จากกรณีที่บริษัทสัญชาติเยอรมนี Delivery Hero ออกมาประกาศลาวงการ Food Delivery ไทยด้วยการปิดบริการ foodpanda อย่างเป็นทางการนั้น ก็ได้มีหลายแบรนด์ในอุตสาหกรรม Food delivery ออกมาส่งกำลังใจให้เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมกันมากมาย และล่าสุดก็คือ Grab (แกร็บ) ยักษ์ใหญ่อีกรายหนึ่งที่มองว่า ธุรกิจ Food delivery นั้นต้องเผชิญความท้าทายมาตลอดอยู่แล้ว รวมถึงแนะนำเทคนิคในการอยู่รอดร่วมด้วย
คุณจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ตลาดฟู้ดเดลิเวอรีในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในแง่ของโมเดลธุรกิจ ฟู้ดเดลิเวอรีถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะในแง่ของการสร้าง “สมดุล” ให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ เพราะในอีโคซิสเต็มของบริการฟู้ดเดลิเวอรีนี้มีทั้งลูกค้า คนขับ ผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงแพลตฟอร์ม การบริหารธุรกิจให้ทุกฝ่ายพึงพอใจและได้รับประโยชน์ร่วมกันมากที่สุดถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่แพลตฟอร์มต้องเรียนรู้และปรับกลยุทธ์กันตลอดเวลา”
คุณจันต์สุดากล่าวต่อไปด้วยว่า “ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่ากลยุทธ์ที่แกร็บได้ปรับและดำเนินการมาในช่วง 2-3 ปีหลังนั้นมาถูกทางแล้ว โดยเรามุ่งเน้นสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่าง “ยั่งยืน” โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลในวงจรธุรกิจเป็นอันดับแรก ซึ่งสะท้อนผ่านผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวที่สามารถทำกำไรต่อเนื่องมาเป็นปีที่สอง และสามารถครองความนิยมอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดของ GrabFood ที่มีถึง 46 % (อ้างอิงจากรายงานของ Momentum Works ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชั้นนำที่น่าเชื่อถือในระดับภูมิภาค)
ทั้งนี้ ผู้บริหารแกร็บเผยด้วยว่า “การเข้าใจความเคลื่อนไหวของตลาดและคู่แข่งถือเป็นพื้นฐานในการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการไม่หลุดจากวิสัยทัศน์และ “เป้าหมาย” (Purpose) อันเป็นแก่นสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งสำหรับแกร็บ เราไม่เคยหยุดมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้กับผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง”