HomeBrand Move !!ครั้งแรกในรอบ 50 ปี “แมคโดนัลด์” ยกเครื่องใหญ่ ปรับสูตรเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ ผ่านแคมเปญ Next Gen Burger ย้ำผู้นำเบอร์เกอร์ตัวจริง

ครั้งแรกในรอบ 50 ปี “แมคโดนัลด์” ยกเครื่องใหญ่ ปรับสูตรเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ ผ่านแคมเปญ Next Gen Burger ย้ำผู้นำเบอร์เกอร์ตัวจริง

แชร์ :

Next Gen Burger

ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าตลาดเบอร์เกอร์ที่ครองใจผู้บริโภคเกือบทั่วทุกมุมโลก สำหรับ “แมคโดนัลด์”  ที่ขยันสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ตลาดมากมาย ตั้งแต่เมนูใหม่ๆ สินค้าและบริการ ไปจนถึงกิมมิกเก๋ๆที่มีมาให้เห็นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุด แม็คโดนัลด์ (McDonald’s) ก็สร้างปรากฏการณ์ย้ำเจ้าตลาดเบอร์เกอร์อีกครั้ง ด้วยการประกาศปรับสูตรและกรรมวิธีการทำเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ทั้งหมด พร้อมปล่อยแคมเปญ Next Gen Burger ออกมาสร้างการรับรู้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในการปรับเปลี่ยนสูตรการทำเบอร์เกอร์ของแบรนด์ นับตั้งแต่ที่มีการทำตลาดอย่างจริงจัง หรือกว่า 50 ปีที่ผ่านมา

คุณพัชนีวรรณ ตันประวัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด ระบุว่า  การปรับเปลี่ยนกรรมวิธีการทำเบอร์เกอร์ “Next Gen Burger”  เป็นนโยบายของบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มทยอยปรับสูตรเมนูเบอร์เกอร์ทั่วโลก โดยเริ่มเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และยุโรป  เมื่อราว 4-5 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะทยอยปรับเปลี่ยนในเอเชียเป็นประเทศแรกที่เกาหลีใต้ ในปี 2020 โดยภูมิภาคอาเซียนได้ปรับเปลี่ยนเมนูเปลี่ยนวิธีการทำเบอร์เกอร์ครั้งแรกเมื่อต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ทั้งไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย

“การปรับเปลี่ยนเมนูของเรา ขึ้นอยู่กับความพร้อมในแต่ละประเทศ และเราต้องการเปิดตัวในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงปลายปีที่คนจะออกมาเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นจังหวะและเวลาที่ดีในการสร้างการรับรู้ไปในตัว และการปรับสูตรเมนูเบอร์เกอร์เป็นการปรับสูตรครั้งแรกตั้งแต่เราทำตลาดมา หรือกว่า 50 ปีที่แมคโดนัลด์ขยายไปทั่วโลก”

 

คุณพัชนีวรรณ ตันประวัติ

คุณพัชนีวรรณ ตันประวัติ (คนกลาง)

 

ปรับสูตรใหม่ ใน 5 องค์ประกอบหลักที่เพิ่มความ “Hotter, Juicier, Tastie” กว่าที่เคย

“Next Gen Burger” เป็นการพัฒนาแคมเปญที่เกิดขึ้นจากการทำความเข้าใจลูกค้าในทุก Generation ที่มีความแตกต่างกัน และมีการเปลี่ยนแปลงความต้องการตลอดเวลา ถือเป็นตัวแปรสำคัญต่อการพัฒนาเมนูและกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้นของตลาดเบอร์เกอร์ในประเทศไทย ทำให้บริษัทต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเมนูและบริการอยู่ตลอด เพื่อรองรับความต้องการ

นั่นจึงเป็นที่มาของการเปิดตัว แคมเปญ “Next Gen Burger” ประสบการณ์เบอร์เกอร์ที่ดีที่สุด ภายใต้แนวคิด “Many small changes make one big difference” เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยครั้งใหม่ของ ‘Next Gen Burger’ กับการปรับสูตร และกรรมวิธีการทำเบอร์เกอร์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี เพื่อให้ “เบอร์เกอร์ทุกชิ้นอร่อยกว่าที่เคย – Hotter, Juicier, Tastier” มากขึ้น

 

Next Gen Burger2

 

สำหรับการปรับสูตรและกรรมวิธีการทำเบอร์เกอร์โฉมใหม่ของ “แมคโดนัลด์ – Next Gen Burger” ในครั้งนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้งบประมาณการลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ประกอบไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ 

Softer Glazed Bun : ปรับสูตรขนมปังใหม่ ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเด้งกว่าเดิม เคลือบด้านบนจนเป็นมันวาว มีสีสันสวยงาม Golden-Brown น่าทานยิ่งขึ้น เสิร์ฟร้อนๆ เพื่อประสบการณ์ความอร่อยที่ดีที่สุดของเบอร์เกอร์

Grilled Master : เนื้อ 100% นำเข้าจากออสเตรเลีย ชุ่มฉ่ำขึ้นด้วยวิธีย่างเนื้อแบบใหม่  ด้วยการเปลี่ยนวิธีกริลเนื้อให้ชุ่มฉ่ำขึ้น ด้วยการกริลเนื้อพร้อมกับหัวหอม เพิ่มความชุ่มฉ่ำ ล็อครสชาติความอร่อยเต็มรสให้กับเนื้อทุกชิ้น

