HomeBrand Move !!เจาะเส้นทาง WeTV โตอย่างไรในวันที่คนไทย 70% อยากจ่ายเงินชมคอนเทนต์แบบไม่มีโฆษณา

เจาะเส้นทาง WeTV โตอย่างไรในวันที่คนไทย 70% อยากจ่ายเงินชมคอนเทนต์แบบไม่มีโฆษณา

แชร์ :

vdo streaming media

เป็นอีกยุคที่แอปพลิเคชันด้านสตรีมมิ่งมีการเติบโตสูง เห็นได้จากข้อมูลของ Contentgrip ที่พบว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้เวลารับชมคอนเทนต์ในลักษณะดังกล่าวมากถึง 180 ล้านคน หรือคิดเป็น 31% ของประชากร โดยมีการรับชมเฉลี่ย 150 นาทีต่อวัน และในช่วง Covid-19 ระบาด Contentgrip ก็พบว่าการรับชม OTT เพิ่มขึ้นถึง 57% เลยทีเดียว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สำหรับประเทศไทย ต้องบอกว่ามีการเติบโตด้าน OTT ที่น่าสนใจเช่นกัน โดยข้อมูลจาก We are social และ Hootsuite ระบุว่า ปัจจุบัน ไทยมีผู้เล่นด้าน OTT มากกว่า 20 ราย และผู้ใช้งานในไทยใช้เวลารับชมคอนเทนต์เฉลี่ย 3 ชั่วโมง 30 นาทีต่อวัน (มีการดูรายการในวันหยุดมากกว่าวันทำงาน) โดยมากกว่า 70% มีความตั้งใจจะจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงคอนเทนต์ที่ต้องการ

แน่นอนว่าการพบอินไซท์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำให้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งให้ความสำคัญ และเตรียมแผนบุกตลาดไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีความพร้อมก็คือ WeTV แอปพลิเคชันสตรีมมิ่งจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่บอกว่าในวันนี้ พวกเขามีผู้ใช้งานรายเดือนในไทยมากกว่า 13 ล้านคนแล้ว และมียอดการรับชมเฉลี่ย 120 นาทีต่อวัน โดยในจำนวนนี้ 25% เป็นผู้ใช้บริการแบบ VIP (สมัครสมาชิก)

คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และการขาย และผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันแนวโน้มการรับชมคอนเทนต์บน OTT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมของ WeTV ในประเทศไทยพบว่า ในช่วงมกราคมถึงสิงหาคมของปี 2021 WeTV มียอดผู้ใช้งาน DAU เพิ่มขึ้นถึง 63% จากปี 2020 และยังเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand – AVOD) และเป็นอันดับ 2 ในส่วนของผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิก (Subscription Video On Demand – SVOD) โดยใน 6 เดือนแรก WeTV มียอดผู้ใช้งานรายเดือน (MAU) เฉลี่ยสูงถึง 13 ล้านคน”

คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และการขาย และผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย)

คุณกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และการขาย และผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย)

ไม่เพียงเท่านั้น การเติบโตของ WeTV ในระดับภูมิภาคก็สามารถชิงส่วนแบ่งมาได้ไม่น้อย เห็นได้จากการที่คุณไคเชิน ลี Head of WeTV and IFlix ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า WeTV ในระดับ Global มียอดผู้ใช้งานรายเดือน (Monthly Active Users หรือ MAU) มากกว่า 45 ล้านราย (มกราคม-สิงหาคม 2021) ยอดชมวิดีโอมากกว่า 25 ล้านวิวต่อวัน

“จำนวนผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิกของ WeTV ยังเติบโตขึ้นมากกว่า 150% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยตลาดสำคัญจะอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำโดยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม”

ตั้งเป้าเป็นเบอร์ 2 ภายในปี 2023

wetv 03

จากทิศทางการเติบโตดังกล่าว ตลอดจนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ WeTV ออกมาประกาศแผนรอบใหม่ ตั้งเป้าเติบโต เท่า เพื่อขึ้นเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในปี 2023

