ต้นปีที่ผ่านมา “กลุ่มไทยเบฟ” ได้ประกาศปรับโครงสร้างการบริหารงานของธุรกิจต่างๆ ในเครือตามธรรมเนียมองค์กร เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนบุคลากรภายในให้เพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ภายใน โดยหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาคือ การกลับมากุมทัพใหญ่กลุ่มธุรกิจอาหารของ “คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร” นั่งแท่นผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย อดีตแม่ทัพใหญ่ที่ผันตัวไปปั้นบิสโทร เอเชียฯ (อีกหนึ่งธุรกิจอาหารของไทยเบฟ) ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง
โดยกลุ่มธุรกิจอาหาร ‘FOODS GROUP’ คือหนึ่งในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของไทยเบฟ ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ทะลุ 20,000 ล้านบาท จาก 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด , บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย (QSA) และ บริษัท ฟู้ด ออฟ เอเชีย (FAO) การปรับทัพใหญ่ครั้งนี้ยังได้แต่งตั้งมือดีจากไทยเบฟอีก 3 ท่านเข้าคุมทัพแต่ละบริษัทย่อยในเครือซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี
ประกอบด้วย คุณศสัย ตังเตชะหิรัญ ดูแลการบริหารของ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด ร้านอาหารญี่ปุ่นโออิชิ , คุณอรณัฐร์ ผกาภรณ์รัตน์ ดูแลบริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย (QSA) ผู้ถือสิทธิ์ขยายแบรนด์เคเอฟซีในไทย และ คุณธารินทร์ รินธนาเลิศ บริหารงานบริษัท ฟู้ด ออฟ เอเชีย (FAO) ดูแลแบรนด์อาหารที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นและเคเอฟซี โดยมีแบรนด์อาหารในเครือกว่า 28 แบรนด์ในพอร์ต อาทิ เคเอฟซี, โออิชิ, เรดล็อบสเตอร์, Vantage Point, บ้านสุริยาศัย เป็นต้น
ONE FOODS GROUP: ONE FOOD – ONE TEAM – ONE GOAL วิชั่นใหม่พาธุรกิจอาหารโตดับเบิ้ล
โจทย์ใหญ่ของ “คุณแซม-ไพศาล“ นับจากนี้คือการเดินหน้าบริหารธุรกิจอาหารในเครือให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามที่แม่ทัพใหญ่อย่าง “คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี” ตั้งเป้าไว้ว่าอยากให้ธุรกิจอาหารเติบเป็นตัวเลขสองหลัก (Double Dogits) จากนี้ไปตามเป้าหมาย Passion 2030 ที่ทางค่ายวางไว้ร่วมกัน
ภายใต้วิสัยทัศน์และแนวคิด “ONE FOODS GROUP: ONE FOOD – ONE TEAM – ONE GOAL” ที่เน้นการรวมศูนย์การบริหาร แต่ยังคงความหลากหลายของแบรนด์ เสริมความเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่มธุรกิจอาหาร เพื่อรองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้งบการ “เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ซื้อเราให้มากขึ้น และอยู่กับเราให้มากขึ้น” และนั่นคือเป้าหมาย หลักจากนี้ เป้าหมายคือการขับเคลื่อน ‘FOODS GROUP’ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพ โดยใช้พลังของแต่ละแบรนด์ที่มีอยู่ในกลุ่ม มารวมศูนย์ทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และวิธีคิด เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่าเดิม ทั้งในเชิงธุรกิจ ภาพลักษณ์องค์กร และความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
คุณแซม-ไพศาล อ่าวสถาพร
“ขณะที่เป้าหมายการเติบโตในแง่ Top Line เราสามารถสร้างการเติบโตได้แบบเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา แต่ในแง่ Bottom Line มองว่ายังเป็นเรื่องที่ยากและมีความท้าทายอยู่ เพราะปัจจัยภายนอกเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุม เช่น อยู่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาก็ประกาศขึ้นภาษีประเทศไทย ทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบ ซึ่งธุรกิจอาหารก็ได้รับผลระทบ บริษัทต้องมองหาวัตถุดิบในประเทศมากขึ้นเพื่อมาทดแทน เหล่านี้ทำให้มองว่าคืออุปสรรคในการเติบโตโดยรวม” คุณไพศาล อ่าวสถาพร กล่าว
นอกจากนี้ยังเดินหน้าสู่ยุคใหม่แห่งความยั่งยืนด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายสาขาแบรนด์ในเครือทั้งสิ้น 888 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีสาสทั้งสิ้น 847 สาขา ได้แก่ เคเอฟซี 500 สาขา เครือโออิชิ 284 สาขา และภายใต้ FOA อีก 63 สาขา โดยจะขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 4 เสาหลัก ได้แก่ ขยายสาขา: เพิ่มจุดให้บริการในพื้นที่ใหม่ ๆ และพัฒนารูปแบบร้านให้หลากหลาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ,ยกระดับประสบการณ์: สร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย ,เสริมศักยภาพ: พัฒนาศักยภาพพนักงานและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน และมุ่งมั่นเพื่อความยั่งยืน: ลดปริมาณขยะอาหารและมีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม
เปิด 3 แบรนด์ใหม่ ที่สะท้อนแนวคิดของกลุ่ม FOODS GROUP สู่การสร้างแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์
ไม่เพียงเท่านี้แต่ “คุณแซม” ยังเดินหน้าสานต่อ แนวคิดของกลุ่ม FOODS GROUP คือ การเปิดร้านอาหารภายใต้โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “วัน แบงค็อก” ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 400 ล้านบาท เพื่อเป็นโชว์เคสรวมแบรนด์ร้านอาหารในเครือไว้ในที่เดียว มากถึง 15 แบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์ “1 ร้าน 1 แบรนด์” ไม่แข่งกันเอง แต่เสริมกันครบพอร์ต ไม่ว่าจะเป็น Hou Yuu ,Sakae ,Shabushi ICHITEN ,OISHI Biztoro ,KFC บ้านสุริยาศัย หม่าน ฟู่ หยวน , Vantage Point เป็นต้น
ไฮไลต์สำคัญของโปรเจกต์นี้ การเปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ภายใต้การบริหารของ FOA ประกอบไปด้วย
- ช้าง แคนวาส ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท สู่ Iconic Social Brewhouse แห่งแรกของไทย ที่ผสานเบียร์คราฟต์ระดับพรีเมียมกับบรรยากาศแห่งการพบปะและความคิดสร้างสรรค์ มีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม (เบียร์) ในร้าน การออกแบบพื้นที่สไตล์โมเดิร์น และประสบการณ์แบบ Multi-sensory ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป
- สโมสร ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ที่ตีความรสชาติและบรรยากาศแบบไทย ๆ ให้ทันสมัย พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ใหม่แก่กลุ่มลูกค้าเมือง และผู้บริโภครุ่นใหม่ที่มองหาไลฟ์สไตล์ในแบบ Modern Thai Society
- เลิศเหลา ร้านเกาเหลาหม้อไฟระดับพรีเมียม ที่โดดเด่นทั้งในด้านวัตถุดิบ รสชาติ และน้ำซุปสูตรเฉพาะจากสมุนไพร 26 ชนิด เป็นแบรนด์ที่เน้นรสชาติ “ถึงเครื่อง ถึงใจ” ตอบโจทย์คนรักเนื้อ และผู้ที่ชื่นชอบอาหารแนว comfort food แบบมีคลาส
“ร้านอาหารที่เราเปิดใน วัน แบงค็อก ไม่ได้เป็นเพียงแค่การขยายจุดให้บริการ แต่คือการนำเสนอภาพรวมของพลังแบรนด์ในกลุ่มธุรกิจอาหารของไทยเบฟ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่ Street food ไปจนถึง fine dining ซึ่งเราตั้งใจให้ที่นี่เป็นเสมือนโชว์เคสที่สะท้อนความพร้อมของกลุ่มฯ ทั้งด้านคุณภาพสินค้า บริการ ประสบการณ์ที่แตกต่าง และศักยภาพในการแข่งขันในตลาดระดับบน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงที่ดี ระหว่างแบรนด์ของเรา กับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาไลฟ์สไตล์ที่มีความหมาย”
ปั้น“โออิชิ” ทวงบัลลังค์ร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในไทย
หนึ่งในภารกิจที่ “คุณแซม” บอกว่าต้องเร่งปรับนั่นคือ การสร้างแบรนด์ “โออิชิ” ซึ่งถือเป็นแบรนด์หลักในพอร์ตมาก่อนหน้า แต่จากการแข่งขันที่สูงบวกกับปัจจัยหลายๆอย่างทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมแบรนด์ดร็อปลงไปบ้าง แต่หลังจากมีการปรับภาพลักษณ์ เติมวัตถุดิบคุณภาพ พร้อมทำการตลาดมากขึ้น ทำให้ “โออิชิ” บางสาขาเริ่มมีการต่อคิวให้เห็นแล้วในปัจจุบัน
“คนเราติดแกลมเยอะขึ้น แน่นอนร้านอาหารก็ติดแกลมด้วยเช่นกัน ดังนั้นนอกจากเรื่องคุณภาพ ความคุ้มค่าแล้ว เราก็ต้องปรับเมนูให้มีความติดแกลมมากขึ้น น่าสนใจมากขึ้น เข้ามาดึงดูดลูกค้าด้วย” คุณแซมกล่าว
ในส่วนของ KFC ซึ่งถือเป็นแบรนด์หลักในการสร้างรายได้เตรียมเปิด 2-3 แบรนด์ใหม่ เติมพอร์ตอาหารไทยเบฟก็จะมีการขยายสาขาราว 35-40 แห่ง นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครืออีก 2-3 แบรนด์ โดยจะเน้นเจาะตลาดแมสแต่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นสินค้าคุณภาพ และ product luxury ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ที่ติดแกลม และมีรสนิยม ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขึ้น
“เราเผลอหลับไปแปปนึง แต่วันนี้เรากลับมารันต่อแล้ว และเราจะเดินหน้าสร้างธุรกิจร้านอาหารในเครือให้เติบโตระยะยาวต่อไป” คุณแซมกล่าวทิ้งท้าย