HomeBrand Move !!ซีอีโอ Xiaomi Thailand วิเคราะห์ผู้บริโภคไทย “ชอบ Smart Living” เตรียมดันสินค้า IoT บุกตลาด

ซีอีโอ Xiaomi Thailand วิเคราะห์ผู้บริโภคไทย “ชอบ Smart Living” เตรียมดันสินค้า IoT บุกตลาด

แชร์ :

xiaomi ceo alex tang

คุณอเล็กซ์ ถัง (Alex Tang) ซีอีโอ Xiaomi Thailand

ตลาดสมาร์ทโฟนในปี 2022 อาจไม่ใช่ปีที่สวยหรูนักสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ โดยข้อมูลล่าสุดของ Canalys พบว่า ปี 2022 ที่ผ่านมา ยอด Shipment สมาร์ทโฟนระดับโลกลดลง 18% ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาหรือคิดเป็น 296.9 ล้านหน่วย ส่วนแบรนด์ที่ครองตลาดยังคงนำด้วยซัมซุง (Samsung) กับส่วนแบ่งตลาด 22% ตามมาด้วย Apple อยู่อันดับสองด้วยยอด Shipment 232.2 ล้านหน่วย และส่วนแบ่งตลาด 19% ส่วนอันดับสามเป็นของ Xiaomi ด้วยยอด Shipment 152.7 ล้านหน่วย และส่วนแบ่งตลาด 13%

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เราได้เห็นการขยับตัวที่จริงจังมากขึ้นของแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Xiaomi ในประเทศไทย ที่ล่าสุดเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่อย่างคุณอเล็กซ์ ถัง (Alex Tang) อดีต Senior Operation Director ของ Xiaomi International Business ประจำสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เคยเป็นผู้วางกลยุทธ์สำหรับ Xiaomi ให้กับประเทศต่าง ๆ มาแล้วนับสิบประเทศทั่วโลก พร้อมกลยุทธ์ใหม่ในการสร้างการเติบโตของ Xiaomi ประเทศไทยในปี 2023 นี้

น่าสนใจว่าทิศทางของ Xiaomi Thailand ในมือของนักวางกลยุทธ์ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งคุณอเล็กซ์เผยว่า ทิศทางของ Xiaomi ประเทศไทยมาจากอินไซต์ด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่พบว่า คนไทยมีความสนใจในการใช้ชีวิตแบบ Smart Living ไม่ต่างจากคนจีน โดยมีแค่บางพฤติกรรมเท่านั้นที่อาจยังไม่สามารถเทียบกันได้ เช่น การสั่งซื้อสินค้าจากออนไลน์ ที่ตอนนี้ ในจีนได้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ในกลุ่มผู้บริโภคไทย พบว่ายังเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ใช่ตลาดหลักของการซื้อขาย

จากจุดนี้ ทำให้ Xiaomi Thailand ได้วางกลยุทธ์ในการเจาะตลาดไทยในปี 2023 เอาไว้ 3 ประการนั่นคือ

  • การขยายพอร์ตโฟลิโอของโปรดักท์ในตลาดไทยให้แข็งแกร่งขึ้น ทั้งในสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนระดับบน – กลาง – เริ่มต้น และสินค้าในกลุ่ม AIoT โดยคุณอเล็กซ์มองว่า ทั้งสองตลาดมีความสำคัญในการเติบโตของ Xiaomi ประเทศไทยเท่า ๆ กัน โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม AIoT ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการ Smart Living ของคนไทย
  • เพิ่มประสบการณ์ของแบรนด์ให้ลูกค้าสัมผัสได้ใกล้ชิดขึ้น เช่น การขยายแบรนด์สโตร์ให้ครอบคลุมห้างระดับ Top-Tier ของประเทศไทย ซึ่งในจุดนี้ คุณอเล็กซ์ระบุว่า ไม่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่จะไปตามหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดทั้งในภาคเหนือ – ภาคใต้ด้วยนอกจากนั้น Xiaomi ยังมีแผนจะเพิ่มความคุ้นเคยกับสินค้า AIoT ด้วยการเปิดโซน AIoT ขึ้นในแบรนด์สโตร์ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ซื้อได้เข้ามาลองสัมผัสสินค้าด้วย

    แต่ที่น่าสนใจที่สุดอาจเป็นการเตรียมเปิดตัวบริการ Door-to-Door Service โดยบริการดังกล่าวจะเป็นการไปรับอุปกรณ์ที่มีปัญหาที่บ้านของลูกค้า และนำไปซ่อมให้ จากนั้นก็จะนำกลับมาส่งให้ที่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ และคงจะมีรายละเอียดตามมา เกี่ยวกับทิศทาง – ค่าใช้จ่ายในการให้บริการดังกล่าว แต่ก็เชื่อว่าจะตอบโจทย์คนไทยที่ต้องการความสะดวกได้มากขึ้น

  • กลยุทธ์สุดท้ายคือการรุกตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์หนักขึ้นในปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นเรือธงอาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการจับมือกับ ไลก้า (Leica) ในการพัฒนาเทคโนโลยี Mobile imaging ร่วมกัน ซึ่ง Xiaomi พบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีการจับมือดังกล่าวประสบความสำเร็จในตลาดจีนค่อนข้างสูง จึงคาดว่าจะมีการเปิดตัวในตลาดไทยเร็ว ๆ นี้เช่นกัน

อินไซต์ “ไทย-จีน” ใกล้เคียงกัน

คุณอเล็กซ์ยังได้เผยด้วยว่า นอกจากการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยและคนจีนที่ใกล้เคียงกันแล้ว อุปกรณ์ AIoT ที่คนไทยให้ความสนใจก็ยังคล้ายกับคนจีนด้วย เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แอร์ที่สั่งการได้ผ่านสมาร์ทโฟน ในจุดนี้ จึงประเมินได้ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้เร็วมากนั่นเอง

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดของไทยในปี 2023 สิ่งที่ผู้บริหารใหม่ Xiaomi มองว่าอาจเป็นความท้าทายคือปัญหาเศรษฐกิจ แต่ก็ยอมรับว่าอาจมีข้อดีจากการที่จีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยกลับมาคึกคัก และปัญหาเศรษฐกิจบรรเทาเบาบางลงได้เช่นกัน

 


แชร์ :

You may also like