HomePR News‘ดุสิตธานี’ ขยายธุรกิจการศึกษา เปิด The Food School ปั้นชุมชนคนรักอาหาร

‘ดุสิตธานี’ ขยายธุรกิจการศึกษา เปิด The Food School ปั้นชุมชนคนรักอาหาร

แชร์ :

The Food School Project
ดุสิตธานี ผนึกพันธมิตรระดับโลก เปิด “เดอะ ฟู้ด สคูล” ผุดโรงเรียนและศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาหารครบวงจรแห่งแรกในไทย มูลค่าโครงการกว่า 336 ล้านบาท ไตรมาส 1 ปี 2565 ตั้งเป้าสร้างชุมชนคนรักอาหาร Food Community ต่อยอดธุรกิจอยู่รอดอย่างยั่งยืน ดันนวัตกรรมอาหารตอบโจทย์วิถีนิวนอร์มอล

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีเตรียมที่จะขยายธุรกิจด้านการศึกษา ด้วยการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรและสถาบันด้านอาหารชั้นนำของโลก เพื่อเปิด The Food School (เดอะ ฟู้ด สคูล) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทั้งศูนย์ฝึกการทำอาหารนานาชาติ และศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรรายแรกในประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสแรกของปี 2565

โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน), บริษัท โกลวฟิช โคเวิร์คกิ้ง สเปซ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เฮอริเทจ เอสเตทส์ จำกัด บริษัทเพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์, บริษัท แอ็ลไลด์ เม็ททัลส์ ผู้ให้บริการอุปกรณ์เครื่องครัวและออกแบบสร้างห้องครัวชั้นนำของเอเชีย และสถาบัน La Scuola Internazionale di Cucina Italiana – ALMA สถาบันและศูนย์ฝึกสอนการประกอบอาหารอิตาเลียนชั้นนำระดับโลก โดยวงเงินลงทุนสำหรับโครงการนี้มีมูลค่ากว่า 336 ล้านบาท

กลุ่มดุสิตธานีและพันธมิตรมีความตั้งใจสร้าง The Food School ให้เป็นชุมชนสำหรับคนรักอาหาร หรือ Food Community ที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากสถาบันสอนประกอบอาหารรายอื่นในตลาด ด้วยการชู 3 จุดเด่น

ประการแรก คือ ไม่ได้เป็นแค่โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร แต่ยังเป็นศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านอาหารด้วย โดยเป็นเจ้าแรกในตลาด ที่นำหลักสูตรและความเชี่ยวชาญของสถาบันสอนประกอบอาหารระดับโลกถึง 3 แบรนด์ ได้แก่ ALMA สถาบันสอนประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดจากอิตาลี TSUJI สถาบันสอนประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 60 ปี และผลิตเชฟที่มีชื่อเสียงมากมายของญี่ปุ่น และวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันสอนประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยมาไว้ที่เดียวกัน

ประการที่สอง ภายในโครงการยังประกอบด้วย พื้นที่ The Test Kitchen (เดอะ เทสต์ คิทเช่น) ที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะประสบการณ์ทางธุรกิจ ที่จะเปิดโอกาสให้คนที่รักการทำอาหาร รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ เข้ามาเช่าใช้ครัวหรืออุปกรณ์ เพื่อพัฒนาสูตร หรือใช้เป็นพื้นที่ทดสอบไอเดีย สร้างอาหารจานใหม่ หรือนวัตกรรมใหม่ ตลอดจนขอรับคำปรึกษาในการวางแผนธุรกิจ หรือขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์

ประการที่สามคือ ใน The Food School ยังมีพื้นที่ในส่วนของ Mini Mall (มินิ มอลล์) ที่จะเปิดให้ร้านค้าจำหน่ายอาหาร ทั้งการขายจริงและการทดลองขาย และยังเป็นพื้นที่รองรับลูกค้าที่จะเข้ามาสังสรรค์ แลกเปลี่ยนไอเดีย หรือมองหาผู้ร่วมทุนได้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือจุดที่แตกต่างจากโรงเรียนหรือสถาบันสอนอาหารแห่งอื่นๆ และทำให้ The Food School เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการแบบครบวงจร

ที่ผ่านมาธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบอย่างมากจากโควิด-19 ทำให้บางร้านต้องปิดกิจการอย่างน่าเสียดาย ขณะพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าก็เปลี่ยนไป มีเรื่องของการใช้บริการฟู้ด เดลิเวอรี่มากขึ้น ธุรกิจอาหารจึงต้องเรียนรู้และปรับตัว จึงเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ควรจะสร้างการเรียนรู้ จึงชักชวนเซลิบริตี้เชฟหรือเชฟที่มีชื่อเสียง มาร่วมงาน เพื่อช่วยเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ของผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ ให้กับผู้ประกอบการมืออาชีพรุ่นใหม่ รวมถึงมือสมัครเล่น หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ และผู้สนใจที่ต้องการเริ่มทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจได้ในต้นทุนที่ต่ำลงและเพิ่มกำไรได้สูงสุด จะทำอย่างไรให้ธุรกิจอาหารสามารถอยู่รอดได้อย่างยั่งยืนทั้งในช่วงเวลาท้าทายในปัจจุบันและเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นในอนาคต มั่นใจว่า The Food School จะสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันยังหวังที่จะใช้โรงเรียนแห่งนี้ในการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ เพื่อมาช่วยสร้างสรรค์แนวคิดด้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ ให้กับกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของดุสิตธานีทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

The Food School จะตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 3,200 ตารางเมตร ที่ Block 28: Creative & Start Up Village ที่เป็นย่าน Startup แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ บริเวณจุฬา-สามย่าน ซึ่งในส่วนของโรงเรียนนั้น นอกจากจะถูกออกแบบและก่อสร้างด้วยอุปกรณ์การครัวที่ทันสมัยแล้ว ยังมีการจัดหาวัตถุดิบที่มาจากการสรรหาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบพื้นถิ่น และวัตถุดิบเกรดพรีเมียมที่นำเข้าจากต่างประเทศมาให้นักเรียนได้ใช้จริง รวมถึงใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบผสมผสานเทคโนโลยีการนำเสนอภาพและเสียง โดยมีหลักสูตรระยะยาวสำหรับมืออาชีพด้านอาหารไทย ญี่ปุ่น อิตาเลียน รวมถึงการทำขนมอบเบเกอรี่ และหลักสูตรระยะสั้น ที่จับกระแสเทรนด์อาหารใหม่ๆ


แชร์ :

You may also like