HomePR NewsAnyMind Group ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว [PR]

AnyMind Group ประกาศเสร็จสิ้นการเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว [PR]

แชร์ :

Left to right - Otohiko Kozutsumi, CCO and co-founder_ Kosuke Sogo, CEO and co-founder_ Rohit Sharma, COO_ Keizo Okawa,

(ซ้ายไปขวา)  ทีมผู้บริหาร Otohiko Kozutsumi, Kosuke Sogo, Rohit Sharma และ Keizo Okawa

AnyMind Group ในฐานะ End-to-end Commerce Enablement Company ประกาศความสำเร็จในการเปิดตัวเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange Growth Market) โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นจะถูกนำไปลงทุนในค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและขยายธุรกิจต่อไป

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

Kosuke Sogo ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง AnyMind Group กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้แสดงความสามารถในการดำเนินการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน เราได้ขยายตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และตลาด ตลอดจนความครอบคลุมของผลิตภัณฑ์ที่มากยิ่งขึ้นด้วย เรากำลังมองหาโอกาสที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวเพื่อให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างน่าตื่นเต้น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเดินทางครั้งใหม่ของเรา”

ปัจจุบัน AnyMind Group ได้ขยายสำนักงานเป็น 19 แห่งใน 13 ประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออก อินเดีย และตะวันออกกลาง และได้เพิ่มจำนวนพนักงานเป็นกว่า 1,300 คน สำหรับประวัติความเป็นมาของบริษัทพบว่า AnyMind Group เริ่มดำเนินการในนาม AdAsia Holdings โดย Kosuke Sogo และ Otohiko Kozutsumi ในประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2559

ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 บริษัทได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนการจดทะเบียนต่อสาธารณะ AnyMind Group ได้รับเงินทุน 91,700,000 ดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนซึ่งรวมถึง JAFCO Asia, LINE, Mirai Creation Fund, VGI, Japan Post Capital, JIC Venture Growth Investments, Nomura SPARX, Mitsubishi UFJ Capital และอื่น ๆ

บริษัทเริ่มต้นด้วยการมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการตลาดและจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการโฆษณา จากนั้นบริษัทจึงได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์และแพลตฟอร์มการสร้างรายได้จากผู้เผยแพร่โฆษณา ก่อนจะรีแบรนด์เป็น AnyMind Group ในเดือนมกราคม พ.ศ.2561 และในปี พ.ศ.2563 บริษัทได้เปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการการผลิต การจัดการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การจัดการโลจิสติกส์ และการสนทนาเพื่อธุรกิจร่วมด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังทำการควบรวมและซื้อกิจการอีก 7 แห่ง ได้แก่

  • ธุรกิจเกี่ยวกับผู้เผยแพร่โฆษณาอย่าง FourM (ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2560),
  • Acqua Media (ตั้งอยู่ที่ฮ่องกงและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2561)
  • ธุรกิจเกี่ยวกับเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์อย่าง Moindy (ตั้งอยู่ที่ประเทศไทยและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2562)
  • GROVE (ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2562)
  • บริษัทโฆษณาบนมือถือ POKKT Mobile Ads (ตั้งอยู่ที่ประเทศอินเดียและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2563)
  • แบรนด์เสื้อผ้าออกกำลังกายที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง LÝFT (ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและ เข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2563)
  • บริษัทการตลาดข้ามพรมแดน ENGAWA (ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและเข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ.2564)

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องและขยายมูลค่าไปสู่ลูกค้า โดยเติบโตจากพื้นที่ทางการตลาดมาเป็นการบริการแบบ End-to-end สำหรับการค้าดิจิทัล บริษัทให้บริการลูกค้าจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งรวมถึงแบรนด์และผู้ประกอบธุรกิจกว่า 1,000 ราย ผู้เผยแพร่โฆษณาบนเว็บและแอพมือถือกว่า 1,300 ราย และผู้สร้างสรรค์เนื้อหาและอินฟลูเอนเซอร์ทางโซเชียลมีเดียกว่า 1,300 ราย

ในส่วนของผลประกอบการบริษัทพบว่า

  • อัตราการเติบโตต่อปี 54% ตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 – พ.ศ.2565
  • ประวัติการเติบโตของรายได้ ปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2565 มีรายได้ 24,790 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจาก 19,252 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2564 และมีประมาณการ 32,744 ล้านเยนในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2566 *มีการปรับการรับรู้รายได้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สำหรับลูกค้าครีเอเตอร์บางรายใน Partner Growth จากการบันทึกยอดขายรวมเป็นรายได้ ไปจนถึงการบันทึกยอดขายสุทธิเป็นรายได้
  • กำไรขั้นต้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2565 มีกำไรขั้นต้น 9,291 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจาก 6,272 ล้านเยน
  • สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2564 และมีประมาณการ 12,090 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2566
  • ปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2565 มีผลกำไรจากการดำเนินงาน 30 ล้านเยน ปรับปรุงจากผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 213 ล้านเยนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2564 และมีการคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงาน 309 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2566

EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วเป็นบวก ที่ 1,005 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2565 ดีขึ้นจาก 554 ล้านเยนสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2564


แชร์ :

You may also like