หลังมีการลงนามข้อตกลงในการเข้าซื้อธุรกิจเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ล่าสุดทาง “เฮงเค็ล” ประกาศความสำเร็จในการเข้าซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโปรเฟสชั่นแนล (Professional hair) ของบริษัท ชิเซโด้ จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียวแล้ว โดยชิเซโด้จะยังคงถือหุ้นของชิเซโด้โปรเฟสชั่นแนลในญี่ปุ่นเป็นสัดส่วน 20%
เดวิด ตัง ประธานภูมิภาค กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์สของเฮงเค็ล เอเชีย กล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโปรเฟสชั่นแนลในภูมิภาค โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและจีน ในขณะเดียวกันยังทำให้เฮงเค็ลเข้าถึงตลาดในเกาหลีใต้ และเป็นผู้นำทางการตลาดในประเทศไทยอีกด้วย”
หลังจากนี้ ทางเฮงเค็ลจะตั้งศูนย์นวัตกรรมความงามสไตล์ญี่ปุ่น (J-Beauty) ขึ้นในโตเกียว เพื่อพัฒนา สรรสร้างนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภคชาวเอเชียโดยเฉพาะ ศูนย์นวัตกรรมความงามนี้จะเป็นฐานผลิตนวัตกรรมทางสินค้าและส่วนผสมที่นำสมัย ให้กับแบรนด์ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล และชวาร์สคอฟด้วย
ข้อมูลในปีงบประมาณ 2564 ในรายงานการเข้าซื้อธุรกิจชิเซโด้มียอดขายในธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโปรเฟสชั่นแนลมากกว่า 100 ล้านยูโร (ราว 3,680 ล้านบาท) และมีพนักงานราว 500 คน ขณะที่ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโปรเฟสชั่นแนลของเฮงเค็ลเป็นผู้นำทางการตลาดในหลายเซกเมนท์ทั่วโลก และเป็น 1 ใน 3 บริษัทความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม จัดแต่งทรงผม ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม สำหรับช่างผมมืออาชีพ ภายใต้แบรนด์ ชวาร์ส คอฟ โปรเฟสชั่นแนล, โบนาเคียว, อีโกร่า รอยัล และออเทนธิค บิวตี้ คอนเซปต์ กลุ่มธุรกิจนี้มียอดขายมากกว่า 1 พันล้านยูโร (ราว 36,800 ล้านบาท) และในอนาคตจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเฮงเค็ล คอนซูเมอร์ (Henkel Consumer Business) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบหลายหมวดหมู่รูปแบบใหม่ที่เกิดหลังจากการควบรวมกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้าง ดูแลในครัวเรือน และกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์เข้าด้วยกัน โดยจะมีผลในช่วงต้นปี 2566