ความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีส่งผลต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบัน รวมถึงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั่วโลก และหากเจาะลึกไปถึงอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังวิกฤตโควิด-19 อย่าง “อุตสาหกรรมการการท่องเที่ยว” ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินอย่างมหาศาลและมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก จะเห็นได้ว่า แต่ละประเทศต่างมีการเตรียมพร้อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในการท่องเที่ยวให้กับประเทศของตนเองกันถ้วนหน้า
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยนิตยสารธุรกิจและท่องเที่ยว Business Traveller จัดอันดับให้ “กรุงเทพมหานคร” เป็นเมืองที่น่าพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก (Best Leisure time city in Asia-Pacific) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 จากการสำรวจของ Business Traveller Asia-Pacific Awards 2022 ซึ่งสะท้อนว่าไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบ
ความท้าทายของประเทศไทยคือการยกระดับการท่องเที่ยวไปสู่โลกยุคดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขยายโอกาส และขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากข้อมูลของ AOT พบว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้ลดลงเหลือเพียง 23 ล้านคน จนกระทั่งปี 2565 ที่ไทยเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทำให้ตัวเลขกลับมาเป็น 45.6 ล้านคน
AOT ยังคาดการณ์ด้วยว่า ในปีงบประมาณ 2566 ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้โดยสารรวมทั้ง 6 ท่าอากาศยานของ AOT เพิ่มขึ้นถึง 96 ล้านคน ฟื้นตัว 68% เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนการแพร่ระบาด และคาดว่าในปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติเทียบกับก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีจำนวนผู้โดยสารถึง 142 ล้านคนต่อปีด้วย
Digitalization เพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
การปรับท่าอากาศยานให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อรองรับนักเดินทางจำนวนมากในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และการสร้างบริการด้านเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ก็สามารถเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ได้ โดยบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยก็คือ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกด้วยแนวคิด “Digitalization” กับการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “SAWASDEE by AOT” ตอกย้ำความเป็น MUST HAVE Thailand Travel App ที่ครอบคลุมความต้องการของนักท่องเที่ยว นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาผสานกับไลฟ์สไตล์ผู้คน ซึ่งจะพลิกโฉมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และยกระดับบริการด้านการท่องเที่ยวไทยให้ก้าวสู่ดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรก
การเชื่อมโยงระบบนิเวศทางเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยว (Travel Tech Ecosystem)
สำหรับแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT มีความพิเศษเพราะพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “GATEWAY TO THAILAND” เปิดประตูสู่ประเทศไทย โดยมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์นักเดินทางใน 3 ด้าน ได้แก่
1. Digital Airport Experiences ยกระดับประสบการณ์ภายในสนามบินครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ อาทิ
ฟีเจอร์ “Flight” สามารถตรวจสอบไฟล์ทบินแบบเรียลไทม์ และสามารถบันทึกไฟล์ทบินของตนเองล่วงหน้า 6 เดือน พร้อมแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาออกเดินทาง หรือจำเป็นต้องเลื่อนไฟลต์ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
ฟีเจอร์ “Queue Time” ระบบแสดงข้อมูลเวลา และคิวในสนามบินแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่จุดเช็คอิน จุดตรวจกระเป๋าเดินทางและจุดตรวจหนังสือเดินทางทำให้สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ ไม่ตกเครื่องแน่นอน
ฟีเจอร์ “Taxi Reservation” สะดวกรวดเร็วกว่ากับบริการจองรถแท็กซี่ เฉพาะผู้ใช้งานแอปพลิเคชันเท่านั้น
2. Digital Lifestyleเป็นการยกระดับบริการด้านการใช้จ่าย และสิทธิพิเศษ อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เอาใจสายท่องเที่ยวกับ“Explore” หรือ “เที่ยวไทย” ที่รวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ที่พัก เสมือนไกด์นำทางตลอดทริป นอกจากการให้บริการต่างๆ แล้ว เพื่อให้การใช้จ่ายในยุค Cashless Society ทำได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแอป เพียงชำระผ่าน “SAWASDEE Pay” ผ่านบัตรเครดิต พร้อมสะสม “AOT Point” เมื่อใช้จ่าย 25 บาทต่อ 1 AOT Point, พอยต์บัตรเครดิตหรือ CARAT จาก King Power และ PT Max Card ของปั๊มน้ำมัน PTG มาแลกเป็น AOT Point ได้เช่นกัน
ผู้ใช้งานยังสามารถนำ AOT Point มาแลก “Privilege” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม เลาจน์สายการบิน ไปจนถึงส่วนลดค่าบริการเช่ารถสูงสุดถึง 50%
3. Digital Travel Safety เป็นส่วนที่รวมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น “Tourist Help” โดยได้ร่วมมือกับตำรวจท่องเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ในประเทศ ตลอด 24 ชม. เพียงแค่กดปุ่มเดียว สามารถสื่อสารได้ถึง 6 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย ไปจนถึงฟีเจอร์ “Insurance” บริการซื้อประกันเดินทาง และประกันอุบัติเหตุในราคาพิเศษ พร้อมรับความคุ้มครองตลอดการเดินทางจากเมืองไทยประกันภัย
นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ยังรองรับได้สูงสุดถึง 8 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน และรัสเซีย พร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่จะทยอยเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ อาทิ Premium Services ให้บริการ Butler & Buggy และเทคโนโลยี AR ที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นเพื่อบริการนักท่องเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ภายในสนามบิน รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาร่วมกับพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์นักเดินทางในยุคดิจิทัล และทำให้ Travel Tech Ecosystem มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และใครอยากสัมผัสความทันสมัย – สะดวกสบายเหล่านี้ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT บนระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Play Store ได้แล้ววันนี้ที่ https://bit.ly/sawasdeebyaot_download