ซึ่งกำลังเติบโตและผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เมื่อ “อาหาร” คือแรงจูงใจหลักที่กำหนดว่า “จะไปที่ไหน” ไม่ใช่แค่กิจกรรมเสริมทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดึงดูดใจนักเดินทางผู้ใฝ่หาเมนูเด็ด ทั้งจากร้านอาหารและลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง เพราะการท่องเที่ยวในยุคนี้ “ทริปที่ดี… ต้องมีรสชาติให้จดจำ”








