เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi 12 Series ย้ำกลยุทธ์ Smartphone x AIoT [PR]

Xiaomi 12 series

 เสียวหมี่ ประเทศไทย ตอกย้ำกลยุทธ์ Smartphone x AIoT ประกาศเปิดตัว Xiaomi 12 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Master every scene ในราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท นอกจากนี้ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่ด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active พร้อมด้วย หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3 ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น

คุณคามัล เหลียง ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “เสียวหมี่มุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีกลยุทธ์ ‘Smartphone x AIoT’ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของเราที่มุ่งเน้นการพัฒนาสมาร์ทโฟนควบคู่ไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์ AIoTs เพื่อสร้างการใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะอย่างครบจร โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างยิ่ง”

 ด้านคุณโจนาธาน คัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เสียวหมี่ต้องการส่งมอบนวัตกรรมทั้งบนสมาร์ทโฟนและผลิตภัณฑ์ AIoT ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย เราจึงได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Xiaomi 12 Series ที่ชูคอนเซปต์ Master every scene ทั้งนี้ ยังได้ร่วมมือกับ National Geographic เตรียมจัดแคมเปญสุดพิเศษในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีช่างภาพที่มีประสบการณ์ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและวิดีโอภายใต้หัวข้อที่น่าสนใจของแต่ละประเทศนอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังคว้านักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังอย่างคุณแสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานภายใต้โปรเจค ของ Xiaomi 12 Series ที่พร้อมจะให้ทุกท่านได้เห็นกันเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน และวันนี้เรายังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active รวมถึง หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3 อีกด้วย”

 มีอะไรใน Xiaomi 12 Series

Xiaomi 12 Pro และ Xiaomi 12 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพคุณภาพระดับสตูดิโอ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Master every scene” โดยใน Xiaomi 12 Pro มาพร้อมกล้องหลักระดับโปรความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เลนส์เทเลโฟโต 50 ล้านพิกเซล และเลนส์อัลตราไวด์ 50 ล้านพิกเซล ช่วยเก็บภาพได้ทุกรายละเอียดในทุกสภาวะแสง และยังมอบประสบการณ์ภาพและเสียงสุดเร้าใจโดยใช้หน้าจอแสดงผล WQHD+ dynamic 120HZ AMOLED พร้อมลำโพงสี่ตัวจาก SOUND BY Harman Kardon ซัพพอร์ตการใช้งานด้วยการชาร์จ 120W Xiaomi HyperCharge พร้อมระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W turbo charging

ในขณะที่ Xiaomi 12 ก็มาพร้อมกล้องหลักระดับโปร 50 ล้านพิกเซล เลนส์อัลตราไวด์และเลนส์เทเลมาโครให้คุณเก็บภาพระดับภาพยนตร์เช่นกัน หน้าจอแสดงผล AMOLED 120Hz พร้อมลำโพงคู่ SOUND BY Harman Kardon ให้ภาพเเละเสียงราวกับอยู่ในสตูดิโอ รองรับการใช้งานตลอดวันด้วยการชาร์จเร็ว 67W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย โดยสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้ระบบประมวลทรงพลังอย่าง Snapdragon® 8 Gen 1 โปรเซสเซอร์ขนาด 4nm ที่รองรับ 5G ให้คุณได้ใช้งานอย่างลื่นไหลตลอดวัน

 Xiaomi 12 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 31,990 บาท ในขณะที่ Xiaomi 12 รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 26,990 บาท และ Xiaomi 12 รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2565 พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งจองในระหว่างวันที่ 16-27 มีนาคม 2565 รับฟรี* นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 4,990 บาท

เปิดตัวสินค้า AIoT รุ่นใหม่

Xiaomi Watch S1 Series

เสียวหมี่ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่ 2 รุ่น ประกอบไปด้วย นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 และ Xiaomi Watch S1 Active ซึ่งมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ AMOLED 1.43 นิ้ว มีโหมดออกกำลังกายให้คุณเลือกมากถึง 117 โหมด สามารถเลือกลวดลายบนหน้าปัดมากกว่า 200 รูปแบบ ใช้งานได้ยาวนานถึง 12 วัน 

Xiaomi Watch S1 มาพร้อมกับการออกแบบที่แสนคลาสสิกและประณีตโดยใช้วัสดุกระจกแซฟไฟร์ กรอบแสตนเลสและสายหนังสุดหรู มีสองสีสวยให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาลและสีดำ จำหน่ายในราคา 6,490 บาท ในขณะที่ Xiaomi Watch S1 Active มีสามสีสวยให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ Moon White, Black Space และ Ocean Blue จำหน่ายในราคา 4,990 บาท นาฬิกาทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

Xiaomi Buds 3 Series

 ส่วนหูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 3T Pro และ Xiaomi Buds 3 มาพร้อมจุดเด่นในการตัดเสียงรบกวนระดับโลกแบบ Adaptive ตัดเสียงรบกวนสูงสุด 40dB และมอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม Xiaomi Buds 3T Pro มาพร้อมระบบเสียง Luxury Dynamic Driver แม่เหล็กคู่ 10 มม. เคลือบด้วยไดอะแฟรม DLC ออกแบบให้มีคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอและรองรับ LHDC 4.0 codec ช่วยให้คุณสัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นพร้อมรายละเอียดที่มากขึ้น ในขณะที่ หูฟัง Xiaomi Buds 3 ใช้ Dual-magnetic Dynamic Driver ความถี่กว้าง 3 แบนด์ให้คุณสัมผัสลึกถึงรายละเอียดของเสียง หูฟังทั้งสองถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของโครงสร้างใบหูชั้นนอกเพื่อความสบาย พอดี และสวมใส่ได้อย่างปลอดภัย มีให้เลือกสองสีได้แก่ Carbon Black และ Gloss White Xiaomi Buds 3T Pro จะวางจำหน่ายในราคา 3,999 บาท และ Xiaomi Buds 3 จะวางจำหน่ายในราคา 2,999 บาท จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป