HomeBrand Move !!เปิดใจทายาท รุ่น 3 “จอลลี่แบร์” SME แบรนด์ดังในเซเว่นฯ กับ 3 กลยุทธ์  สร้างยอดขายสุดปัง

เปิดใจทายาท รุ่น 3 “จอลลี่แบร์” SME แบรนด์ดังในเซเว่นฯ กับ 3 กลยุทธ์  สร้างยอดขายสุดปัง

แชร์ :

ถ้าพูดถึงของเด็ดของของดังใน “เซเว่น อีเลฟเว่น” คงมีสินค้าให้นึกถึงหลายประเภทจนแทบจำไม่หมด แต่หากพูดขนมบเคี้ยวยอดฮิตแล้วเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง “จอลลี่แบร์” เยลลี่รูปหมีในใจผู้บริโภค คน ที่หากมองเผินๆ ด้วยรูปลักษณ์ ชื่อแบรนด์ ประเภทของสินค้า หลายคนคงคิดว่าเป็นแบรนด์ต่างชาติที่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างแน่นอน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

หากแต่แท้จริงแล้วเจ้าเยลลี่รูปหมียอดนิยมรายนี้ ถือเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวสัญชาติไทย  ที่ถือหุ้นและบริหารโดยคนไทย 100%  แถมยังมีชื่อเสียงโลดแล่นในตลาดมานานกว่า 50 ปี ผลิตโดย บริษัท พงษ์จิตต์ จำกัด ที่มีจุดเริ่มต้นจากการผลิตลูกอมแบบแข็ง แต่ด้วยสภาพตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้ทายาทรุ่นที่ 2 ที่มารับช่วงต่อต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต โดยหันมาผลิตเยลลี่รูปหมีแทน

คุณนิค-พลากร เชาวน์ประดิษฐ์ เจ้าของแบรนด์ “จอลลี่แบร์” ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าถึงเส้นทางความสำเร็จของแบรนด์ว่า ต้องยอมรับว่า ในยุคนั้นคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักเยลลี่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ เลยตัดสินใจทำการตลาดผ่านสื่อโฆษณาในช่องทางหลักอย่าง ทีวี หนังสือ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนสินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แม้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทจะไม่ได้สร้างแบรนด์อย่างจริงจังเหมือนเดิม แต่แบรนด์ก็ยังคงสามารถขายสินค้าได้ด้วยตัวของแบรนด์เอง

กระทั่งเมื่อช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา มีผู้เล่นรายอื่นเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากต่างประเทศ บริษัทจึงต้องมุ่งสร้างแบรนด์อย่างจริงจังอีกครั้ง เนื่องจากแบรนด์ “จอลลี่แบร์” อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนาน ผู้บริโภคที่เป็น Gen ใหม่ๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ได้ อีกทั้งรูปแบบการทำการตลาดแบบเดิมๆ ผ่านช่องทางหลักอาจไม่ตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่ใช้เวลาในโลกโซเซียลมากขึ้น

 

คุณนิค ยังบอกอีกว่า การยืนหยัดในตลาดที่มีผู้เล่นจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เพราะแบรนด์ที่ดีจะช่วยสร้างความความเชื่อมั่น เชื่อใจ และน่าเชื่อถือให้กับองค์กรและสินค้า ซึ่งการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งได้นั้นจะต้องอาศัย 3 ข้อหลักๆ คือ

  1. ต้องหาจุดแข็งของสินค้าให้เจอ สำหรับจอลลี่แบร์ก็คือ ความคุ้มค่า มีประโยชน์ มุ่งเน้นความปลอดภัย 
  2. สร้างมาตรฐานให้กับสินค้า สินค้าต้องได้มาตรฐานสากลในทุกด้าน
  3. เดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน อย่างในช่วงหนึ่ง จอลลี่แบร์ได้จับมือแบรนด์รองเท้ากีโต้ เพื่อทำรองเท้าของจอลลี่แบร์ออกมา

ขณะที่การทำตลาดจะเน้นสร้างแบรนด์ทั้ง Offline-Online แต่จะเน้นที่ Online เป็นหลัก โดยการใช้ Influencer ทำการตลาดผ่านโซเซียลมีเดียต่างๆ ทั้ง YouTube, Facebook ,TikTok, Instagram ในการรีวิวสินค้าช่วยสร้างกระแสก่อให้เกิดการบอกต่อ ทำให้เกิดการมองหาสินค้า ตัวสินค้าเองก็ต้องได้มาตรฐาน เดินหน้าพัฒนาสินค้าให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ ทั้งรสชาติใหม่ แพ็กเก็จจิ้งใหม่ หรือหาพันธมิตรในการออกสินค้าใหม่ร่วมกันก็ได้

“ในปี 2566 บริษัทมียอดขายสูงถึง 300 ล้านบาท อยากให้ SME จำไว้ว่า เมื่อไหร่ที่หยุดสร้างแบรนด์ก็จะมีปัญหาเมื่อนั้น เพราะคู่แข่งพร้อมที่จะมาแซงเราอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น แบรนด์ จึงเป็นหัวใจหลักที่เราต้องรักษาและทำให้ดี”

แน่นอนหากจะกล่าวถึงความสำเร็จที่ถ่ายทอดผ่าน Online โดยเฉพาะในมุมของ Influencer ในยุคปัจจุบันนั้น  ชื่อของ “คุณเมย์-พรพรรณ เรืองปัญญาธรรม” Influencer ชื่อดังจากช่องยูทูป “MayyR” (เมอา) คงผุดขึ้นในใจ สาวๆ ที่รักสวยรักงามหลายคน เพราะช่องเกิดและโตมาจากการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ก่อนที่จะผันมาเป็นช่องท่องเที่ยว และหันมาทำร้านคาเฟ่เพิ่ม แต่ไม่ว่า เมย์ จะเปลี่ยนไปทำช่องในรูปแบบไหน หรือทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

 

MayyR

คุณเมย์-พรพรรณ เรืองปัญญาธรรม” Influencer ชื่อดังจากช่องยูทูป “MayyR” (เมอา)

 

“การสร้างตัวตนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตัวตนที่ดีจะช่วยสร้างการจดจำที่ดี โดยเฉพาะการสร้างผ่านสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ ที่สามารถใช้ได้ทั้ง “ตัวสินค้าหรือตัวบุคคล” เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย” 

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :