หุ่นยนต์ที่ Walmart นำมาใช้งาน (ขอบคุณภาพจาก Bossa Nova ผู้พัฒนาหุ่นยนต์ดังกล่าว)
กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในยุค Covid-19 สำหรับการยกเลิกทดสอบหุ่นยนต์เช็คสต็อกของค่ายบอสซาโนวา โรโบติกส์ (Bossa Nova Robotics) กับห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่วอลมาร์ท (Walmart) เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อวอลมาร์ทให้เหตุผลว่าพนักงานมนุษย์ก็ยังสามารถทำงานได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องจ้างหุ่นยนต์อีกต่อไป ซึ่งการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ส่งผลให้ทางบอสซาโนวา โรโบติกส์ ต้องเลย์ออฟพนักงานไปถึง 50% เลยทีเดียว
โดยวอลมาร์ทเริ่มทดสอบหุ่นยนต์เช็คสต็อกของบอสซาโนวาตั้งแต่ปี 2017 ใน 50 สาขาก่อนจะขยับขยายเป็น 500 สาขาในปีที่ผ่านมา และเมื่อต้นปีนี้ ทางบอสซาโนวาบอกว่า บริษัทมีแผนจะขยายเพิ่มเป็น 1,000 สาขาด้วย ทว่า การระบาดของ Covid-19 ทำลายความหวังนั้นไปทั้งหมด เพราะเมื่อไวรัสทำให้เมืองต้องล็อกดาวน์ และผู้คนหันไปช้อปปิ้งออนไลน์แทน หุ่นยนต์ที่จะคอยตรวจเช็คสินค้าตามชั้นวางก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ตรงกันข้ามกับพนักงานมนุษย์ที่ไม่เพียงเช็คสินค้าได้ แต่ยังสามารถเดินไปหยิบของตามชั้นวาง นำมาแพ็กส่งให้ลูกค้าได้
โดยตัวแทนของวอลมาร์ทกล่าวแต่เพียงว่า บริษัทได้เรียนรู้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาช่วยงาน และพร้อมจะทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่อไป รวมถึงลงทุนเพื่อให้สามารถตรวจสอบสินค้าบนชั้นวางได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
ขณะที่ค่ายบอสซาโนวาบอกว่า บริษัทไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับวอลมาร์ทได้ และยอมรับว่าบริษัทในตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงการดำเนินงานที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ซึ่งรวมถึงการเลิกจ้างพนักงานด้วย
งานนี้ยังทำให้เห็นด้วยว่า ระบบออโตเมชั่นที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของโลกในยุคก่อนโควิด-19 อาจไม่ได้เติบโตในทุกอุตสาหกรรม เพราะอย่างน้อย ๆ ธุรกิจค้าปลีกก็อาจไม่ใช่ตลาดที่พร้อมจะลงทุนในออโตเมชั่นในตอนนี้แล้วนั่นเอง