การมาถึงของ Gen Alpha ในโลกการทำงานที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาจทำให้คนทำงานในปัจจุบันเตรียมปรับตัวกันอีกครั้ง โดยมีการศึกษาจาก Benenden Health ในกลุ่มวัยรุ่นอังกฤษจำนวน 500 คนพบว่า 77% อยากให้ที่ทำงานให้ความสำคัญกับ “สุขภาพจิต” พร้อมบอกว่า ประเด็นดังกล่าวมีความสำคัญต่อการเลือกสถานที่ทำงาน ไม่ต่างจากการได้เงินเดือนสูง ๆ เลยทีเดียว
หลังจากการเข้าสู่โลกการทำงานของ Gen Z ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้านมารอบหนึ่งแล้ว Gen Alpha หรือคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2010 ก็กำลังจะเริ่มเข้ามาทำงานด้วยเช่นกัน โดยหากเปรียบเทียบจุดเด่นของ Gen Z ก็คือนิยามที่หลายคนให้ไว้ว่า พวกเขาเป็น Digital Native (เติบโตมากับโลกดิจิทัล อุปกรณ์ดิจิทัล ตลอดจนชีวิตที่มีทั้งโลกออนไลน์ และโลกออฟไลน์)
แต่สำหรับ Gen Alpha เด็ก ๆ กลุ่มนี้ถูกนิยามว่า เป็น AI-Native หรือก็คือ คนที่เติบโตมากับ AI และคุ้นเคยกับการสั่งการสิ่งต่าง ๆ ด้วยเสียง นอกจากนี้ เด็ก ๆ อาจมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่ต้องพยายาม “ค้นหาคำตอบ” เพราะพวกเขามักได้รับคำตอบโดยตรงจาก AI ที่อยู่รอบตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งไลฟ์สไตล์เหล่านี้ จะติดตัวไปกับ Gen Alpha และนำเข้าสู่โลกการทำงานอย่างไม่ต้องสงสัย
Gen Alpha ต้องการทำธุรกิจเอง
ขณะที่อีกหนึ่งผลการศึกษาเกี่ยวกับมุมมองด้านการทำงานของ Gen Alpha จาก Visa (เป็นผลการศึกษาในปี 2023) ยังพบด้วยว่า Gen Alpha มากกว่า 3 ใน 4 อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยมีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่า พวกเขาต้องการทำงานในบริษัทต่าง ๆ มากกว่า โดย Visa ยังพบว่า Gen Alpha ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพจิตสูงมาก และมองว่า นโยบายด้านสุขภาพจิตมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเลือกสถานที่ทำงานในอนาคต (เมื่อถูกให้เลือกระหว่างบริษัทที่มีนโยบายให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต หรือบริษัทที่ให้ค่าตอบแทนสูง ๆ มากกว่าครึ่งหนึ่งกล่าวว่าทั้งสองอย่างมีความสำคัญเท่าเทียมกัน)
ปัจจัยที่ Gen Alpha มองหาข้อสุดท้ายคือ การทำงานแบบยืดหยุ่น และการทำงานจากระยะไกล โดย Gen Alpha มองว่า ปัจจัยข้อนี้สำคัญที่สุดในการเลือกสถานที่ทำงานของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้อาจสะท้อนให้เห็นว่า Gen Alpha (ที่ปัจจุบันยังใส่ชุดนักเรียนอยู่) มีความคาดหวังต่อโลกการทำงานที่แตกต่างจาก Generation ก่อนหน้ามากพอสมควร อีกทั้งยังเมินการทำงานที่โต๊ะ หรือระบบเลื่อนขั้นแบบดั้งเดิมเสียด้วย ซึ่งนี่อาจเป็นความท้าทายที่องค์กรต้องเตรียมตัวรอบใหม่เพื่อรับมือกับพวกเขาแล้วก็เป็นได้