HomePR NewsVilla Forest 2,000 ล้าน ลุยอสังหาฯบ้านบึง ชลบุรี ชูคอนเซ็ปต์ ‘บ้านสวนคนเมือง’ [PR]

Villa Forest 2,000 ล้าน ลุยอสังหาฯบ้านบึง ชลบุรี ชูคอนเซ็ปต์ ‘บ้านสวนคนเมือง’ [PR]

แชร์ :

Villa Forest

“แพนพลัสแอสเสท” เปิดเมืองยุคใหม่ด้วยโครงการ วิลล่า ฟอเรสต์ บ้านบึง ชลบุรี มูลค่า 2,000 ล้านบาท ชูจุดขาย “บ้านสวนคนเมือง”

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณธีระธัช รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพนพลัสแอสเสท จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรี ที่มีประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯ มากว่า 25 ปี เปิดเผยว่าได้เปิดตัวโครงการวิลล่า ฟอเรสต์ (Villa Forest) มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาที่ดินบนพื้นที่ 150 ไร่ ในเขตบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ให้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในวิถีธรรมชาติรูปแบบ “บ้านสวนคนเมือง” ภายใต้ปรัชญาของคำว่า บ-ว-ร ที่สะท้อนถึงการพัฒนาชีวิตวิถี-ดี

โครงการนี้ได้พื้นฐานแนวคิดมาจากการพัฒนาเกษตรแบบผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ โครงการโคกหนองนา เป็นต้นแบบการพัฒนาให้เป็นที่อยู่อาศัยวิถี-ดีจากธรรมชาติ ด้วยแบบบ้านที่หลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว และอาคารชุด ให้เหมาะกับแต่ละความต้องการ ซึ่งโครงการประกอบด้วยชุมชนเมืองที่มีทั้งที่อยู่อาศัย ศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติเชิงกสิกรรม (Learning Farmer Centre) และโรงเรียนนานาชาติ Wells International School, Chonburi Campus บนที่ดิน 24 ไร่

“วิลล่า ฟอเรสต์” เป็นการพัฒนาโครงการบ้านสวนภายใต้แนวคิด “วิถี-ดี” ด้วยต้นแบบที่อยู่อาศัย “5 ดี” สะท้อนถึงการอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1. ทำเลดี เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจใหม่ เดินทางสะดวก 2. สิ่งแวดล้อมดี เป็นชุมชนรักษ์ธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน 3.สังคมดี มีความผูกพันและความสัมพันธ์อันดี การแบ่งปันและเกื้อกูลกัน 4. สุขภาพดี การสร้างสรรค์บ้านให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย มีความปลอดภัย และ 5. แรงบันดาลใจที่ดี การริเริ่มเรื่องราวของชุมชน

Villa Forest 2

การออกแบบบ้านทุกหลังจะให้ความสำคัญกับการปรับใช้ทรัพยากรธรรมชาติ “ดิน น้ำ ลม ไฟ” มาผสมผสานและประยุกต์ให้เกิดความสมดุลของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน “ดิน (จากตีนเขา)” คือแหล่งที่อยู่เพื่อใช้เพาะปลูกและก่อกำเนิดของอาหารและแร่ธาตุต่างๆ “น้ำ” คือ ความสมบูรณ์ของใต้ผืนดินที่เป็นเส้นทางน้ำไหลจากใต้ดินสู่ทะเลสาบภายในโครงการ ซึ่งเรียกว่า “ธนาคารน้ำ” เกิดความชุ่มชื่นสดชื่น ที่สำคัญมีประโยชน์มากในการกักเก็บน้ำยามหน้าแล้ง และเพิ่มการระบายน้ำยามน้ำหลาก ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดน้ำท่วมนั่นเอง “ลม” คือ ทิศทางของลมที่พัดผ่านอย่างไร้กำแพงจากแหล่งเขาเขียว ทำให้ชีวิตร่มเย็นสบาย “ไฟ” คือ พลังงานจากแสงอาทิตย์ (เป็นพลังงานสะอาด) ที่สร้างประโยชน์และอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน

