ทุกวันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใกล้ตัวทุกคน และนับวันสร้างผลกระทบรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศแปรปรวน หรือ ภาวะโลกร้อน ฝุ่น PM 2.5 พายุ และน้ำท่วม ส่งผลให้หลายองค์กรจากหลากหลายธุรกิจออกมาแสดงพลังรักษ์โลกผ่านกิจกรรมสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ เพื่อหวังกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงปัญหา และตื่นตัวกับการช่วยโลกลดมลภาวะสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง
หนึ่งในนั้นคือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด หรือ “โตโยต้า” กับแคมเปญ “ลดเปลี่ยนโลก” แม้ว่าแคมเปญนี้จะเพิ่งเปิดได้เพียง 3 ปี หรือเมื่อปี 2019 แต่ถือเป็นหนึ่งในแคมเปญที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะไม่เพียงกระตุกต่อมสำนึกการดูแลธรรมชาติให้เกิดขึ้นในใจคนไทย แต่ยังหยิบเอาไลฟ์สไตล์รักษ์โลกใกล้ตัวเราทุกคนมาสื่อสารจนทำให้ทุกคนลงมือทำและเห็นผลลัพธ์ได้จริง
จากโตโยต้า เมืองสีเขียว สู่ลดเปลี่ยนโลก
จากความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 โตโยต้าจึงได้ริเริ่มแนวคิด “โตโยต้า เมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” โดยเน้นการบริหารจัดการในทุกกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ มากมาย
ต่อมาในปี 2019 เพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการช่วยโลกลดมลภาวะ รวมทั้งต้องการให้ทุกคนหันมารักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โตโยต้าจึงปล่อยแคมเปญย่อยอย่าง “ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า” ออกมา โดยเป็นกิจกรรมชาเลนจ์ที่ชวนคนไทยมาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน เช่น การลดการใช้พลาสติก เป็นต้น และจากรูปแบบกิจกรรมที่แตกต่าง แถมทุกคนยังทำได้ง่ายๆ จึงทำให้แคมเปญในซีซันแรกได้รับการตอบรับที่ดีจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน โดยมีผู้เข้าร่วมทำชาเลนจ์มากกว่า 30,000 คน และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งได้ถึง 33,000 กิโลกรัม
ต่อยอดสร้างภารกิจชาเลนจ์ ดึงคนเปลี่ยนพฤติกรรมรักษ์โลกใกล้ตัว
จากความสำเร็จในซีซันแรก มาปีนี้โตโยต้าจึงเดินหน้าจัดแคมเปญ “ลดเปลี่ยนโลก กับโตโยต้า” อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดแคมเปญ ตั้งแต่ 22 เมษายน จนถึง 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้คนลงทะเบียนร่วมกิจกรรมทั้งหมด 21,656 คน และเกิด Action ลดเปลี่ยนโลกรวม 51,486 ครั้ง จากชาเลนจ์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ 4 รูปแบบ ดังนี้
1. แอ็กชันประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาลงในแต่ละเดือน 365 ครั้ง
2. แอ็กชันการพกถุงผ้าหรือถุงกระดาษไปชอปปิงที่ Tops Market ไม่รับถุงพลาสติกเพิ่ม 11,088 ครั้ง
3. แอ็กชันการเดินทาง เลือกเติมน้ำมันพลังงานทางเลือก เช่น E20, E85, B7, B10, B20 21,136 ครั้ง
4. แอ็กชันการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยกดไม่รับช้อน ส้อม หลอดพลาสติกจากร้านค้า 18,897 ครั้ง
ไม่หมดเพียงเท่านั้น ปีนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญได้แบ่งปันไอเดียเจ๋งๆ เป็นวิธีปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตประจำวันให้รักษ์โลกมากขึ้น โดยมีเหล่า Greensters หรืออินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มาร่วมกันส่งต่อแนวความคิดสังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน ผ่านวิธีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปยังทุกๆ คน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
หนึ่งในตัวแทนคนรุ่นใหม่ “คุณพิชญา มีมากบาง” ได้เล่าประสบการณ์หลังร่วมแคมเปญในครั้งนี้ว่า “ทุกวันนี้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เพราะปัญหาโลกร้อนทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมามากมาย ทั้งมลพิษ และภัยพิบัติจนระบบนิเวศถูกทำลาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากน้ำมือมนุษย์ ดังนั้น ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับโลกใบนี้ไปอีกนาน หนทางที่จะเยียวยาโลกใบนี้เอาไว้ ก็คือ การลงมือเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ เหล่านี้
แม้จะเป็นแคมเปญเล็กๆ และมีเวลาให้ร่วมสนุกกับกิจกรรมน้อยไปหน่อย แต่โตโยต้าเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนเห็นว่าการช่วยโลกเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนทำได้จริง ดังนั้น แม้แคมเปญในปีนี้ จะจบลงไปแล้ว แต่ทุกคนยังคงสามารถร่วมกันดูแลโลกให้น่าอยู่ได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้กลับมาสวยงามและสร้างสังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอนไปด้วยกัน
ติดตามกิจกรรมและข่าวสารของโตโยต้า ได้ที่ https://www.facebook.com/ToyotaCSR