“ที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” หรือ “Green Living” ยังเป็นหนึ่งในเซ็กเม้นต์อสังหาฯ ที่มาแรงต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันสัดส่วนของตลาดนี้ยังไม่ใหญ่มาก แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ประกอบกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวนอย่างหนัก จึงทำให้ Market Size มีการขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง และจะเห็นแทบทุกดีเวลลอปเปอร์กระโดดเข้ามาพัฒนาที่อยู่อาศัยรักษ์โลกในแบบต่างๆ กันอย่างคึกคัก
โดยแบรนด์ล่าสุดคือ “บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “SC Asset” กับการเปิดตัว Bangkok Boulevard บางนา กม.12 ที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เข้าใจโลก โดยเป็นครั้งแรกของการ Collaboration แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสัญชาติเดนมาร์กอย่าง “HAY” (เฮย์) เพื่อรุกตลาด Green Living จึงน่าสนใจว่า ทำไม SC Asset จึงเลือกจับมือกับ HAY บุกตลาดในครั้งนี้ และเทรนด์ Green Living ในไทยจะเติบโตอย่างไร ไปหาคำตอบกับ คุณณัฎฐกิตติ์ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานตลาดและนวัตกรรม บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ คุณวีกฤษฎิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Norse Republics ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์ HAY มาทำตลาดในประเทศไทย
“คนรุ่นใหม่” พร้อมเพย์สินค้ารักษ์โลก ดัน Green Living โตได้ไกล
ทุกวันนี้ตลาดอสังหาฯ มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเพราะผู้บริโภครุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย และเป็นปัจเจกบุคคลสูง จึงต้องการสินค้าและบริการที่ Personalize มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ มีการแตกย่อยเป็นเซ็กเม้นต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเกมเมอร์ บ้านคนโสด บ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง บ้านผู้สูงวัย รวมไปถึงบ้าน Low Carbon หรือบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อเจาะลึกมาที่ตลาด Green Living คุณณัฎฐกิตติ์ บอกว่า เทรนด์นี้เริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว และมีหลายแบรนด์เริ่มพัฒนาบ้านรักษ์โลกมาทำตลาดกันมากขึ้น แต่ก็ยอมรับว่า ขนาดตลาดยังไม่ใหญ่มากนัก แต่เชื่อว่าตลาดนี้จะเติบโตได้อีกไกล เพราะสิ่งแวดล้อมไม่ได้เป็นเทรนด์ระยะสั้น อีกทั้งพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ก็หันมาปกป้องสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น สะท้อนได้จากผลวิจัยของอิปซอสส์ พบว่า 77% ของผู้บริโภครุ่นใหม่ จะเลือกซื้อสินค้าและบริการกับแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมและยอมจ่ายแพงขึ้น
แม้ว่าขนาดตลาดจะยังเล็ก แต่ที่ผ่านมา SC Asset ก็ใส่ใจและทำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่การใช้วัสดุและนวัตกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลักในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ในอาคารและบ้านตัวอย่างกว่า 50 โครงการ รวมถึงการใช้กระจกตัดแสง และติดตั้งระบบอัจฉริยะเพื่อควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อลดการใช้พลังงานภายในบ้านให้มากขึ้น
ต่อยอดสู่ Green Collaboration บ้านหรู ก็รักษ์โลกได้
กระทั่งมาปีนี้ SC Asset มีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 100,000 ตันคาร์บอน ภายในปี 2030 บวกกับความตั้งใจที่อยากปรับภาพลักษณ์แบรนด์บางกอก บูเลอวาร์ดให้ Young ขึ้น เพราะปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อเป็นกลุ่ม Young Generation ขึ้นเรื่อยๆ โดยมีอายุไม่เกิน 35 ปี และหากมองมาที่พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้ จะพบว่าแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ โดยคุณณัฎฐกิตติ์ บอกว่า คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการความหรูหรามากมาย แต่อยากได้ความ Cozy ทั้งยังใส่ใจในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ามาอยู่ในบ้าน โดยไม่ได้มองแค่ความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังต้องการฟังก์ชั่นการใช้งานที่สอดรับกับการใช้ชีวิตและดีต่อโลกด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของการทำ Green Collaboration กับ HAY เป็นครั้งแรก
เนื่องจากมองว่า “เฟอร์นิเจอร์” เป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัยในบ้าน หากสามารถลดปริมาณของเสียจากการใช้เฟอร์นิเจอร์ลงได้ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินได้ อีกทั้ง HAY เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีจุดเด่นด้านความเรียบง่ายในการดีไซน์ แต่เพิ่มความสนุกด้วยสีสัน และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์บางกอก บูเลอวาร์ดมีความแตกต่างออกไป และลุค Young ขึ้นได้
