หากย้อนมองสิ่งของรอบบ้านในวันนี้เทียบกับเมื่อ 20 – 30 ปีก่อน เชื่อว่าหลายคนคงตระหนักได้ดีว่ามีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงอาจเป็น “สมุดหน้าเหลือง” หนังสือเล่มใหญ่ที่มาพร้อมปกอันเป็นเอกลักษณ์ ที่หลายคนคุ้นเคยกับการเข้าไปค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของร้านค้า – ธุรกิจที่ต้องการ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีให้เราได้หยิบจับกันอีกต่อไปแล้ว
แต่สมุดหน้าเหลือง หรือ YellowPages ไม่ได้หายไปไหน แม้สื่อสิ่งพิมพ์จะไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานเพราะการสื่อดิจิทัลที่แพร่หลาย จึงทำให้ YellowPages ต้องทรานสฟอร์มตนเองจากกระดาษมาให้บริการค้นหาข้อมูลธุรกิจผ่านเว็บไซต์ www.yellowpages.co.th มากว่าสิบปีแล้ว และวันนี้ Yellow Pages ในความทรงจำของคนไทยได้ต่อยอดตัวเองไปสู่การเป็นแพลตฟอร์ม B2B2C e-Marketplace สัญชาติไทยน้องใหม่ ภายใต้แบรนด์โฉมใหม่ Yellow.co.th ที่ไม่เพียงรวบรวมสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการ SME และธุรกิจทุกขนาดเอาไว้มากมาย พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เป็นตลาดกลางให้ผู้ซื้อระดับองค์กรและระดับผู้บริโภค ให้สามารถค้นหาสินค้าและบริการ ไปจนถึง OEM ซึ่งผู้ขายสามารถเจรจาธุรกิจ นำเสนอราคา ไปจนถึงปิดดีลการขาย ชำระเงิน และส่งมอบสินค้า
เรื่องราวของ Yellow.co.th B2B2Ce-Marketplace ได้รับการเปิดเผยจาก คุณกมลกานต์ นิลตะสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) “การทรานสฟอร์มธุรกิจ SME ไปสู่ดิจิทัลมีความท้าทายมากมาย หนึ่งใน Pain Point ที่ผู้ประกอบการมักพบบ่อย ๆ ใน e-marketplace คือเรื่องของแพลตฟอร์มที่มีอยู่ไม่ตอบโจทย์การค้าขายแบบ B2B หากแต่เหมาะกับการขายให้คอนซูเมอร์มากกว่า”
คุณกมลกานต์ นิลตะสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน)
กำแพงภาษา – ดิจิทัล สองโจทย์ใหญ่ SME ไทย
“เมื่อ 7 – 8 ปีก่อน มีแพลตฟอร์ม e-Marketplace แบบ B2B เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา แต่ผู้ประกอบการไทยในตอนนั้นยังไม่มีความรู้ด้านดิจิทัล หาก SME ต้องการติดต่อแพลตฟอร์ม ก็ต้องติดต่อไปเมืองจีน ซึ่งติดต่อยากมาก” การสร้างแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทยจึงเริ่มต้นขึ้นจากจุดนั้น เมื่อเทเลอินโฟ มีเดีย ตัดสินใจแปลงร่างสมุดหนา ๆ ที่เคยส่งให้ถึงบ้านของทุกคนไปสู่ Yellow.co.th ผู้ให้บริการ e-Marketplace แบบ B2B ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง B2C ได้ในที่สุด เพิ่มความสะดวกให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเจรจาปิดดีลกันได้ง่ายขึ้น
แพลตฟอร์ม Yellow แตกต่างอย่างไร?
