HomeReal Estate & Condo‘พฤกษา’ ปรับพอร์ตอสังหาฯ ลดบ้านต่ำ 3 ล้าน หนีกำลังซื้อหดตัว รีแบรนด์โรงพยาบาล ‘วิมุต เทพธารินทร์’

‘พฤกษา’ ปรับพอร์ตอสังหาฯ ลดบ้านต่ำ 3 ล้าน หนีกำลังซื้อหดตัว รีแบรนด์โรงพยาบาล ‘วิมุต เทพธารินทร์’

แชร์ :

คุณปิยะ ประยงค์ – นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ – คุณอุเทน โลหชิตพิทักษ์

จากแนวโน้มกำลังซื้อที่อยู่อาศัยระดับล่าง ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโควิดถึงปัจจุบัน สอดคล้องกับข้อมูลของเครดิตบูโรที่พบว่า “หนี้เสีย” จากสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้น ผู้ซื้อระดับล่างเริ่มผ่อนบ้านไม่ไหวจากปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น โดย 60-70% ของหนี้ที่กำลังจะเสียของสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท มีปัญหามาจากคนที่ผ่อนบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เช่นเดียวกับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่เจอกับความท้าทาย จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลคอนโดราคาต่ำ 3 ล้านบาท ที่จับตลาดแมส มียอดปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) สูงกว่า 50%

คุณอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแผนธุรกิจที่อยู่อาศัยปีนี้ ยังคงปรับลดพอร์ตโฟลิโอสินค้าที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อเนื่อง จากปี 2562 ที่มีสัดส่วนราว 70% ปี 2567 จะลดให้เหลือ 40% เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อปัจจุบันมากขึ้น โดยจะเพิ่มสัดส่วนเซกเมนต์กลาง-บน ราคา 3 – 15 ล้านบาท ให้สูงขึ้นมากกว่า 60%

โดยสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับสินค้าที่อยู่อาศัยของพฤกษา คือ ต่ำกว่า 3 ล้านบาท สัดส่วน 30% ราคา 3-7 ล้านบาท สัดส่วน 40% และราคาเกิน 10 ล้านบาท สัดส่วน 30%

ปี 67 เปิดใหม่ 30 โครงการ

คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปี 2567 ธุรกิจที่อยู่อาศัยตั้งเป้ายอดขาย 27,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอน 25,500 ล้านบาท โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 10 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ รวมมูลค่า 29,000 ล้านบาท

วางกลยุทธ์สร้าง Champion Brand ในแต่ละเซกเมนต์ คือแบรนด์เดอะคอนเนค กลุ่มทาวน์เฮ้าส์, เดอะปาล์ม กลุ่มบ้านเดี่ยว และ แชปเตอร์ กลุ่มคอนโด รวมทั้งสร้างจุดยืนที่ชัดเจนเพื่อปรับระดับโครงการของพฤกษาในอนาคตให้มีมุลค่าสูงขึ้น ด้วยการเพิ่มสินค้าเซกเมนต์ระดับกลาง – สูง

พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนด์ เดอะปาล์ม สู่ราคามากกว่า 30 ล้านบาท โดยมีความร่วมมือ (Synergy) จากธุรกิจเฮลท์แคร์ในเครือ คือ โรงพยาบาลวิมุต ร่วมกันสร้างบ้านที่เน้นสุขภาพที่ดีหรือ Wellness Residence สร้างสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์

รีแบรนด์โรงพยาบาล ‘วิมุต เทพธารินทร์’

ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต จำกัด กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน, โรงพยาบาลเทพธารินทร์ พระราม4 นอกจากนี้ยังร่วมกับ Chersery Home บริหารโรงพยาบาลผู้สูงอายุและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู

ปี 2566 กลุ่มวิมุตมีรายได้รวม 1,820 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีก่อน มีจำนวนผู้ป่วย Non-COVID ที่มาใช้บริการที่โรงพยาบาลวิมุตเพิ่มขึ้น 49% รายได้ที่เติบโตมาจากการให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคซับซ้อน การผ่าตัดศัลยกรรมด้านต่างๆ นอกจากนี้มีลูกค้าองค์กรใช้บริการตรวจสุขภาพพนักงานเพิ่มขึ้น

พร้อมกับขยายบริการไปยังกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย

สำหรับปี 2567 กลุ่มวิมุตมีแผนรีแบรนด์โรงพยาบาลเทพธารินทร์ ให้เป็น “โรงพยาบาลวิมุต เทพธารินทร์” พร้อมเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายนนี้ โดยยังคงความเชี่ยวชาญด้านโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งในแบรนด์ “วิมุต” ในกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์

การลงทุนใหม่ๆ ในกลุ่มเฮลท์แคร์ปีนี้ วางงบประมาณ 3,500 ล้านบาท เช่น การลงทุน เข้าถือหุ้น 25% ในบริษัท เค.พี.เอ็น ซีเนียร์ ฮอสปิตัล กรุ๊ป เตรียมขยายการบริการเนอร์สซิ่งโฮมของกลุ่มวิมุตในย่านบางนา แบริ่ง และวัชรพล ซึ่งมีจำนวนรวม 240 เตียง ตั้งเป้าขยายการบริหารเนิร์สซิงโฮมอีก 5 แห่ง จำนวน 600 เตียงภายใน 3 ปี เตรียมเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ ขยายเตียงที่โรงพยาบาลวิมุตเป็น 150 เตียง การดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลวิมุต แห่งใหม่ บริเวณถนนสุขุมวิทและย่านฝั่งธนฯ อย่างต่อเนื่อง

ปี 2567 กลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ วางเป้าหมายรายได้ปีนี้ 2,300 ล้านบาท

เร่งสร้างสัดส่วนรายได้ประจำ 25% ใน 3 ปี

นอกจากการขยายธุรกิจเฮลท์แคร์ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้องค์กรแล้ว ปีที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ซินเนอร์จี โกรท จำกัด ในเครือพฤกษา ตั้งเป้าโต 5 เท่า ในปี 2567 และหวังสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทใน 3 ปี

ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแอปพลิเคชัน MyHaus เพื่อเป็นศูนย์กลางดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน และอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านและนิติบุคคล แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Clickzy.com (คลิกซิ) รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ให้เลือกช้อปสินค้าที่เกี่ยวกับบ้าน บริการตกแต่งภายในจาก Zdecor และสินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโลจิสติกส์ และอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพ โดยร่วมมือกับองค์กรในสิงคโปร์และไต้หวัน จัดตั้งกองทุน “CapitaLand SEA Logistics Fund” มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 25,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการคลังจัดเก็บและกระจายสินค้าให้บริการครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการลงทุนในกองทุน CapitalLand Wellness Fund ( C-Well) มูลค่าทรัพย์สินเป้าหมาย 72,500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นด้านการดูแลสุขภาพ

ปัจจุบัน พฤกษา มีรายได้จากธุรกิจกลุ่มรายได้ประจำ (Recurring Income) สัดส่วน 9% ภายใน 3 ปี จะเพิ่มให้เป็น 25%

โดยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มรวม 28,000 ล้านบาท เติบโต 8%

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

อ่านเพิ่มเติม


แชร์ :

You may also like