ถือเป็นครั้งแรก! ที่ “สยามพิวรรธน์” เจ้าของและผู้บริหารโครงการศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมในธุรกิจ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) หรือ “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” ด้วยอัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก 5.25-5.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่าสยามพิวรรธน์มีผลประกอบการเติบโตตลอด 63 ปีในการดำเนินธุรกิจ มีฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทุกโครงการของสยามพิวรรธน์ประสบความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจและได้รับรางวัลระดับโลกจนเป็นที่ยอมรับจากพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรชั้นนำระดับนานาชาติ
“ในอดีตสยามพิวรรธน์ไม่เคยเปิดโอกาสให้นักลงทุน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจมาก่อน แต่ในวันนี้สยามพิวรรธน์ได้เดินหน้ากลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ผ่านการแบ่งปันคุณค่าร่วมกัน (Share Values) ในด้านต่าง ๆ กับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ และเพิ่มเติมในส่วนขององค์กรสู่นักลงทุน High Net Worth ให้ได้มีส่วนร่วมในธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
สำหรับการระดมทุนครั้งนี้ สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะใช้ในการชำระค่าสิทธิการเช่าที่ดินและใช้ปรับปรุงศูนย์การค้า รวมทั้งขยายธุรกิจสู่ New Economy หลายประเภท ตลอดจนการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มเชื่อมธุรกิจหลักกับการทำธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตร นอกจากนี้มีแผนขยายธุรกิจด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในอีก 1-3 ปีข้างหน้า
“สยามพิวรรธน์” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2565 เป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ โดยไม่กำหนดอายุ แต่ผู้ออกหุ้นกู้สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้เมื่อครบกำหนด 5 ปีเป็นต้นไป
– อัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกที่ 5.25-5.50% ต่อปี จากนั้นจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 5 ปี อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน
– หุ้นกู้เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ จองซื้อขั้นต่ำ 1 ล้านบาท และทวีคูณของ 1 ล้านบาท
– สยามพิวรรธน์แต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ คาดว่าจะเสนอขายในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมนี้
– อันดับเครดิตบริษัทอยู่ที่ “A-” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) ขณะที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนนี้ ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นเครดิตเรทติ้งระดับ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพความแข็งแกร่งของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำระดับโลก
ธุรกิจของ “สยามพิวรรธน์” มีบริษัทในเครือ 47 บริษัท ดำเนินธุรกิจครอบคลุม 7 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
1. ธุรกิจศูนย์การค้าอาคารสำนักงาน ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ
2. ธุรกิจห้างสรรพสินค้า ด้วยการร่วมทุนกับบริษัทในประเทศและต่างประเทศที่มีประสบการณ์ เพื่อดำเนินงานธุรกิจห้างสรรพสินค้าพารากอนในสยามพารากอน และ สยามทาคาชิมายะ ณ ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ ‘ทาคาชิมายะ’ ห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดห้างสรรพสินค้า ทาคาชิมายะแห่งแรกในประเทศไทย
3. ธุรกิจศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการ ได้แก่ รอยัล พารากอน ฮอลล์, ทรู ไอคอน ฮอลล์ ณ ไอคอนสยาม
4. ธุรกิจดิจิทัล แพลตฟอร์ม สร้างประสบการณ์ลูกค้าเชื่อมออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และการขยายตัวทางธุรกิจด้านดิจิทัล บริษัทได้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของการดำเนินธุรกิจ โดยเมื่อปลายปี 2564 ได้เปิดตัว ONESIAM SuperApp ดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด ที่เชื่อมธุรกิจออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน
5. ธุรกิจบริหารจัดการอาคาร รับดำเนินงานบริหารจัดการอาคารประเภท Mix Used Complex ทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย ดำเนินงานโดยทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการอาคาร
6. การสื่อสารการตลาด เพื่อบริหารจัดการด้านการตลาดอย่างครบวงจรให้แก่ร้านค้าและโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ
7. ธุรกิจค้าปลีก เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพของ SME ในเมืองสุขสยาม และร้านไอคอนคราฟต์ รวมถึงร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์อื่น ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการไทยรายย่อยรวมทั้งผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสให้ได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้าชั้นนำของท้องถิ่นที่ผลิตจากจากชุมชน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย และได้ขยายธุรกิจนี้ให้เป็นรูปแบบ Franchise ในต่างประเทศ เพื่อนำสินค้าไทยไปจำหน่ายให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่มุ่งสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกัน ภายใต้แนวคิด ESG ครอบคลุมทั้งผู้คน ชุมชนสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
คำเตือนการลงทุน
– หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ (Perpetual Bond) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงและซับซ้อนกว่าหุ้นกู้ปกติ โดยมีความเสี่ยงที่ระดับ 7 จากทั้งหมด 8 ระดับ
– ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น เว้นแต่ผู้ออกตราสารหนี้จะเลิกกิจการ หรือมีการไถ่ถอนตราสารหนี้คืนก่อนกำหนด
– ผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใด ๆ ก็ได้ ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้โดยไม่จำกัดระยะเวลาและจำนวนครั้งตามดุลยพินิจของผู้ออกหุ้นกู้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทน ตามที่คาดหวังและไม่มีสิทธิฟ้องร้อง
– ตราสารหนี้ด้อยสิทธิคล้ายทุนนี้ไม่มีเงื่อนไขการผิดนัดไขว้ (cross-default) ทำให้เมื่อผู้ออกตราสารหนี้ผิดนัดชำระหนี้เจ้าหนี้อื่น จะไม่ถือว่าผิดนัดชำระตราสารหนี้นี้ด้วย
– ตราสารหนี้ด้อยสิทธิคล้ายทุนนี้มีสภาพคล่องต่ำเมื่อเปลี่ยนมือในตลาดรอง ทำให้เมื่อผู้ลงทุนต้องการขาย ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถขายได้ในราคาและ/หรือเวลาที่คาดหวัง
– ในกรณีที่บริษัทผู้ออกตราสารล้มละลาย หรือเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ หรือเลิกกิจการ ผู้ลงทุน จะได้รับชำระหนี้ภายหลังเจ้าหนี้สามัญ เจ้าหนี้มีประกัน เป็นต้น