- Chat Commerce: ผู้ขายและผู้ซื้อเจรจาธุรกิจผ่านโมดูลแชทคอมเมิร์ซ ครบจบในที่เดียว
- RFQ Marketplace: เป็นตลาดกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ช่วยให้ปิดดีลการขายได้ง่ายขึ้น
- Product Pricing Range: มีเรทราคาในการขายส่งให้ผู้ซื้อได้พิจารณา
- RFQ Subscription: มี ฟีเจอร์การแจ้งเตือน (Notification) ส่งไปยังผู้ค้าโดยอัตโนมัติ หากมีคนสนใจสินค้า
การทำงานใกล้ชิดกับธุรกิจ SME ไทยมานานหลายสิบปี ทำให้ทีมงาน Yellow Pages สะสมอินไซต์ต่าง ๆ มากมาย และนำอินไซต์เหล่านั้นมาพัฒนาเป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทยใน Yellow.co.th
นอกจากนี้ยังมีบริการแชทกับคู่ค้า สามารถส่งภาพถ่ายสินค้า นามบัตรดิจิทัล ใบเสนอราคา ฯลฯ รวมถึงสามารถชำระเงินผ่านบริการ mPay ซึ่งเป็น Payment Gateway ของ AIS ได้โดยตรง ส่วนในด้านโลจิสติกส์ ทางแพลตฟอร์มมีบริการจัดส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ โดยเป็นการจับมือกับ Shippop และปัจจุบันสามารถขยายสู่การส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้แล้ว
3 ข้อดี “Yellow” ผ่านมุมมองผู้ประกอบการที่ใช้งานจริง
ด้านคุณณัฐณัย นิลเอก ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทรอปิคานา ออยล์ จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้ใช้แพลตฟอร์ม Yellow.co.th เผยว่า ที่ผ่านมา นอกจากจะทำน้ำมันมะพร้าวแบรนด์ทรอปิคานาเพื่อจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกแล้ว ก็มีการรับผลิตแบบ OEM ให้กับบริษัทต่าง ๆ เช่นกัน และได้ทดลองใช้แพลตฟอร์ม Yellow ซึ่งพบว่ามีความแตกต่างระหว่าง Yellow กับแพลตฟอร์มต่างชาติ 3 ประการ นั่นคือ
1. เปิดให้ผู้ประกอบการสามารถบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ได้บนแพลตฟอร์ม โดยคุณณัฐณัยได้กล่าวว่า นี่คือฟีเจอร์ที่สำคัญมาก “เวลาไปออกงานแฟร์ต่าง ๆ ก็จะเจอคู่แข่ง เจอการแข่งขันด้านราคา ซึ่งมองว่า เรามีจุดเด่นเยอะที่อยากจะบอกลูกค้า แต่ไม่มีแพลตฟอร์มให้เราใส่ข้อมูลได้เยอะขนาดนั้น จนสภาอุตสาหกรรมฯ บอกว่ามีแพลตฟอร์ม Yellow ของ AIS ที่สามารถขายผ่าน B2B ได้ และเปิดให้เราใส่ข้อมูลต่าง ๆ ลงใน Yellow ได้ ซึ่งมีประโยชน์มากเพราะลูกค้าสามารถเข้ามาศึกษาข้อมูลได้จากแพลตฟอร์ม”
2. มีทีมงานคนไทยดูแล กำแพงด้านภาษาเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ประกอบการไทย แต่การมีทีมงานคนไทยดูแลก็สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการเปิดหน้าร้านออนไลน์เร็วขึ้น “ก่อนหน้านั้นเราเคยศึกษาแพลตฟอร์ม B2B ของต่างชาติ แต่มันไม่เฟรนด์ลี่กับธุรกิจไทย ด้วยกำแพงทางภาษา หรือการตกแต่งหน้าร้านที่ต้องใช้เวลา แต่ของ Yellow มีทีมคนไทยซัพพอร์ต ทำให้การสร้างหน้าแรกได้อย่างรวดเร็ว”
3. มีทีมดูแลด้าน SEO ทำให้เสิร์ชติดหน้าแรกของกูเกิล คุณณัฐณัยกล่าวถึงข้อนี้ว่าเป็นพฤติกรรมของพ่อค้ายุคใหม่ที่มักเสิร์ชหาสินค้าจากกูเกิลแทนการไปเดินสำรวจตลาด แต่ผู้ประกอบการ SME อาจไม่มีทีมงานมาดูแลในจุดนี้ และทำให้พลาดโอกาสในการขายไป การที่แพลตฟอร์ม Yellow มีทีมงานช่วยทำ SEO ให้ และทำให้เสิร์ชเจอในหน้าแรก ๆ ของกูเกิล จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายอีกทางหนึ่งโดยที่ SME ไม่ต้องลงทุนเอง
ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจแพลตฟอร์ม Yellow สามารถดูรายละเอียดและสมัครสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ www.yellow.co.th หรือโทร 02-262-8844 หรือ อีเมล์ support@yellow.co.th
Digital Transformation หนทางสร้าง SME ไทย “แข็งแกร่ง”
คุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ธุรกิจ SME ไทยในปัจจุบันมีมากกว่า 3.18 ล้านราย และมีส่วนในการสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.2% อีกทั้งยังทำให้เกิดการจ้างงานมากถึง 12 ล้านตำแหน่ง โดย 3 หมวดหลักของธุรกิจ SME ได้แก่ ธุรกิจการค้า 33% ภาคการผลิต 13% และภาคบริการ 53%
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา มีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่าจะต้องทำอย่างไรให้ธุรกิจ SME แข็งแกร่งและเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้มากกว่านี้ ซึ่งในมุมของผู้บริหาร AIS อย่างคุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร มองว่า Digital Transformation คือตัวช่วยสำคัญ เนื่องจากจะทำให้ SME ไทยมีเครื่องมือใหม่ ๆ ช่องทางใหม่ ๆ ในการสร้างรายได้เพิ่มนั่นเอง ซึ่งที่ผ่านมา AIS SME ได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วย SME เอาไว้มากมาย
- AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร
- AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต
- AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์
- AIS SME IT & Digital Solutions โซลูชันระบบ IT หลังบ้าน
- AIS SME Full e-Services บริการ E-Service สำหรับนิติบุคคล
- AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP
- AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
แน่นอนว่า การพัฒนาเครื่องมืออย่าง Yellow ในฐานะแพลตฟอร์ม e-Marketplace ของเอไอเอสก็ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยธุรกิจ SME อีกทั้งยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอไอเอสที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทิ้งคนไทย – ธุรกิจไทย ไว้ข้างหลังด้วย
การสร้างแพลตฟอร์ม Yellow ยังเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า การทรานสฟอร์มนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่การทรานสฟอร์มนั้นจะเป็นประโยชน์มากขึ้น หากเลือกเวลาได้อย่างเหมาะสม เหมือนที่ Yellow เลือกจะเปิดตัวในฐานะ e-Marketplace อย่างเป็นทางการในเวลานี้
“ตอนนี้ทั่วโลกรวมถึงไทยมีการปรับตัวรับดิจิทัลกันอย่างคึกคัก เรามองว่า การเปิดตัว Yellow.co.th ในเวลานี้จะทำให้ Yellow เป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เพราะทุกคนคุ้นเคยกับดิจิทัลดีแล้วในช่วง Covid-19 เราเชื่อว่า Yellow จะเป็นช่องทางใหม่ที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ประกอบการไทย และช่วยผู้ประกอบการไทยให้เติบโตในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี” คุณกมลกานต์กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Yellow เปิดให้ใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยบริษัทที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ สามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มได้ในหลาย ๆ ฟีเจอร์ ยกตัวอย่างเช่น โพสต์สินค้าได้ 15 SKU ส่งใบเสนอราคาได้ 10 ครั้ง ฯลฯ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Yellow.co.th
ส่วนลูกค้า AIS SME สามารถสแกน QR Code เพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้เลย เพราะไม่ว่าเวลาไหน AIS ก็พร้อมอยู่เคียงข้างทุกธุรกิจไทย ให้เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
รายละเอียดสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก AIS -> https://m.ais.co.th/pLHw19nuZ
AIS SME เพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME
ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่ Email : business@ais.co.th
Website : https://m.ais.co.th/6yH89naF8