“เราต้องการสร้างชุมชน วิลล่าฟอเรสต์ ให้เป็นปอดธรรมชาติแห่งแรกของบ้านบึง ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และระบบนิเวศที่เป็นมิตร”

การพัฒนาแบบบ้านในโครงการนี้ เป็นการร่วมมือกับหน่วยงาน “เอสซีจี” เพื่อพัฒนาบ้านที่เป็นมากกว่าคำว่า “บ้าน” คือออกแบบรองรับชีวิตที่สะดวก ปลอดภัยและปลอดเชื้อโรคหรือมลพิษต่างๆ สำหรบแบบบ้านนั้นจะเป็นแบบทาวน์โฮม ‘แคทรียา’ สไตล์นอร์ดิก หรือบ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น และบ้านเดี่ยวสไตล์วิถีไทย ซึ่งได้รับการปรึกษาและออกแบบโดย เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลิฟวิ่ง แคร์ คอนซัลติ้ง (SCG Building & Living Care Consulting) ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวชั้นเดียว ‘พริมโรส’ บ้านเดี่ยวสองชั้น ‘คาร์เนชั่น’ และบ้านเดี่ยวสองชั้น ‘ทิวลิป’

คุณวีรเลิศ อมิตรพ่าย รองผู้อำนวยการ เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลิฟวิ่ง แคร์ฯ กล่าวว่าคอนเซ็ปต์การออกแบบเป็นไปตามแนวคิดวิถี-ดีของโครงการวิลล่า ฟอเรสต์ ‘บ้านสวนคนเมือง’ เป็นชุมชนของการอยู่อาศัยยุคทันสมัย เลือกใช้เป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้จริง หรือบางส่วนผสมไม้ฉาบปูนเรียบทาสีเอิร์ธโทน สีน้ำตาลและสีเขียว โดยวัสดุทุกอย่างโปร่งแสงโปร่งใส ทำให้ได้รับแสงสว่าง ประหยัดพลังงาน และช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ ตัวบ้านทั้ง 3 แบบ จะเน้นประโยชน์ใช้สอยและและการใช้งานที่ผสมผสานความเป็นวิถีไทยและความทันสมัยอย่างกลมกลืน มีพื้นที่ใช้สอยมาก เพิ่มการทำกิจกรรมกับครอบครัว และปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค โดยเฉพาะในยุคที่ต้องล็อกดาวน์

แนวคิดการพัฒนา Villa Forest แบ่งเป็นสองส่วน คือ 1.Globalization จะมี Club House ที่เรียกว่า Club Tel และมีสระว่ายน้ำยาว 30 เมตร มีศูนย์จัดงานเลี้ยง 2.Localization เป็นท้องถิ่นภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ-ว-ร” ของไทย เป็นทิวทุ่งนา มีโคก มีรีสอร์ท มีพื้นที่ปลูกพืชผักที่ใช้บริโภคได้ เป็นวิถีธรรมชาติที่อยู่ได้ด้วยตัวเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

โดยวิลล่า ฟลอเรสต์ จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพียงหนึ่งเดียวของชลบุรี ที่มีรูปแบบการพัฒนาผสมผสานความเป็นธรรมชาติบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้โครงการมีมูลค่าเพิ่มสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนท้องถิ่น 35% กลุ่มต่างชาติ 35% และคนกรุงเทพฯ 35%

ตัวโครงการส่วนพื้นที่ศูนย์รวมกิจกรรม “วิลล่าฟาร์ม” โรงนาที่เป็นศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ และศูนย์รวมองค์ความรู้ วัฒนธรรม อารยธรรมต่างๆ รวมทั้งศูนย์รวมตำนานของอร่อยของบ้านบึงมาไว้บริการด้วย คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ส่วนการพัฒนาจะทยอยแล้วเสร็จเป็นเฟส 1-2-3-4 โดยจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 3 ปี


แชร์ :

You may also like