Cheese Tempering : เชดด้าชีส นำเข้าจากนิวซีแลนด์ เปลี่ยนวิธีการเตรียมชีส ด้วยการนำมาพักไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 16 – 19 องศา เพื่อให้ชีสละลายในระดับที่เหมาะสม และเบอร์เกอร์ทุกชิ้นที่เสิร์ฟจะมีชีสเยิ้มๆ ละลายเข้าเนื้ออย่างลงตัว

Fresh Vegetable : เปลี่ยนขั้นตอนการเตรียมผัก โดยลดระยะเวลาการเก็บผักให้สั้นลงถึง 60% เพื่อให้ผักยังคงความสดใหม่ และมีเนื้อสัมผัสที่กรอบฉ่ำทุกคำ

Sauce : เพิ่มปริมาณของซอสบิกแมคสูตรเฉพาะของแมคโดนัลด์ ให้เพิ่มขึ้นถึง 50% เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมของซอสในทุกคำ

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันเปิดตัว “Next Gen Burger” เฉพาะ 3 เมนูเบอร์เกอร์ ได้แก่ ดับเบิ้ล ชีสเบอร์เกอร์, บิกแมค และควอเตอร์ พาวน์เดอร์ วิท ชีส โดยราคาเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 99 บาทเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 มกราคม 2567 เพื่อสร้างการรับรู้กับสูตรใหม่

 

Next Gen Burger3

เพิ่มส่วนแบ่ง QSR กับสินค้าเรือธง “เบอร์เกอร์-ไก่ทอด” ที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตลาด QSR เมืองไทย (ปี 2021) มีมูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดไก่ทอด 2.1 หมื่นล้านบาท ,พิซซ่า 8.4 พันล้านบาท และเบอร์เกอร์ 7.2 พันล้านบาท ทั้งหมดล้วนมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดย “แมคโดนัลด์” ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเบอร์ 1 ในตลาดเบอร์เกอร์ ขณะที่ในตลาดไก่ทอดเริ่มชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยตลอดช่วง มกราคม – ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา แมคโดนัลด์สามารถสร้างการเติบได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายที่มาจากกลุ่มเบอร์เกอร์ 52.6% และกลุ่มไก่ทอด  18.4% นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้แมคโดนัลด์เดินหน้าพัฒนา พร้อมปรับสูตร กรรมวิธีการทำเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ทั้งหมดในฐานะผู้นำตลาดที่ต้องสร้างความแปลกใหม่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

“ตลาดเบอร์เกอร์เติบโตสูง จากการเข้ามาของเบอร์แบบโฮมเมด หรือร้านเบอร์เกอร์เฉพาะแบบต่างๆ ทำให้จำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ลูกค้าก็มองหาสินค้าที่ตอบโจทย์คุณภาพ เราในฐานะผู้นำตลาดจึงต้องพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง แน่นอนเราไม่ได้แข่งกับใคร แต่เราแข่งกับตัวเองเพื่อสร้างสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า”

นอกจากการปรับเปลี่ยนเมนูแล้วอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักที่จะทำให้แมคโดนัลด์เติบโตในตลาด QSR คือการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ในหลากหลายโมเดลเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด 

โดยในปีนี้มีแผนขยายสาขาทั้งสิ้น 6 แห่ง โดยสาขาสุดท้ายของปี จะเปิดให้บริการที่ The Walking Street พัทยา ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ในปี 2567 มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 10 แห่งจากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น  228 แห่ง ภายใต้งบประมาณการขยายสาขาใหม่และรีโนเวตสาขาเดิมมากกว่า 500 ล้านบาทในปีหน้า

ท้ายที่สุดสิ่งที่แมคโดนัลด์คาดหวังคือ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเบอร์เกอร์ ไปจนถึงตลาด QSR เมืองไทย ขณะที่แคมเปญนี้คาดหวังว่าจะทำให้ยอดขายของเบอร์เกอร์โตขึ้นถึง 20% ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์หลักที่เน้นทำตลาดที่ฉวยโอกาสแห่งความท้าทายของ “แมคโดนัลด์” ในการสร้างการเติบโตตลอดช่วง 3 ปีนับจากนี้ (2023-2025) เพื่อทำให้แบรนด์ครองใจทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะ Gen Z มากขึ้น ด้วยกลยุทธ์-แผนงานต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าภายใต้แนวคิด “Customer First” เข้ามาเป็นส่วนสำคัญ 

 

อ่านเพิ่มเติม

แค่เบอร์เกอร์ยังไม่พอ “แมคโดนัลด์” ขอลุยต่อตลาดไก่ทอด เสริมแกร่ง Iconic Menu ใหม่มัดใจ Gen Z

ภารกิจแม่ทัพหญิงคนใหม่ ‘แมคโดนัลด์’ ดึง Iconic Menu ตอกย้ำชัดๆ เจ้าตลาด ‘เบอร์เกอร์’ ตัวจริงในไทย


แชร์ :

You may also like