แต่จะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร นี่อาจเป็นสิ่งที่ต้องฟังจากผู้บริหาร โดยในมุมของประเทศไทย คุณกนกพรกล่าวว่า จะให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3X ประกอบด้วย Expansion, Extra Experience และ Exclusivity

“เราพบว่า กลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ของ WeTV จะเป็นผู้หญิง 70% และผู้ชมกลุ่มหลักมีอายุเฉลี่ย 18-24 ปี มีสัดส่วน 29% และ 25-34 ปี มีสัดส่วน 26% สำหรับประเภทของคอนเทนต์ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่นใน WeTV ได้แก่ คอนเทนต์จีน มีอัตราการเติบโตถึง 137% คอนเทนต์ไทย 40% และคอนเทนต์อนิเมะ 93% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

WeTV Always More 2022

Expansion จับมือข้ามอุตสาหกรรม

สิ่งที่ WeTV จะทำต่อไปก็คือการขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ในทุกมิติ โดยคุณกนกพรกล่าวว่าจะมีการเพิ่มคลังคอนเทนต์ทั้งซีรีส์จีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ขยายพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มอนิเมะที่เป็นคอนเทนต์ที่กำลังมาแรง ซีรีส์วาย รายการวาไรตี้ และอีสปอร์ต ควบคู่กับจับมือพันธมิตรทั้งพันธมิตรกลุ่มสถานีโทรทัศน์ เช่น สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรในกลุ่ม Telco กลุ่มบริการชำระเงิน กลุ่ม OTT Device เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับชมออนไลน์ และอำนวยความสะดวกในการชำระค่าบริการให้แก่ผู้ชมมากขึ้นด้วย 

ส่วนไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจเดลิเวอรี่ หรือการแลกคะแนน ฯลฯ ทาง WeTV ก็มีการจับมือด้วยเช่นกัน และที่ลืมไม่ได้ก็คือการใช้ช่องทางของพันธมิตรในเครือเทนเซ็นต์ ประเทศไทย อย่าง Sanook, JOOX, PUBG MOBILE และ WeComics ในการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ด้วย 

Extra Experience สร้างประสบการณ์เฉพาะบน WeTV

X ตัวต่อไปคือเรื่องของประสบการณ์ในการรับชม ที่คุณกนกพรเผยว่า WeTV มีฟีเจอร์เด่นเฉพาะตัว เช่น ฟีเจอร์ Flying comment ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงด้วยยอดโตกว่า 3 เท่า และมีจำนวนคอมเมนต์ถึงกว่า 1.5 ล้านคอนเมนต์ต่อเดือน ฟีเจอร์ Ins-screen ฟีเจอร์ Vote ฟีเจอร์พิเศษกับการสะสม “VIP Digital Gift Card” เพื่อมอบเป็นของขวัญให้เพื่อน ๆ ฟีเจอร์ Fast Track ที่มียอดใช้เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 4 เท่าจากปี 2020 และฟีเจอร์ Rent การเช่าชมคอนเทนต์พิเศษบนแพลตฟอร์ม การจัดกิจกรรมแฟนมีตติ้ง ฯลฯ

Exclusivity

X ตัวสุดท้ายคือ Exclusivity ที่ WeTV บอกว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะมีการเปิดตัว WeTV ORIGINAL ที่เกิดจากการจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอนเทนต์ชั้นนำของประเทศไทย พัฒนาออริจินัลคอนเทนต์ทั้งหมด 13 เรื่อง รวมถึงการรับชมคอนเทนต์เป็นที่แรก (First Run) บนแพลตฟอร์มด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยงบประมาณของ WeTV ORIGINAL ให้ทราบแต่อย่างใด

ส่วนกลยุทธ์ 3X ที่กล่าวมานี้จะทำให้ WeTV เติบโตไปสู่เป้าหมายที่ต้องการอย่างการเป็นเบอร์ 2 ของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้หรือไม่นั้น ปี 2023 เราอาจเห็นภาพชัดเจนขึ้น

Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand

 


แชร์ :

You may also like