บอกเล่าเรื่องราวเฟอร์นิเจอร์ ผ่านนิทรรศการในบ้านตัวอย่าง
สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่นำเฟอร์นิเจอร์ HAY มาตกแต่งในบ้านตัวอย่างแบบ Fully Furnished เท่านั้น เพราะคงจะธรรมดาไป และมองเผินๆ ผู้บริโภคอาจจะไม่เห็นภาพของเฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก SC Asset จึงต้องการให้ผู้บริโภคได้เห็นกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์รักษ์โลกแต่ละชิ้นว่ามีที่มาอย่างไร ใช้วัตถุดิบแบบไหน ใครออกแบบ จึงได้นำความต้องการนี้ มาคุยกับทาง HAY จนตกผลึกออกมาเป็นการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบ “นิทรรศการ” หรือ “Exhibition”
“รู้สึกว่าไอเดียน่าสนใจ เพราะยังไม่เคยมีแบรนด์ไหนทำมาก่อน และไม่ได้หนักใจ เพราะ HAY ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2002 แล้ว โดยมีการวิจัยและใช้วัสดุจากธรรมชาติในการพัฒนาสินค้าตลอดกระบวนการผลิต จึงอยากให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับเรื่องราวเหล่านี้เช่นกัน”
คุณวีกฤษฏิ์ เล่าความรู้สึกหลังได้รับโจทย์มาครั้งแรก และบอกว่า คนรุ่นใหม่เป็นคนที่รู้เรื่องสินค้าค่อนข้างลึก เพราะชอบศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่จะซื้อ บางคนไม่ได้รู้แค่ว่าผลิตจากวัตถุดิบอะไร แต่รู้ไปถึงชื่อคนออกแบบ ดังนั้น การปล่อยให้ลูกค้าได้เดินอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆ เหมือนเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ จะทำให้ซึมซับเรื่องราวได้ดีกว่าการให้พนักงานขายมาเล่าข้อมูลอย่างเดียว
โดยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในบ้านตัวอย่างยังคงจัดวางตามห้องต่างๆ เหมือนบ้านตัวอย่างทั่วไป แต่ความพิเศษคือ เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นจะบอกเล่ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่รุ่น ผู้ออกแบบ จนถึงกระบวนการผลิต ยกตัวอย่าง ห้องนั่งเล่น ที่ตกแต่งด้วย Mags Low Sofa เป็นโซฟารุ่น Classic ของ HAY ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2002 และได้รับความนิยมมาถึงปัจจุบัน ด้วยดีไซน์เรียบง่าย และผลิตจากโฟมรีไซเคิล 100% ทั้งยังมี HAY Dogs Collection ซึ่งมีทั้งเบาะนอน ปลอกคอ และสายจูง ออกแบบโดย HAY & Holly Golightly และผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% จึงปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง และดีต่อโลก
ส่วนห้องอาหาร เลือกตกแต่งด้วยเก้าอี้ Rey Collection ซึ่งออกแบบโดย Bruno Rey คอลเลคชั่นนี้เป็นการนำโต๊ะและเก้าอี้ที่ผลิตในปี 1971 มาทำให้มีชีวิตอีกครั้ง ด้วยความร่วมมือของ HAY และผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเฟอร์นิเจอร์ Dietiker โดยใช้เทคนิคการประกอบแบบดั้งเดิมที่ไม่ใช่สกรู ต่อกันที่ห้องนอน โดดเด่นด้วยที่นอน Silky Cotton Fabric ที่ใช้ผ้าคอตตอนผลิตจากเส้นใยธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ทั้งกระบวนการผลิตยังคำนึงผลกระทบต่อธรรมชาติ ขณะที่ห้องน้ำนำของใช้ใกล้ตัวอย่าง แปรงสีฟัน Tann Toothbrush มาจัดแสดง โดยด้ามแปรงผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% และขนแปรงทำจาก PBT 100% ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ทนทาน จึงทำให้แปรงมีประสิทธิภาพที่ดี ทั้งยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
หวังปรับลุคแบรนด์ ลดคาร์บอนช่วยโลกยั่งยืน
อีกหนึ่งความพิเศษคือ โซนนิทรรศการย่อมๆ Exhibition AAC23 with Kvadrat Fabric เพื่อให้คนได้รู้จักตัวตนของ HAY มากขึ้น โซนนี้จะประกอบด้วย เก้าอี้ About a Chair โดยขาของเก้าอี้ทำมาจากไม้ที่ได้รับการรับรอง FSC ซึ่งมาจากแหล่งปลูกป่าที่มีการจัดการยั่งยืน ทั้งยังใช้แลคเกอร์ที่ใช้น้ำเป็นฐานในการเคลือบ (Water-Based Lacquer) ส่วนเบาะหุ้มด้วยผ้า Steelcut Trio 3 ที่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและควบคุมสารเคมี รวมถึง Paper Shade with Common Table Lamp Base โคมไฟจากวัสดุธรรมชาติและกระดาษหลายขนาดที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย และ Colour Crate ลังพลาสติกหลากสีสันของ HAY ที่ผลิตจากขยะพลาสติกรีไซเคิลในครัวเรือน 100%
ขณะเดียวกัน ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับคนรุ่นใหม่หัวใจสีเขียว โดยลูกค้าที่จองซื้อบ้าน ภายใต้แบรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด และ บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ รวม 23 โครงการ ตั้งแต่วันนี้ – 1 มิถุนายน 2568 จะได้รับเฟอร์นิเจอร์ HAY ตกแต่งครบชุดทั้งหลัง มูลค่าสูงสุด 3 ล้านบาท* ซึ่งหลังจากนี้จะได้เห็น SC Asset ทำ Green Collaboration กับพาร์ทเนอร์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน