HomeBrand Move !!จับตา Gen Z เปลี่ยนโฉมการดื่มกาแฟ เมื่อคนรุ่นใหม่ชอบ “เย็น-หวาน-ใส่ครีม”

จับตา Gen Z เปลี่ยนโฉมการดื่มกาแฟ เมื่อคนรุ่นใหม่ชอบ “เย็น-หวาน-ใส่ครีม”

แชร์ :

การบริโภคกาแฟอาจมาถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อมีการพบเทรนด์ใหม่นี้กระจายในหมู่ Gen Z ของสหรัฐอเมริกา ที่พบว่า พวกเขาหันมาดื่มกาแฟใส่ครีมกันมากขึ้น ที่สำคัญ ยังต้องเป็นกาแฟเย็น และมีรสชาติหวานด้วย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการยืนยันจาก Circana บริษัทด้านการวิจัยตลาดในสหรัฐอเมริกาที่ระบุว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันซื้อกาแฟและครีมเทียมพร้อมกันมากขึ้น โดยคิดเป็น 60% ของการซื้อ ขณะที่การซื้อนมกับซีเรียลพร้อมกันนั้นอยู่ที่ 40%

ด้าน Nestle เรียกพฤติกรรมใหม่นี้ว่า The Fourth Wave of Coffee พร้อมอธิบายว่า มันประกอบด้วย 4C นั่นคือ Cold, Convenient, Craft และ Customizable ซึ่งสำหรับ Gen Z หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น ตัว C สองตัวสุดท้ายอย่าง Craft และ Customizable มีความสำคัญมาก เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการให้กาแฟของตนเอง “ปรับแต่งได้” รวมถึงอยากได้กาแฟแบบที่ไม่ซ้ำใคร (เฉพาะบุคคล) นั่นเอง

Nestle บอกด้วยว่า เทรนด์ดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากยุคโควิด เมื่อคนถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถออกมาซื้อหาเครื่องดื่มที่คุ้นเคยได้เหมือนในอดีต หลายคนจึงพยายามทดลองเป็นบาริสต้าที่บ้าน เพื่อให้ได้ดื่มกาแฟในรสชาติที่ไม่ต่างจากซื้อที่ร้าน บ้างก็ทดลองทำกาแฟสูตรใหม่ ๆ ออกมา (แถม Gen Z บางคนก็นำกาแฟที่ตนเองคิดค้นมาให้คนรุ่นพ่อแม่ได้ทดลองชิมด้วย)

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สะท้อนออกมากลับไม่ใช่การชงกาแฟดื่มเอง เพราะข้อมูลจาก The National Coffee Association ของสหรัฐอเมริกาที่พบว่า เซกเมนต์ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของกาแฟ ก็คือกลุ่ม Instant Coffee ที่เติบโตมากถึง 31% ในปี 2023 และเป็นตลาดที่ถูกมองว่า จะมีการเติบโตเร็วที่สุดในอีก 3 ปีข้างหน้าด้วย

ขอบคุณภาพจาก Nestle

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ Nestle สหรัฐอเมริกา ลงทุนเปิดโรงงานผลิตครีมเทียม สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Nestle ซึ่งรวมถึงแบรนด์ Coffee mate, Coffee mate natural bliss และ Starbucks มูลค่า 675 ล้านเหรียญสหรัฐในเมือง Glendale รัฐอริโซน่า เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่ในทศวรรษหน้ากันเลย โดยความพิเศษของโรงงานดังกล่าวก็คือ ต้องมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะใส่นวัตกรรมลงในผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความแปลกใหม่ได้ด้วยนั่นเอง (ซึ่งตัวอย่างอาจเห็นได้จากความสามารถในการเปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติพิเศษ เช่น กาแฟเย็นจากไทย, กาแฟลาเวนเดอร์ ฯลฯ เป็นต้น)

การดื่มกาแฟของ Gen Z มีทางเลือกมากขึ้น?

ตลาด Instant Coffee ที่เติบโต และพยายามเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ Gen Z อาจไม่ใช่บทสรุปเดียวของพฤติกรรมการดื่มกาแฟที่เปลี่ยนไป เพราะในมุมของธุรกิจอื่น ๆ  ก็มีการปรับตัวเพื่อรองรับพฤติกรรมของ Gen Z ด้วยเช่นกัน เช่น ร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจฟาสต์ฟู้ด โดยมีรายงานจาก Technomic บริษัทวิจัยข้อมูลในสหรัฐอเมริกาว่า สิ่งที่ผู้บริโภคกังวลสูงสุดก็คือ ราคาที่สูงขึ้น (80%)

นอกจากนี้ การซื้อกาแฟจากร้านสะดวกซื้อ หรือเชนฟาสต์ฟู้ดก็มีอินไซต์อื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น การพบว่า Gen Z เริ่มดื่มกาแฟที่อายุ 14.7 ปี ส่วนถ้าเป็น Millennial เริ่มดื่มกาแฟเมื่ออายุ 17 ปี โดย 33% ของ Gen Z และ Millennial ดื่มกาแฟในตอนเที่ยงและบ่าย และ 63% คาดหวังว่า กาแฟที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อต้องสามารถปรับแต่งเมนูได้ตามที่พวกเขาต้องการ

ซึ่งจากข้อมูลเหล่านี้ ทางร้านค้าสามารถออกแบบเมนูให้สามารถดึงดูดกลุ่ม Gen Z ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟได้เพิ่มเติม เช่น การออกแบบป้ายที่ชัดเจนว่ามีเมนูอะไรบ้าง, การที่พนักงานมีความเข้าใจเมนูยอดฮิตของ Gen Z อย่างลาเต้, คาปูชิโน, เอสเพรสโซ ฯลฯ ตลอดจนการเพิ่มบัตรสะสมแต้ม, การสั่งกาแฟได้ผ่านแอป – บริการเดลิเวอรี่ และที่สำคัญ การมีไซรัปเอาไว้ให้พวกเขาได้เพิ่มความหวานตามต้องการนั่นเอง

Source

Source

Source

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like