แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เดินหน้าการลงทุนตามแผน 5 ปี (2563-2567) มูลค่า 50,000 ล้านบาท ทั้งแผนการพัฒนาโรงแรมใหม่ ๆ และปรับปรุงโรงแรมเดิมภายใต้ความร่วมมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลกรวม 10 โครงการ ธุรกิจค้าปลีก “เอเชียทีค” ปรับโฉมใหม่เปิดตัว “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา ปั้น “พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ” ศูนย์กลางการค้านานาชาติของอาเซียน
คุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่าแม้ปีนี้ต้องเจอกับสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ 5 ปี (2563-2567) ด้วยงบลงทุนต่อเนื่อง 50,000 ล้านบาท ทั้งกลุ่มโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าและสถานที่ท่องเที่ยวแนวไลฟ์สไตล์ของไทย
ธุรกิจรีเทล
นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นเรื่องสุขอนามัยตามมาตรฐานวิถีชีวิตใหม่ และยกระดับประสบการณ์ในเรื่องของการกินดื่ม การท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจให้เหนือชั้นมากขึ้น AWC ยังพัฒนาแพลตฟอร์ม Omni Channel ซึ่งเป็นช่องทางการตลาดใหม่ที่ผสมผสานช่องทางการสื่อสารทั้งออน์ไลน์และการขายหน้าร้าน (Offline) เพื่อสร้างประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยที่ไร้รอยต่อ สะดวกและรวดเร็ว สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคปัจจุบัน
โดยได้มีการร่วมมือกับแพลตฟอร์มการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลกมาช่วยเพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่ายของแต่ละโครงการ รวมถึงวางแผนในการสร้างแพลตฟอร์ม E-Commerce ในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการของ AWC และพันธมิตร ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทและแอปพลิเคชันอย่าง AWC Connext ในอนาคตอีกด้วย
พร้อมทั้งปรับโฉมใหม่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ด้วยงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Heritage Alive” สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของที่ตั้งของเอเชียทีคในฐานะพื้นที่เก่าแก่บนถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของกรุงเทพฯย่านสำคัญทางเศรษฐกิจ และเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีสามองค์ประกอบสำคัญที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ คือ “เรือสิริมหรรณพ” แลนด์มาร์คใหม่ริมน้ำเจ้าพระยา “Living Museum & Art Festival” สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ใช้วิธีการนำเสนอด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ และ “New Mega Riverside F&B Destination” ตอบโจทย์ทุกสไตล์และความชอบของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
ธุรกิจโรงแรม
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา AWC ได้ลงนามความร่วมมือกับผู้บริหารโรงแรมระดับโลกต่าง ๆ เช่น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป รวมทั้งเปิดโรงแรมใหม่กับ มีเลีย โฮเทลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และบันยันทรี
โดยปีนี้ AWC มีทรัพย์สินที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น 18 โครงการ (จาก 14 โครงการในปีที่แล้ว) ด้วยจำนวนห้องรวมทั้งสิ้นกว่า 4,941 ห้อง ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วประเทศไทย ตลอดจนลงนามความร่วมมือกับ Adrian Smith + Gordon Gill Architecture (AS+GG) บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก เพื่อร่วมพัฒนาแลนด์มาร์คสถาปัตยกรรมอาคารสูงระดับไอคอนแห่งใหม่ของไทยที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
นอกจากนี้ AWC ยังได้ริเริ่มแนวคิดใหม่ในการนำบริการอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมจากโรงแรมชั้นนำมาให้บริการนอกโรงแรมเป็นครั้งแรก โดยร่วมมือกับโรงแรม แบงค็อก
แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค นำบริการห้องอาหารและบาร์เครื่องดื่มมาเสิร์ฟภายใต้บรรยากาศที่เหนือระดับบนเรือสิริมหรรณพ ซึ่งเทียบท่า ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
ธุรกิจอาคารสำนักงาน
AWC มีแผนการพัฒนาอาคารสำนักงานในเครืออย่างต่อเนื่อง ให้รองรับการใช้ชีวิตของคนทำงานยุคใหม่ โดยอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์อยู่ระหว่างการพัฒนาสร้างจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์แบบรูฟท๊อป (Rooftop Destination) ใจกลางถนนสาทร
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวแพ็กเกจ AWC INFINITE LIFESTYLE รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถี New Normal ทั้งการทำงานและการพักผ่อนแบบ “Work from Anywhere” ที่รวบรวม “ออฟฟิศ – บ้าน – โรงแรม – ศูนย์การค้า” ไว้ในที่เดียวกัน จากทุกโครงการในเครือ AWC ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ที่ตั้งในศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวชั้นนำทั่วประเทศ
ธุรกิจพื้นที่ค้าส่ง
สำหรับกลุ่มธุรกิจพัฒนาพื้นที่ค้าส่ง AWC วางเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งนานาชาติขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงการส่งออกและนำเข้าสินค้าของภูมิภาคผ่านโครงการ “AEC Trade Center Pantip Pratunam” ศูนย์กลางการค้าส่งครบวงจรใจกลางเมืองแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยพื้นที่รวมกว่า 30,000 ตร.ม. ของพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
AEC Trade Center Pantip Pratunam จะเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการทั้งผู้ส่งออก ผู้ผลิต และผู้นำเข้าสินค้า เข้าใช้โดยไม่คิดค่าบริการเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในการขยายช่องทางการค้าส่งในประเทศไทย และเชื่อมโยงผู้ประกอบการค้าส่งไทยกับตลาดค้าส่งนานาชาติในอนาคต อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกต่างๆ และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถจัดหาสินค้าหลากหลาย เช่น สินค้ากลุ่มเวลเนส (Wellness) เคหะภัณฑ์ (Houseware) อุปกรณ์ตกแต่งภายใน อาหาร เครื่องปรุง และของเล่น ได้ครบจบในที่เดียวแบบ “One Stop Shopping” ในราคาต้นทาง
นอกจากนี้ AWC ยังได้ประกาศลงนามในความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาการค้าและการลงทุนและรัฐวิสาหกิจของจีน 4 องค์กร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ AEC Trade Center Pantip Pratunam และผลักดันให้ AEC Trade Center เป็นโครงการแฟลกชิพสำหรับการค้าส่งในการส่งเสริมการส่งออกและนำเข้าเพื่อสร้างให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งของภูมิภาคอย่างแท้จริง
พร้อมทั้งได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรด้านการค้าการลงทุนระดับชาติของจีน 2 ฉบับ
1. การลงนามกรอบความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อเชื่อมโยงตลาดจีนและอาเซียนแบบครบวงจรผ่าน AEC Trade Center เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าส่งของภูมิภาค และเสริมความแข็งแกร่งให้ AEC Trade Center เป็นศูนย์รวมผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการค้าส่งระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ด้วยการสนับสนุนทางด้านความรู้ เทคโนโลยีต่างๆ และเชื่อมโยงเครือข่ายการค้าที่สำคัญในประเทศจีน เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในการทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกกับประเทศจีน และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเติบโตได้ในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการจัดหาสินค้าของภูมิภาค (Sourcing hub of the region) เพื่อตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้ผลิต
ผู้กระจายสินค้า และผู้ประกอบการที่สามารถหาสินค้าหลายหลาย ครบครัน ในราคาต้นทาง พร้อมเครือข่ายออนไลน์เพื่อการค้า เปรียบเทียบราคา และการจัดส่ง แบบครบวงจร
การลงนามครั้งสำคัญนี้เป็นความร่วมมือกับ 3 พันธมิตรสมาคมพัฒนาการค้าการลงทุนของจีน ประกอบด้วย สมาคมผู้ส่งสินค้าแห่งประเทศจีน (China Shippers’ Association), สมาคมการลงทุนแห่งประเทศจีน (Emerging Industry Center of Investment Association of China) และสมาพันธ์ธุรกิจภายใต้นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและเขตการค้าเสรี (Belt & Road Investment and Free Trade Alliance: B&R IFTA)
2. การลงนามความร่วมมือกับ Zhejiang China Commodities City Group Co., Ltd. (CCC Group) รัฐวิสาหกิจผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู (Yiwu) ประเทศจีน ในโครงการนำร่อง AEC Trade Center Pantip Pratunam ที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ด้วยการจัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าคุณภาพคัดสรร “Yiwu Selection Thailand Showcase” และศูนย์ให้บริการด้านการส่งออกไปยังประเทศจีน “IC Mall” เพื่อช่วยเชื่อมโยงช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ส่งออกไทยที่ต้องการจะส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน
การดำเนินธุรกิจในอนาคต AWC ให้ความสำคัญในเรื่องของ Customer Centric ซึ่งยึดเอาความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสอดคล้องกับเทรนด์และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค และเดินหน้าตามแผนพัฒนาโครงการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นำเอาจุดแข็งของพอร์ทโฟลิโอที่หลากหลายทั้งในด้านกลุ่มธุรกิจและที่ตั้งโครงการมาใช้ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ให้กับกลุ่มลูกค้าต่างๆ อย่างครบวงจร